ถอดกลยุทธ์การท่องเที่ยวไต้หวัน แจกเงิน 5,000 NTD ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ได้ผลจริงหรือ?

หลังจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ไต้หวันได้เปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2022 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนในปี 2023 ขณะที่ตอนนี้มีนักเดินทางเข้ามายังไต้หวันแล้วกว่า 3,822,774 คน (ข้อมูล : ม.ค. – ส.ค. 2023) และตั้งเป้าว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ในระดับก่อนการแพร่ระบาดหรือประมาณ 10 ล้านคนต่อปีภายในปี 2024

โดยการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นส่วนแรก ๆ เมื่อมีการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไต้หวันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการเดินทางและการท่องเที่ยวคิดเป็น GDP ของไต้หวันถึง 4.4% ในปี 2019 ซึ่งในปี 2020 จำนวนนักเดินทางที่มาเยี่ยมเยือนลดลงเหลือ 1.377 ล้านคน หรือลดลงถึง 88.39%

ดังนั้นไต้หวันจึงต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวหลังการระบาดใหญ่ แต่จะทำอย่างไรนักท่องเที่ยวถึงจะกลับมาเดินทางที่ไต้หวันอีกครั้ง Business+ จะพาไปเจาะกลยุทธ์ที่รัฐบาลไต้หวันใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลังยุค COVID-19 กันในบทความนี้

 

ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายหลัก

ก่อนสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในปี 2019 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศสูงสุด 11.8 ล้านคนในปี 2019 ไต้หวันทำรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และล่าสุดไต้หวันต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 900,000 คนในปี 2022 เป็นสัญญาณการฟื้นตัวกลับมาจากจำนวนที่ต่ำสุดในปี 2021 ที่ 140,000 คน แต่ยังไม่เทียบเท่าก่อนการระบาด

 

โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดในยุคก่อนโควิดนอกจากจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวันคือ ญี่ปุ่น ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2023 มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 493,167 คน และรองลงมาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้ามาแล้วถึง 411,791 คน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่มีแนวโน้มเดินทางเข้ามามากขึ้น MRT ไทเปจึงเพิ่มประกาศเป็นภาษาเกาหลี 15 สถานียอดนิยม และเพิ่มประกาศภาษาญี่ปุ่นอีก 8 สถานี จากเดิม 13 สถานี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่จะเดินทางเข้ามาในไต้หวัน

 

ด้านนักท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว 1 ใน 10 อันดับแรกที่เดินทางไปไต้หวันมากที่สุด เดินทางไปท่องเที่ยวไต้หวันกว่า 239,658 คน ตั้งแต่ต้นปีถึงสิงหาคม 2023 จากเป้าที่การท่องเที่ยวไต้หวันตั้งไว้ที่ 320,000 คนตลอดทั้งปี ทั้งนี้ มีการอำนวยความสะดวกด้วยการเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทยไปเที่ยวได้ 14 วัน และนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางไปท่องเที่ยวในไต้หวันหลังยุคโควิดก็คือกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ทางการท่องเที่ยวไต้หวันจึงมีการส่งเสริมนโยบายและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาท่องเที่ยวที่ไต้หวัน

 

สุ่มแจกเงิน 5,000 NTD ให้นักท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวไต้หวันส่งแคมเปญ Taiwan the Lucky Land สุ่มแจก Voucher มูลค่า 5,000 NTD รวม 500,000 รางวัล ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปไต้หวันด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยจะให้รางวัลใน 2 รูปแบบ โดยให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ 1. รางวัลในรูปแบบบัตรแทนเงินสด pre-paid card 2. คูปองโรงแรม ซึ่งจะได้คูปอง 5 ใบ แต่ละใบมีมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

แคมเปญนี้เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลไต้หวันที่ใช้งบประมาณถึง 5.3 พันล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาด ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยเงินในประเทศมากขึ้น เพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดฟื้นตัวขึ้น โดยมีเป้าหมายต้อนรับนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนในปี 2023

 

การตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทย

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการท่องเที่ยวไต้หวันมาตลอด จึงมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวอยู่ตลอด ทั้งการโปรโมตผ่านแฟนเพจและเว็บไซต์ taiwantourism กิจกรรม “ไต้หวันลัคกี้แลนด์ ดินแดนในฝัน” ที่ให้ร่วมแชร์ความประทับใจและความสนใจในประเทศไต้หวันเพื่อชิงรางวัลมากมาย และนอกจากนี้ยังจัดงาน Taiwan Travel Fair 2023 ที่รวบรวมแพ็กเกจเที่ยวและตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ และสามารถลุ้นรางวัลใหญ่ตั๋วเครื่องบินไป-กลับไต้หวัน รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท

อีกทั้ง ยังมีการแต่งตั้ง บอย-ปกรณ์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของการท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศไทย พร้อมเปิดตัวแคมเปญและภาพยนต์โฆษณาชุด “All is just right in Taiwan ทุกอย่างใช่โดนใจที่ไต้หวัน” ซึ่งบอยปกรณ์มีภาพลักษณ์ที่สนุกสนาน อารมณ์ดี มีชีวิตชีวา เหมาะกับการท่องเที่ยวไต้หวันที่มีความหลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานกับการท่องเที่ยว สัมผัสวัฒนธรรม ทานอาหาร และช็อปปิ้ง

 

นอกจากการจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยว และแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ในไทยแล้ว ไต้หวันยังมีจุดแข็งที่น่าสนใจในการทำการตลาดอีกอย่างที่ใช้ดึงดูดผู้คนให้เดินทางไปยังไต้หวัน นั่นคือ ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งไต้หวันถือเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยศิลปะ และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนมายาวนาน ไต้หวันมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะและงานคราฟต์มากมาย เช่น Songshan Cultural and Creative, Huashan 1914 Creative Park, Jimmy Park และมีการจัดอีเวนต์งานสร้างสรรค์และงานศิลปะอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยที่มีศิลปะทุกแขนงทั้ง ภาพวาด ดนตรี ภาพยนตร์ การแสดง ศิลปะจึงกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของคนไต้หวัน

 

โดยไต้หวันมีศิลปิน นักเขียน นักวาดภาพประกอบชื่อดัง อย่างเช่น จิมมี่ เลี่ยว ที่มีผลงานที่ถูกนำไปแปลในหลายภาษา แล้วยังไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ และผลงานที่โด่งดังของเขาคือ ‘Turn Left, Turn Right’ หรือชื่อภาษาไทยคือ ‘ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา’ ซึ่งผลงานของเขาถูกนำเสนอให้หลายรูปแบบ เช่น Jimmy Park สวนสาธารณะ, สถานีรถไฟ, พื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ที่ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะของจิมมี่ เลี่ยว เพื่อให้คนไต้หวันและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบและสนใจในศิลปะได้มาเยี่ยมชมผลงาน และยังมีศิลปินอีกมากมายที่จัดแสดงผลงาน นี่จึงถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของไต้หวันก็ว่าได้

 

จากจุดแข็งด้านศิลปะของไต้หวัน นำมาสู่การใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้กับการทำการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวในไทย โดยทำการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันผ่านผลงานภาพวาดที่ร่วมคอลแลบกับศิลปินนักวาดภาพประกอบไทยอย่าง ‘ปันปัน ยีย์ยีย์’ ณ สถานีรถไฟ MRT และ BTS จตุจักร และมีการใช้พื้นที่โฆษณาภาพประกอบภายในขบวนรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ทำให้คนไทยได้เห็นไต้หวันผ่านมุมมองของศิลปินไทย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ

ไฮไลต์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาไต้หวันคงหนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวของไต้หวันนั้นก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบ โดย Business+ จะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ

