Toothpaste

ส่องแนวโน้มตลาด ‘ยาสีฟัน’ คาดทะลุ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ภายใน 5 ปี ‘สูตรสมุนไพร’ No.1 สบช่องไทยปั้นแบรนด์ชิงส่วนแบ่ง

‘อุตสาหกรรมยาสีฟัน’ ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอีกมากในอนาคต เนื่องจากเป็นสิ่งที่เราทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์ก็มีกำหนดอายุการใช้งาน ซึ่งยาสีฟันแบ่งได้หลายประเภทตามกลุ่มตลาดลูกค้า แต่ที่พบหลัก ๆ ในท้องตลาด ก็คือ ยาสีฟันสูตรธรรมดา, ยาสีฟันสูตรสมุนไพร ยาสีฟันสูตรเด็ก ยาสีฟันป้องกันฟันผุ และสูตรไวท์เทนนิ่ง

โดยจากผลการสำรวจมูลค่าตลาดยาสีฟันทั่วโลกในปี 2571 คาดจะสูงถึง 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในช่วงระหว่างปี 2566-2571 ที่ 3.92% ซึ่งการที่ตลาดมีมูลค่าเพิ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะว่า ผู้บริโภคใช้ยาสีฟันเป็นสารทำความสะอาดเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยในช่องปาก และเพื่อดูแลสุขภาพของฟัน

ทั้งนี้หากพูดถึงผู้นำตลาดยาสีฟันในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ก็คงหนีไม่พ้น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งแบรนด์ดังของสหรัฐอเมริกา ก็คือ ‘คอลเกต’ อยู่ภายใต้การบริการงานของบริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ปัจจุบัน ‘คอลเกต’ มีการจำหน่ายสินค้ามากกว่า 200 ประเทศ และสินค้าก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยในปี 2565 ‘คอลเกต’ ถือครองส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 34.6%

ขณะที่แถบเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และเวียดนาม เรียกได้ว่าไทยก็ถือเป็นเจ้าตลาดยาสีฟัน จากทั้งหมด 21 ประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก โดยตลาดหลักของยาสีฟันไทย คือ ฟิลิปปินส์  มีสัดส่วนถึง 37% ของการส่งออกทั้งหมด

ทั้งนี้จากข้อมูลของ Nielsen ระบุว่า ในปี 2564 มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันในไทย อยู่ที่ 8,575 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 เซ็กเมนต์ ได้แก่ ยาสีฟันสูตรสมุนไพรธรรมชาติ ส่วนแบ่งตลาด 39%, ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติการป้องกันและรักษา (Therapeutic) ส่วนแบ่งตลาด 29%, ยาสีฟันทั่วไป (Regular) ส่วนแบ่งตลาด 22%, ยาสีฟันเพื่อฟันขาว (Whitening) ส่วนแบ่งตลาด 7% และ ยาสีฟันสำหรับเด็ก (Kids) ส่วนแบ่งตลาด 3%

โดยปัจจุบันตลาดยาสีฟันในไทยมีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยหากคิดเปรียบเทียบการเติบโต มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ 4,425 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 51.60%

อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าสัดส่วนยาสีฟันสูตรสมุนไพรมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพร โดย 6 ปีที่ผ่าน (พ.ศ.2560-2566) ไทยได้ส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพร สร้างมูลค่ากว่า 12,211 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ทาง ‘กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก’ จึงได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าของการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรมวลรวมในประเทศในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2570 ได้วางเป้าหมายขนาดตลาดวัตถุดิบสมุนไพรของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 1 เท่าตัว มุ่งเกิดรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท และจะสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%

ทั้งนี้จากผลการวิจัยของ ‘Marketwatch’ ระบุว่า ตลาดยาสีฟันสมุนไพรทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มสดใส ซึ่งในปี 2565 ตลาดยาสีฟันสมุนไพรทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 738.23 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดจะสูงถึง 1,023.66 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2571 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในช่วงระหว่างปี 2566-2571 ที่ 5.6%

3 พืชสมุนไพรยอดฮิตส่วนประกอบหลักยาสีฟัน

  1. สะเดา : มีการนำมาใช้นานหลายศตวรรษ นั่นเป็นเพราะว่า สารสกัดจากสะเดาช่วยลดคราบพลัค ลดหินปูน และขจัดครบบนฟันได้ อีกทั้งน้ำมันสะเดายังช่วยลดโรคเหงือก เช่น เหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก
  2. สะระแหน่ : จัดเป็นพืชสมุนไพรในตระกูลมินต์อยู่ในวงศ์กะเพรา โดยองค์ประกอบทั้งหมดตั้งแต่ ใบ ลำต้น หรือราก สามารถนำมาเป็นส่วนผสมของยาสีฟันได้ ซึ่งสะระแหน่ก็ถูกนำมาใช้นานหลายศตวรรษ จัดเป็นยาตามธรรมชาติที่ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ช่วยลดกลิ่นปาก ลมหายใจหอมสดชื่น นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของเหงือกและลดปัญหาการย่อยอาหารโดยการเพิ่มระดับกรดในกระเพาะอาหาร
  3. โหระพา : มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดฟันและทำให้ลมหายใจสดชื่น ซึ่งสมุนไพรนี้เป็นที่รู้จักกันว่าช่วยลดความเสี่ยงของฟันผุ และมีความปลอดภัยในการใช้และสามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพืชสมุนไพรที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของยาสีฟันสูตรสมุนไพรนั้น ไทยบ้านเราก็ปลูกมาแต่ดั้งเดิมแล้ว และยังสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันในรูปแบบการประกอบอาหาร โดยในอนาคตสมุนไพรเหล่านี้อาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของพืชเศรษฐกิจที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับประเทศได้

นอกจากนี้มูลค่าตลาดยาสีฟันสูตรสมุนไพรยังมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่เปลี่ยนไป โดยจะเน้นไปใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปร่วมชิงส่วนแบ่งการตลาดนี้ โดยชูจุดเด่นของสมุนไพรไทยที่มีเอกลักษณ์ในระดับสากล

.

ที่มา : marketresearch, colgate, IQ, marketwatch

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

.
#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #ยาสีฟัน #อุตสาหกรรมยาสีฟัน