Work from Home โตต่อเนื่อง 10 ปีที่ผ่านมา การทำงานทางไกล เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า

อย่างที่เราทราบกันผลลัพธ์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และการถดถอยทางเศรษฐกิจจากการะบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการทำงานรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็น Work from Home หรือการช้อปปิ้งใน E-commerce แบบภาคบังคับ ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในระดับที่ไม่เคยมีการมาก่อน แต่สิ่งที่ท้าทายไปกว่านั้นก็คือ ความเป็นอยู่ของคนทำงานที่ต้องดิ้นรนปรับตัวภายใต้บริบทใหม่ของการทำงาน พร้อมกับหลักฐานใหม่ซึ่งระบุว่า ประมาณ 44% ของคนทำงานในปัจจุบันสามารถทำจากทางไกลได้ และ 24% ไม่สามารถทำได้ แต่โดยภาพรวมแนวโน้มในอนาคตการทำงานจากทางไกลมีโอกาสขยายตัวขึ้น แต่เมื่อลงไปดูในรายละเอียดก็พบว่า การทำงานทางไกลซึ่งสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจได้ประมาณ 38% อยู่ในประเทศที่มีรายได้สูง 25% อยู่ในกลุ่มกลางบน 17% อยู่ในกลุ่มกลางล่าง 13% อยู่ในกลุ่มประเทศยากจน

แต่เมื่อมีการนำปัจจัยสำคัญต่อการทำงานทางไกลอย่างอินเทอร์เน็ตเข้ามาคำนวณก็พบว่า ตัวเลขเหล่านี้ส่วนใหญ่ลดลงไปอีก โดยประเทศที่มีรายได้สูงอยู่ที่ 33.6% กลุ่มประเทศกลางบนเป็นกลุ่มเดียวที่เพิ่มขึ้นคือ 17.8% กลุ่มกลางล่าง 10% และกลุ่มประเทศยากจนเหลือเพียง 4% เท่านั้น เมื่อเจาะลึกลงไปก็พบว่า ราว ๆ 60% ของคนทำงานในประเทศที่มีรายได้สูงอย่างสหรัฐอเมริกาหรือสวิตเซอร์แลนด์ ไม่สามารถ Work from Home ได้แบบ 100% และตัวเลขเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นไปถึง 80% – 90% เลยทีเดียวสำหรับประเทศอย่างบังกลาเทศและอียิปต์ ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถทำงานทางไกลได้มากที่สุดคือ กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน ประกัน บริการด้านข้อมูลข่าวสาร และความเชี่ยวชาญเฉพาะ ด้านธุรกิจที่พัก บริการอาหาร เกษตรกรรม ค้าปลีก ก่อสร้าง การขนส่ง และคลังสินค้ามีโอกาสน้อยมากที่จะทำงานทางไกลได้ ขณะประมาณ 47% ของคนที่อยู่ในธุรกิจที่พัก และบริการด้านอาหาร 15% ค้าปลีกและค้าส่ง และอีก 15% บนธุรกิจขนส่งอยู่ในความเสี่ยงที่จะตกงาน

และก็อย่างที่ได้บอกไปว่า แนวโน้มการทำงานจากที่บ้านจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยตัวเลขจากแพลตฟอร์มออนไลน์ Glassdoor ที่เปิดเผยออกมาพบว่า นับตั้งแต่ปี 2011 การทำงานทางไกลเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 28% ไปสู่ 54% โดย 74% ของคนที่ทำงานแบบ Work from Home อยู่ในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรมประกัน โดยกลุ่มผู้นำทางธุรกิจจำนวนกว่า 78% เผยว่า การทำงานทางไกลในตอนนี้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานในระดับหนึ่ง และ 22% บอกว่าส่งผลกระทบรุนแรงต่อประสิทธิภาพการทำงานในปัจจุบัน มีเพียงแค่ 15% เท่านั้นที่บอกว่าไม่มีผลกระทบหรือมองว่ามีผลกระทบด้านบวก จากการวิเคราะห์เชื่อว่ามีสาเหตุมาจาก 3 ปัจจัยนี้

1.การทำงานทางไกลในตอนนี้กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่างความตึงเครียดและความกังวลต่อความเสี่ยงของชีวิตและสุขภาพ

