Supplement

เปิดรายได้ 3 บริษัทอาหารเสริมรายใหญ่ของโลก กับมูลค่าตลาดที่จะเติบโตยาวไปอีก 7 ปี

จากประเด็นที่ ‘Business+’ ได้วิเคราะห์ว่า มูลค่าตลาดอาหารเสริมทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอาไว้ในคอนเทนต์ ทิศทางตลาดอาหารเสริมกับมูลค่าที่จะเติบโต 10% ตลอด 7 ปี โดยเรามองว่ามีปัจจัยสนับสนุน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพนับตั้งแต่เกิด COVID-19 และโครงสร้างสังคมของโลกที่เป็นสังคมผู้อายุโส (Aged Society) ทำให้ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมในปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งผู้เล่นระดับโลก และผู้เล่นในประเทศไทยก็มีทิศทางการเติบโตสอดคล้องกัน

ขณะที่เราพบข้อมูลว่า รายได้ของ 3 ผู้ผลิตอาหารเสริมรายใหญ่ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ทาง Amway จะเป็นบริษัทเดียวที่มีรายได้ปรับตัวลดลง แต่เมื่อเจาะข้อมูลเข้าไปจะพบว่า จริงๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้รายได้ลดลงมาจากค่าเงินที่ผันผวน และยังประสบปัญหาจากการขายบริษัทอาหารเสริมในเครือที่ต้องถอนตัวของบริษัทออกจากรัสเซียหลังเหตุการณ์ความไม่สงบ นั่นหมายความว่า จริงๆ แล้วหากมองกันที่ดีมานด์ผลิตภัณฑ์ของทาง Amway ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

ส่วน Abbott laboratories ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องมือแพทย์ชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีธุรกิจเสริมอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจ มีรายได้ในปี 2022 อยู่ที่ 43,653 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้นจากปี 2021 อยู่ที่ 43,075 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่ง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งมีรายได้ 19,657 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้าน Bayer AG บริษัทสัญชาติเยอรมันที่ดำเนินธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจฟาร์มาซูติคอล คอนซูเมอร์เฮลธ์ และครอปซานย์มีรายได้ในปี 2021 ที่ 52,152 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และรายได้ในปี 2022 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53,459 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นการเติบโตติดต่อกัน 3 ปี

Supplement

อุตสาหกรรมอาหารเสริมในไทย

หันมาดูอุตสาหกรรมอาหารเสริมในประเทศไทยกันบ้าง ซึ่งเราได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการอาหารเสริมในไทย พบว่ามีทิศทางการเติบโตที่ค่อนข้างดีสอดคล้องกับข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่า 3 ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมในไทยส่วนใหญ่มีการเติบโตมากกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2022 ที่ตลาดโลกจะเติบโตราว 9%

โดย บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods หรือ FMCG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM เป็นบริษัทที่มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพใน 35 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่ในแง่ของรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี (ตั้งแต่ปี 2019)

ด้าน บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL เป็นบริษัทที่เราได้เห็นการเติบโตที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม โดยบริษัทแห่งนี้เป็นผู้ประกอบธุรกิจเป็น Holding Companyโดยปัจจุบันลงทุนในธุรกิจร้านขายยา จำหน่ายยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ และธุรกิจคิดค้น และพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยภายนอก รวมทั้งว่าจ้างผู้ผลิต เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ ICARE HEALTH และ Healthiness

ทั้งนี้ในปี 2565 เฮลท์ลีด มีรายได้เติบโต 26.48% สู่ระดับ 1,538 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากร้านขายยาเดิมเฉลี่ยทั้งปีเติบโต 16.44% จากปี 2564 ประกอบกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากร้านขายยาใหม่ที่เปิดในปี 2565

โดยกลุ่มบริษัทเปิดสาขาร้านขายยาเพิ่มทั้งหมด 11 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในขณะที่ปิดให้บริการร้านขายยาไป 1 สาขา คือ ร้านขายยาไวตามินคลับ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ทำให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 กลุ่มบริษัทร้านขายยารวม 36 สาขา

ส่วน บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เป็นบริษัทที่มีรายได้ลดลงในปี 2022 ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงว่ารายได้จากการขายสินค้าผ่านนักธุรกิจในประเทศลดลง 54 ล้านบาท หรือลดลง 4.9% สาเหตุหลักเกิดจากยอดขายในประเทศที่ลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ตามเมื่อเรามองแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมทั้งปีต่อจากนี้ตลาดอาหารเสริมของไทยยังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างดี สอดคล้องกับการศึกษาของ Nielsen CMV ว่าในปี 2022 คนไทยมีการซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภาพและความงามถึง 84% ซึ่งกลุ่มวิตามิน อาหารเสริมมีการเติบโตขึ้น 229% หรือเกิน 2 เท่าตัวจากปี 2019 โดยจากผลสำรวจยังพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ประมาณ 60% ต้องการรับประทานอาหารเสริมเพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัย ส่วนความต้องการอันดับที่ 2 คือ ต้องการมีผิวที่ดีขึ้น ดังนั้นทาง Nielsen CMV จึงคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะยังเป็นปีที่ผู้คนมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยมีการรับประทานอาหารเสริมประเภทยา และวิตามินเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ยาสมุนไพรยังได้รับความนิยมสูงเช่นเดียวกัน

ถึงแม้อุตสาหกรรมนี้จะมีการเติบโตโดดเด่น และยังเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์โลก แต่ Business+ มองว่าการแข่งขันจะดุเดือดมากยิ่งขึ้น เพราะมีบริษัทเสริมอาหารที่พยายามเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดจากเค้กก้อนโตที่จะมีการเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ผลิตจึงต้องรีบสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันเพื่อเข้ามาตีตลาด ทั้งการจัดการด้านต้นทุน การเพิ่มนวัตกรรมการแพทย์ รวมไปถึงการทำการตลาดด้วย Content Marketing เพราะปัจจุบันผู้บริโภคต่างใช้เวลาในการเลือกสรรสินค้าเป็นอย่างดี แบรนด์จึงต้องให้ข้อมูลจริง และสื่อสารด้วยการให้ประโยชน์แก่ผู้คนไปในตัว

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/