TMILL พบนักลงทุนในงาน Opp Day เผยผลงาน Q1/62 กวาดรายได้ 380 ล้านบาท โต 6.3%

บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชนหรือ TMILL ผู้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ของประเทศไทย พบนักลงทุนในงาน Opp Dayเผยผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้จากการขายอยู่ที่ 380.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.3ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 24.70 ล้านบาท ตั้งเป้าเดินหน้าเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีที่ 80%

 

แววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี (ขวาและสุรางค์รัตน์ จงประสพทรัพย์ (ซ้ายรองผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชนหรือ TMILL โรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศเข้าร่วมแนะนำบริษัทและนำเสนอข้อมูลผลประกอบการ ไตรมาสแรก ปี 2562 ให้แก่นักลงทุนในกิจกรรม “บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน” (Opportunity Day) แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักลงทุนและสื่อมวลชนที่สนใจเข้าร่วมงาน

 

แววตา กล่าวว่า “ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/2562 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 380.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6.3ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 358.19 ล้านบาท ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.70 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8หรือประมาณ 2.14 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.2 % อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.5 % ลดลง 1จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.5เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น สำหรับรายได้รวมจากการขาย 380.91 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายแป้ง324.96 ล้านบาท และรายได้จากการขายรำ 55.95 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 1/2562 บริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 75.41เพิ่มขึ้น3.43จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 71.98โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 80%

 

ในส่วนของแผนธุรกิจปี 2562 บริษัทฯ จะเน้นเพิ่มยอดขายทั้งกับลูกค้ารายเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มองว่ายังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

 

ด้านสุรางค์รัตน์ เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนติดตั้งหุ่นยนต์ (Robot) ในเฟสที่ 2 ภายใต้งบลงทุนไม่เกิน10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในส่วนของการร่อนแป้ง หลังจากที่ได้ใช้หุ่นยนต์เฟสแรกในส่วนของการจัดการคลังสินค้าไปแล้วก่อนหน้านี้คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ภายในปีนี้