2.คนทำงานเหล่านี้มีลูกต้องเลี้ยง พร้อมต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการที่โรงเรียนไม่สามารถเปิดเรียนได้ ทำให้ลูกต้องอยู่บ้านและเรียนออนไลน์ ซึ่งนำไปสู่การต้องใช้เวลาทำงานบางส่วนมาดูแลลูก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่คงที่หรือสูงขึ้นแต่รายได้กลับลดลง

3.หลายบริษัทได้ตั้งกลุ่มการทำงานทางไกลและสร้างเครื่องมือเพื่อรองรับการทำงานในลักษณะนี้แล้ว เพื่อรับมือสภาวะความเครียดของคนทำงานรวมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา แม้หลายบริษัทยังเชื่อว่าแม้ในระยะสั้นจะมีปัญหา แต่ในระยะยาวแล้วนี่จะเป็นรูปแบบการทำงานแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

แต่ขณะเดียวกันการทำงานทางไกลหรือที่บ้านในขณะนี้ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านเท่านั้น ทำให้ยังมีอุปสรรคอยู่อีกมากสำหรับการจะทำให้การทำงานในลักษณะนี้มีความสมบูรณ์เพื่อรองรับให้คนทำงานสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ดูได้จากตัวเลขของทาง Edelman Data & Intelligence ซึ่งเปิดเผยออกมา พบว่า กลุ่มผู้นำธุรกิจ (เจ้าของธุรกิจ) เป็นกลุ่มเดียวที่มีอัตราการทำงานทางไกลประสบความสำเร็จมากกว่า 50% ที่เหลือไม่มีกลุ่มไหนถึงเลย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเจอนเลชั่น แซด ที่ว่ากันว่ามีความยืดหยุ่นในด้านเทคโนโลยีสูงก็มีอัตราความสำเร็จเพียงแค่ 40% รวมไปถึงกลุ่มคนทำงานระดับปฏิบัติการแนวหน้าก็มีตัวเลขอยู่ที่ 39% เท่านั้น

เพราะฉะนั้นนี่คือโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถพัฒนา Solution ใหม่เพื่อมาตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาอุปสรรคในด้านนี้ให้กับองค์กร ปัจจุบันหนึ่งในผู้ให้บริการ Solution ด้านนี้ของประเทศก็มี Fusion Advantec และ VMware โดยพวกเขามี Solution สำหรับ Remote Workforce , Unified Endpoint Management , ตลอดจน Tool แบบ Automation มาช่วยงานองค์กรของลูกค้า ภายใต้บริการใหม่ล่าสุดที่มี Integrated Technology ที่ดีที่สุดด้าน Work from Anywhere ของตลาดในเวลานี้

บริการที่ 1

VMware Workspace ONE ซึ่งเป็นบริการที่จะช่วยบริหารจัดการเครื่องของพนักงานปลายทาง แบบ Unified Endpoint Management (แพลตฟอร์มการจัดการแบบอัตโนมัติที่ได้รวบรวมกระบวนการต่างๆ ในการสนับสนุนทั้งอุปกรณ์เคลื่อนที่และเครื่อง PC ปลายทาง ที่จะมาช่วยให้องค์กรสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับ User ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น) ซึ่งมีการบริหารจัดการเครื่อง Endpoint (อุปกรณ์ปลายทาง) ขององค์กรทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดตัวตนผู้ใช้งาน บริหารจัดการด้านทรัพย์สินขององค์กร , กำหนดนโยบายตามความจำเป็นในการใช้งาน, แยกแยะการเข้าถึงไฟล์งาน รวมไปถึงการบริหารจัดการ Email ในรูปแบบเดียวกันในองค์กร ไม่ว่าจะใช้ ผ่าน Mobile , Tablet , PC win10 Management , Notebook สามารถกำหนดความเป็นเจ้าของได้ทั้งนโยบายของ COD (เครื่องที่องค์กรซื้อให้ใช้งาน) หรือ BYOD (เครื่องส่วนตัวนำมาใช้ในองค์กร) บริหารจัดการง่าย เพียง Console เดียว แบบบริหารจัดการแบบศูนย์กลาง (Centralize Management)

