EA องค์กรแห่งนวัตกรรม

ผู้นำในธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ ผู้ถือหุ้น ผู้ร่วมค้า และพนักงานอย่างเป็นธรรม ส่งผลให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือกของประเทศในปัจจุบัน

 

ารเติบโตทางธุรกิจของ EA ตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา ปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ทำให้เกิดนวัตกรรมจากองค์ความรู้ที่มาจากทั้งบุคลากรของ EA เอง รวมไปถึงความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการที่ทำให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือกของประเทศไทย” คำกล่าวของ อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA

 

สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมของ EA เริ่มตั้งแต่ธุรกิจแรกอย่างธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล ที่ได้ทำการศึกษและพัฒนาในด้านการบริหารต้นทุนการก่อสร้างโรงงาน เพื่อให้ประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างมากที่สุด นั่นเพราะในการเริ่มต้นธุรกิจการใช้เม็ดเงินในแต่ละส่วนต้องทำให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง

 

อมร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา EA ให้ความสำคัญในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานและการสร้างองค์ความรู้ภายในองค์กรอย่างมาก เพื่อให้องค์กรสามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะมองว่าทุกวันนี้โลกธุรกิจหมุนเร็วมาก เช่น ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม จากเดิมคนแทบไม่รู้จักหรือให้ความสนใจ แต่ผ่านไปไม่กี่ปี ปัจจุบันคาดว่ามีผู้ประกอบการที่เข้ามาสู่ธุรกิจนี้นับร้อยราย

 

เพราะฉะนั้น หาก EA ยังต้องการคงความเป็นผู้นำในธุรกิจต่อไป ต้องพยายามเดินไปข้างหน้าให้เร็ว แต่การจะก้าวเดินเป็นผู้นำได้นั้น การจะหวังพึ่งพิงองค์ความรู้จากภายนอกอย่างเดียวคงไม่ได้ นั่นเพราะทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่เปิดเป็นสาธารณะได้อยู่แล้ว

 

ดังนั้น การสร้างองค์ความรู้ภายในองค์กร จะเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาว และเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจต่อไป ที่ผ่านมา จึงสามารถกล่าวได้ว่า EA เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่อง R&D อย่างมาก และด้วยการเป็นองค์กรที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้มีความกระชับและความคล่องตัวสูง เมื่อต้องการนำไอเดียไปใช้ในเชิงปฏิบัติ จึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำให้เกิดเป็นธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

ขณะเดียวกัน EA ยังเป็นองค์กรที่พร้อมจะปรับตัวรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการเกาะกระแสเทคโนโลยี และสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ตลอดเวลา ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ธุรกิจด้วยการผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล จากนั้นขยายเข้าสู่ธุรกิจพลังานทางเลือก และขยายไปสู่ธุรกิจ Energy Storage, EA Anywhere, สถานีชาร์จ และรถยนต์ไฟฟ้า MINE” ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในปี 2563 ส่วนเรือไฟฟ้าพร้อมเริ่มให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาปลายปี 2562 จำนวน 54 ลำ ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ การพลิกโฉมผลิตเรือไฟฟ้าแบบไร้มลพิษ ขับเคลื่อนด้วยพลังแบตเตอรี่ของ EA มารถรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าน้ำนนทบุรี ไปท่าน้ำวัดราชสิงขร ระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตร ด้วยเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น

 

เราเฝ้ามองและติดตามตลอดเวลาว่า โลกกำลังหมุนไปในทิศทางใดแล้วมีผลิตภัณฑ์และบริการอะไรบ้างที่ควรจะพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับโลก แล้วกลับมามองว่าเรามีศักยภาพและองค์ความรู้ที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนั้นหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ต้องทำการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องเรียนรู้ พัฒนา ต่อยอด และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา”

 

จากความมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรม ทั้งในรูปแบบของสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ด้านพลังงานของโลกยุคใหม่พร้อมกับการมองหาโอกาสทางธุรกิจ ต่อยอดจากองค์ความรู้ที่สั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง

 

ส่งผลให้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัล TOP INNOVATIVE COMPANY AWARD จากการประกาศรางวัลของนิตยสาร Business+ กับโครงการสุดยอดองค์กรดีเด่นแห่งปี THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2019