ซอฟต์พาวเวอร์จาก ‘ลิซ่า’ ถึง ‘พิธา’ ปลุกกระแส ‘ผ้าไทย’ หนุนอุตสาหกรรมฟื้น

กลายเป็นกระแสในวงกว้างอีกครั้ง กรณีนักร้องสาวคนดัง ‘ลิซ่า’ แห่งวง ‘แบล็กพิงก์’ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ทำให้เกิดเป็นประแสได้เสมอ โดยล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง กับกรณีการแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยไปเที่ยวอยุธยากับเพื่อน ๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผู้คนเริ่มหันไปให้ความสนใจกับผ้าไทยมากขึ้น เพราะความสวยสะดุดตาของทั้งคนและชุดที่ใครเห็นเป็นต้องอยากแต่งตาม อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่าง ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตาอยู่เสมอ ที่ล่าสุดก็ได้ออกมาเผยแพร่ภาพที่ตนเองเคยสวมใส่ผ้าไทยในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวอีกด้วย

ซึ่งทั้งความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้มีผู้คนหันมาให้ความสนใจกับผ้าไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวเน็ตที่ได้เห็นการสวมใส่ผ้าไทยของ ‘ลิซ่า’ แล้วเห็นถึงความน่ารักแบบไทย ๆ อีกทั้งยังดูเข้ากับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยอย่าง ‘อยุธยา’ ก็ยิ่งทำให้ ‘ผ้าไทย’ กลายมาเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้บรรดาร้าน ‘ผ้าไทย’ หลายร้านเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงร้านเจ้าของชุดที่ ‘ลิซ่า’ ได้สวมใส่ที่ก็ได้ออกมาบอกว่ามีออเดอร์หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายจนสินค้าหมดและต้องทำการสั่งจองล่วงหน้าเป็นเดือน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญต่อวงการ ‘ผ้าไทย’ เป็นอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบัน ‘ผ้าไทย’ ไม่ได้เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมมากนัก แต่จะเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบเฉพาะกลุ่มมากกว่า

อย่างไรก็ดี ช่วงปีหลัง ๆ มานี้ พบว่าผู้คนจากหลากหลายวงการต่างหันมาให้ความสนใจกับ ‘ผ้าไทย’ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง, วงการนางงาม, วงการนักร้อง เป็นต้น โดยจะเห็นได้จากการนำ ‘ผ้าไทย’ ไปสวมใส่ตามโอกาสต่าง ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการโปรโมทไปในตัว ยกตัวอย่างกรณีของ ‘น้ำตาล ชลิตา’ นางงามจากเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่ได้สวมใส่ชุดจากผ้าไหมของไทยที่ผ่านการออกแบบอย่างสวยงามในการประกวดบนเวทีระดับโลกอย่าง มิสยูนิเวิร์ส 2016 จนเรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็น และสร้างกระแสให้กับวงการ ‘ผ้าไทย’ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับตัวเลขการส่งออก ‘ผ้าไทย’ ในปี 2565 ถือเป็นปีที่สถานการณ์ของวงการ ‘ผ้าไทย’ ค่อนข้างราบรื่น โดยข้อมูลจากกรมศุลกากร พบว่า ในปี 2565 การส่งออกผ้าทอมือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.80% อยู่ที่ระดับ 5,522.27 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564

สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยที่มีการขยายตัวมากที่สุดในปี 2565 คือเสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากไหม ขยายตัว 125.54% จากปี 2564 รองลงมาคือผ้าผืนทำจากไหม ขยายตัว 60.6%

อย่างไรก็ดี แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนจะหันมาให้ความสนใจ ‘ผ้าไทย’ มากขึ้น แต่ในปี 2566 อาจจะเป็นปีที่มีความท้าทายต่อตลาด ‘ผ้าไทย’ เป็นอย่างมาก

โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ระบุว่า ในปี 2566 อาจเป็นปีที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายทั่วโลก ด้วยปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน ทั้งจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อต่อเนื่อง ปัญหาเงินเฟ้อในแต่ละประเทศที่สูงขึ้นจนต้องมีการปรับอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้ริโภคที่ลดลง หรือปัญหาเรื่องต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และภาวะการณ์ของตลาดที่ยังคงไม่แน่นอน

สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในเดือนเมษายน 2566 พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 469.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลง 14% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) แบ่งเป็น 1.การส่งออกกลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 313.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.5 และ 2.การส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 156.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลง 13%

ทั้งนี้ การคาดการณ์นี้ เกิดขึ้นก่อนที่การสวมใส่ ‘ผ้าไทย’ ของ ‘ลิซ่า’ และ ‘พิธา’ จะกลายเป็นกระแส ซึ่งไม่แน่ว่าจากกระแสดังกล่าว อาจจะทำให้ปี 2566 กลายเป็นอีกปีที่ดีสำหรับแวดวง ‘ผ้าไทย’ โดยจะเห็นได้จากการที่ผู้คนเริ่มมีการสั่งซื้อผ้าไทยตามไอดอลคนโปรดจนหลาย ๆ ร้านผลิตสินค้าไม่ทันจนต้องมีการเปิดรับออเดอร์ล่วงหน้า อย่างกรณีร้านของแม่นางเอกสาวคนดัง ‘เดียร์น่า ฟลีโป’ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ‘ลิซ่า’ ที่ได้ส่งชุดให้ ‘ลิซ่า’ และกลุ่มเพื่อนสวมใส่จนกลายเป็นกระแสครั้งนี้ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ร้านผ้าไทยของตนมียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีผ้าขายสำหรับหน้าร้าน หลังจาก ‘ลิซ่า’ นำชุดของทางร้านไปสวมใส่ จนต้อเปิดพรีออเดอร์ผ่านทางเพจของร้าน ซึ่งมียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางร้านจึงตั้งใจจะให้ชาวบ้านช่วยทอผ้า ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนอีกทาง

ซึ่งหากดูจากข้อมูลนี้ ประกอบกับปรากฏการณ์หลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาของสินค้าที่ ‘ลิซ่า’ มักจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือมีการใช้งาน ผู้คนก็มักจะหาซื้อสินค้านั้น ๆ ตามอยู่เสมอ จนสร้างยอดขายให้กับสินค้าอย่างถล่มทลาย จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีของวงการ ‘ผ้าไทย’ ที่นอกจากคนไทยจะหันมาสวมใส่ ‘ผ้าไทย’ มากขึ้นแล้ว ชาวต่างชาติที่เป็นแฟนคลับหรือติดตาม ‘ลิซ่า’ ก็อาจจะมีความสนใจและสั่งซื้อ ‘ผ้าไทย’ ทำให้ตัวเลขการส่งออกมีการเติบโตที่สูงขึ้นตามมา

เช่นเดียวกับ ‘พิธา’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนสำคัญ ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็กลายเป็นกระแส ที่หันมาโปรโมท ‘ผ้าไทย’ ผ่านการโพสต์รูปที่เจ้าตัวได้มีการแต่งกายด้วยชุด ‘ผ้าไทย’ ในโอกาสต่าง ๆ ภายหลังจาก ‘ลิซ่า’ เป็นกระแสได้ไม่นาน ก็ถือเป็นการตอกย้ำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจ ‘ผ้าไทย’ มากขึ้น ซึ่งสำหรับ ‘พิธา’ เอง ก็มีฐานแฟนคลับการเมืองอยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งอาจทำให้บรรดาแฟน ๆ หันมาสวมใส่ ‘ผ้าไทย’ ตามคนโปรดของตัวเองจนเกิดเป็นรายได้ให้กับประกอบการ ‘ผ้าไทย’ ได้อีกทาง

ที่มา : กรมศุลกากร, สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ, ไทยรัฐ

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ผ้าไทย #ผ้าไหม #ผ้าซิ่น #ThaiFabric #ส่งออก #ลิซ่า #ลลิษามโนบาล #ลิซ่าแบล็กพิงก์ #พิธา #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #กระแสไวรัล