บริการที่ 2

Vmware Workspace ONE Access เป็น Solution กำหนดการเข้าใช้งานของ User หรือเครืองปลายทางขององค์กรด้วยการทำ Single Sign On สร้างเงื่อนไขการเข้าใช้ตาม นโยบาย และ การยินยอม ขององค์กรในการเข้าใช้ แอปพลิเคชั่น นั้น ๆ และยังสามารถกำหนดการใช้งานอุปกรณ์ และแจ้งเตือน แอดมิน ผู้ดูแลระบบได้ หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ หรือไม่ตรงกับ การยินยอม ของผู้ดูแลระบบที่วางไว้

บริการที่ 3

VMware Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เป็นการสร้างการทำงานของ PC ในรูปแบบของ Virtual ขึ้นมาเพื่อให้เครื่องของพนักงานปลายทางทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เสมือนนั่งอยู่ในสำนักงาน โดยเบื้องหลังการทำงานของข้อมูลมีการ Encrypt (การสร้างรหัสลับ) ข้อมูลไว้ที่ Datacenter ของหน่วยงาน จะออกแบบไว้ใน On Premise (การใช้ระบบ IT โดยระบบจะตั้งอยู่ในสถานที่ของเจ้าของระบบ และมีการดูแลรักษาระบบด้วยตัวเอง) หรือ On Cloud ลูกค้าสามารถปรับให้เข้ากับนโยบายขององค์กรได้ VMware Horizon สามารถบริหารจัดการให้องค์กรของท่านได้หมด ไม่ว่าจะเป็น Mobile , Tablet , PC , Notebook รวมไปถึง การใช้ของ Thin Client (Thin Client คือ คอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งที่เรียกใช้ทรัพยากรที่จัดเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง (central server) แทนที่จะเป็นฮาร์ดไดรฟ์ของตัวเอง Thin Client ทำงานโดยการเชื่อมต่อจากระยะไกลกับระบบการประมวลผลกลางบนเซิร์ฟเวอร์ซึ่งทำหน้าที่จัดเก็บแอปพลิเคชันและข้อมูล) และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ

การใช้งานของเครื่องปลายทางแสดงผลเพียง Screen ภาพตาม นโยบาย ที่องค์กรกำหนด และยังช่วยด้าน DLP ปกป้องข้อมูลขององค์กรอีกด้วย สะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการบริหารจัดกับเครืองปลายทางจำนวนมาก และให้ความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรได้อย่างครบครัน เป็น Solution เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัย และแผนรองรับการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างดี สำหรับ VDI ของ Vmware Horizon

บริการที่ 4

Vmware Workspace ONE Intelligent เป็น Solution ต่อยอดให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ในรูปแบบการทำงานแบบ Automation ในด้าน Workflow ซึ่งจะเป็นเสมือนผู้ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องปลายทางได้ง่ายยิ่งขึ้น ตั้งแต่การลงทะเบียนอุปกรณ์ใหม่ การแก้ปัญหา ที่สามารถตอบโต้กับ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เป็นผู้ช่วยเสมือนจริง ตามนโยบายที่บริษัทฯ ไว้วางและกำหนดไว้ อาทิเช่น การบริการด้าน IT (IT Service Management)

ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบ และจัดการกับปัญหาด้านเทคนิค บน Workspace Intelligence ได้แบบเชิงรุก ซึ่งครอบคลุมถึงการดูแล ฮาร์ดแวร์ ,OS สามารถตรวจสอบแบบ Realtime จากภาพรวมของการใช้งานในองค์กรแบบเต็มรูปแบบด้วย Digital Workspace ของพนักงานทั้งองค์กร ทำให้เป็น Tool ที่สามารถช่วยสนับสนุนงาน IT สำหรับการแก้ปัญหาได้แบบ Automation ลดระยะเวลาการหยุดทำงาน และกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ที่มา : Vmware – Digital Workspace

https://www.vmware.com/products/workspace-one.html

https://www.vmware.com/products/desktop-virtualization.html

https://www.vmware.com/products/workspace-one/intelligence.html

สนใจสินค้า หรือ บริการ ด้าน Digital Workspace for Future Workforce by Vmware Solution

ติดต่อ Fusion Advantec Co., Ltd.

ฝ่ายขาย เบอร์ 02-965-8006-8 หรือ ติดต่อ คุณสุทธินันท์ Tel. 081-923-3660

Email: info@fusion.co.th

Website: https://www.fusion.co.th/