การเดินทางของ ANELLO ความนิยมที่มากกว่า Fast fashion

กลายเป็นแรร์ไอเท็มยอดฮิตที่ต้องไปสอยมาไว้ในความครอบครองสำหรับ กระเป๋าแบรนด์ฮิตจากญี่ปุ่น ANELLO  ที่ติด Wist list อันดับต้นๆเมื่อไปเยือนแดนปลาดิบกันทีเดียว

อเนลโล่ (anello)

ด้วยสไตล์มินิมอล สีพื้นๆแต่ดูชิค แมตซ์เข้ากับไลฟ์สไตล์การแต่งตัวได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้ ANELLO ฮิตติดลมบนในหมู่วัยรุ่นนักศึกษาและเหล่า ฮิปเตอร์ ทำให้ ANELLO กลายเป็นแบรนด์กระเป๋าที่โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นและดังไกลมาจนเมืองไทยทั้งที่เริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีแม้แต่หน้าร้าน

จุดเริ่มต้นของการเดินทางของ ANELLO เริ่มขึ้นในปี 2005 ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายของ Carrot Company ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินธุรกิจ ผลิตและจัดจำหน่ายกระเป๋ารายเล็ก เน้นการขายส่งให้ลูกค้าเหมาไปขายต่อ โดยเริ่มจากแบรนด์ legato largo ซึ่งก็ยังไม่บูมเท่าไหร่
หนึ่งปีต่อมา วัยรุ่นญี่ปุ่นเริ่มให้ความสนใจสไตล์ Casual ทำให้Carrot Company หันมาจับกลุ่มนี้โดยออกแบรนด์ ANELLO ภายใต้คอนเซ็ปต์ การออกแบบที่เรียบง่าย ไม่เฉพาะเจาะจง ทั้งเพศ วัย และการใช้งาน ทำใกระเป๋าภายใต้แบรนด์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย และสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่ปากกระเป๋าที่สามารถเปิดได้กว้างเป็นพิเศษจากโครงเหล็กบริเวณปากกระเป๋า นำหนักเบา ผลิตจากผ้าอย่างดีที่กันได้ทั้งน้ำและฝน แถมยังมีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลากสีสัน หลายขนาด และที่สำคัญราคาไม่สูงเว่อร์ วัยรุ่นเข้าถึงได้ จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวญี่ปุ่นหรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่เข้ามา จนกลายเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว

อเนลโล่ (anello)

จาก Local brand สู่ Inter brand ยอดนิยมที่มากกว่าคำว่า Fast fashion

จุดพีคที่สุดของแบรนด์ เริ่มขึ้นเมื่อ ANELLO คลอดกระเป๋ารุ่นใหม่ Mouthpiece ที่ดีไซด์โดดเด่น แปลกใหม่ มีสีสันมากกว่าเดิม และยังเป็นรุ่นที่ฮิตกันมาจนถึงปัจุบัน จากจุดเริ่มต้นความฮิตเมื่อ 5 ปีก่อนและยังฮิตมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากสินค้า Fast fasionทั่วไปที่มักจะนิยมกันในช่วงเวลาสั้น ทำให้น่าคิดว่าอะไรที่ทำให้ ANELLO ยังคงอยู่ในกะแสอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าคำตอบของคำถามนี้ไม่ได้อยู่แค่การขยายตลาดต่างประเทศเท่านั้น แต่อยู่ที่ตัวโพรดักซ์ที่ ANELLO ขยันออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า200 แบบต่อปีเพื่อกระตุ้นตลาดและความอยากได้ของผู้บริโภค ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่กระเป๋าเป้ ซิกเนเจอร์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ๆทั้ง กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าสะพายสำหรับสุภาพสตรี แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือสะดวกใช้งานในทุกกลุ่ม

ความนิยมที่ไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย ทำให้ANELLO ตัดสินใจขยายตลาดอย่างจริงจังในรูปแบบของหน้าร้านเป็นของตัวเอง ในหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว และโอซาก้า เพื่อเพิ่มการเข้าถึง และที่สำคัญป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบนั่นเอง เพราะสินค้ายิ่งดัง สิ่งที่ตามมาคือ การก็อปปี้แบรนด์ที่ ANELLO ต้องเผชิญไม่ต่างจากแบรนด์ชื่อดังแบรนด์อื่นๆ
และความฮิต ของ ANELLO ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศญี่ปุ่นแต่ยังแพร่กระจายไปทั่วโลก พร้อมกับการทำตลาดใน15 ประเทศทั่วโลก โดยในเอเชีย ANELLO ได้เปิดตลาดอย่างเป็นทางการไปแล้ว 7 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย

อเนลโล่ (anello)

ขุมทรัพย์ของ ANELLO

อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวชาวไทย อะไรที่ญี่ปุ่นฮิต คนไทยก็มักจะฮิตตามรวมทั้ง ANELLO เองก็เช่นกัน สิ่งที่ตอกย้ำความชื่นชอบญี่ปุ่น และความนิยมในแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง ANELLO ดูได้จากยอดขายในประเทศไทยที่ติดอันดับที่ 1 จากตัวแทน Distributor ทั่วโลก
ในระยะเวลาเพียง 5เดือนที่ ANELLO เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยภายใต้การนำเข้าลิขสิทธิ์ของบริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดใหญ่อันดับ2รองจากญี่ปุ่น และสามารถทำรายได้พุ่งทยานเทียบเท่ายอดขายในฮ่องกงที่ทำตลาดมาแล้วกว่า 5 ปี
ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงไม่แปลกใจเลยที่ทาเคชิ โยชิดะ ประธานกรรมการจาก Carrot Company เจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังประเทศญี่ปุ่น จะให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ และค่อนข้างให้อิสระในการทำตลาดในเมืองไทยกับไมเนอร์

อเนลโล่ (anello)
และในปีนี้ ANELLO ภายใต้การทำตลาดของ จะเร่งเครื่องขยายสาขาให้ครบ53 สาขา จากเดิมที่อยู่แล้ว39สาขา กับงบลงทุน 20 ล้านบาท แถมยังตั้งใจจะขยายให้ครบ 70 สาขา กับเป้ารายได้ 1000ล้าน ใน 6 โมเดล ได้แก่ สแตนด์อะโลน คอร์เนอร์ในห้างสรรพสินค้า สนามบิน คีออสก์ในโรงแรม ภายใน 5 ปี
ที่สำคัญ สาวก ANELLO ชาวไทยคงต้องเตรียมควักกระเป๋าครั้งใหญ่ เพราะแว่วมาว่า ANELLO ได้เปิดตัว “anello water resistant” ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่จะวางขายในประเทศไทยเป็นที่แห่งของโลก ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงและลากยาวไปจนถึงหน้าฝนนี้