  1. สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติอาลีซาน ที่มีธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางรถไฟ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานฯ มีดอกไม้บานสะพรั่งระหว่างทางรถไฟ และมีวิวภูเขาให้ชมสองข้างทาง และมีเส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุดในไต้หวัน สำหรับสายเดินป่าต้องไปลองเดินดูสักครั้ง
  2. แหล่งช็อปปิ้ง และกินอาหาร เช่น ย่านซีเหมินติง ย่านสุดฮิตของวัยรุ่นไต้หวัน มีร้านอาหาร สตรีทฟู้ด เสื้อผ้า เครื่องประดับ ให้เลือกช็อปมากมาย
  3. วัดและศาลเจ้า เช่น วัดหลงซาน วัดเก่าแก่ชื่อดังในไทเป มีชื่อเสียงในความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการขอพรความรัก การงาน การเงิน สุขภาพ ใครที่ไปท่องเที่ยวที่ไทเปจึงไม่ควรพลาดที่จะไปวัดแห่งนี้
  4. พื้นที่แสดงผลงานสร้างสรรค์ เช่น Songshan Cultural and Creative Park เคยเป็นโรงงานยาสูบมาก่อน ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีโครงสร้างที่มีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม หลังจากโรงงานเลิกผลิตยาสูบ ก็มีการนำพื้นที่กลับมาใช้ใหม่ โดยกลายเป็นพื้นที่สำหรับนักออกแบบและธุรกิจด้านวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเป็นสถานที่สำหรับการจัดแสดงและนิทรรศการ เป็นศูนย์กลางพื้นที่สร้างสรรค์ที่ทันสมัย ​​โดยมีเอกลักษณ์จากการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัยอย่างลงตัว

 

ทำไมไต้หวันถึงครองใจคนไทย

จากผลสำรวจที่พบว่าคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวไต้หวันติด 1 ใน 10 อันดับแรกมาโดยตลอดนั้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความสนใจและชอบเดินทางไปไต้หวัน และเหตุผลที่อาจทำให้คนไทยเดินทางไปไต้หวัน ได้แก่ 1. ค่าครองชีพใกล้เคียงกับไทย 2. ใช้เวลาเดินทางไม่นาน 3. สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ แหล่งช็อปปิ้งและกินอาหาร 4. อาหารท้องถิ่นน่าลิ้มลองมากมาย โดยเฉพาะที่ไนต์มาร์เก็ต

 

5. เหมาะกับสายมูที่ชอบไปไหว้พระขอพร หรือคนที่ชอบเสี่ยงโชค เพราะมีล็อตเตอรี่หลายประเภทให้ได้ลุ้นรางวัล 6. ศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม เนื่องจากไต้หวันเป็นประเทศที่สนับสนุนด้านศิลปะ จึงมีการจัดแสดงผลงานในพื้นที่สาธารณะให้ได้ชมมากมาย และ 7. การเดินทางที่สะดวก เพราะมีรถไฟ mrt อีกทั้ง รถไฟธรรมดา (TRA) และรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) เพื่อเดินทางข้ามเมือง และบัส

 

จากกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้งการสุ่มแจกเงิน 5,000 NTD การโปรโมตการท่องเที่ยวไต้หวันด้วยการจัดกิจกรรมและแจกของรางวัล การแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ และการคอลแลบกับศิลปิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักไต้หวัน และเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวไต้หวันหลังจากสถานการณ์ COVID-19 ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าไต้หวัน 239,658 คน ตั้งแต่ต้นปีถึงสิงหาคม 2023 จากเป้าหมาย 320,000 คน และนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาแล้วกว่า  3,822,774 คน จากเป้าหมาย 6 ล้านคน นับว่ากำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายในปลายปี

 

แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วงฤดูฝนที่มีไต้ฝุ่นถล่ม แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไต้หวันหนาแน่นในช่วงสิ้นปี เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ดีขึ้นบวกกับมีเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงปลายปีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว อาจส่งผลให้ไต้หวันมียอดนักท่องเที่ยวถึงเป้า 6 ล้านคนได้ไม่ยาก

 

ที่มา amusementlogic, focustaiwan, taiwantourism, happeningandfriends, ceicdata, stat.taiwan, taipeitimes

 

เขียนและเรียบเรียง : สีน้ำ แผ่วฉิมพลี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS