ศุภาลัย แกร่งสวนตลาดอสังหาฯ : Thailand Top Company Awards 2020 : รางวัลอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์

“สิ่งที่บริษัททำมาตลอด 4 – 5 ปีที่ผ่านมา คือการควบคุมภาระหนี้สินของบริษัทให้อยู่ในระดับต่ำ เรามองล่วงหน้าว่าสภาวะของตลาดอสังหาฯ อาจจะยากลำบากขึ้น เราเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่แย่ลง ตอนนี้ภาระหนี้สินเราลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา”


ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีแนวโน้มที่ไม่ดีนัก แต่ก็มีบางบริษัทที่มีขีดความสามารถในการเติบโตในสภาวะที่ตลาดเป็นขาลงเช่นนี้ ซึ่งจะเป็นจุดวัดศักยภาพของบริษัทและผู้นำว่าเก่งและแกร่งพอหรือไม่ ที่จะพาบริษัทผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทเช่นนี้ไม่มากนัก โดยหนึ่งในนั้นคือ บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ที่ผลงานภายใต้การบริหารงานของ ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่น สามารถรักษารายได้ของบริษัทให้อยู่ในระดับสูงได้ตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในช่วงขาลงก็ตาม

“สิ่งที่บริษัททำมาตลอด 4 – 5 ปีที่ผ่านมา คือการควบคุมภาระหนี้สินของบริษัทให้อยู่ในระดับต่ำ เรามองล่วงหน้าว่าสภาวะของตลาดอสังหาฯ มันจะยากลำบากขึ้น เราเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่แย่ลง ตอนนี้ภาระหนี้สินเราลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา ทำให้ต้นทุนทางการเงินของเราอยู่ที่ 2.3% เท่านั้นเอง เราจึงสามารถใช้ตรงนี้เป็นโอกาสในการซื้อที่ดินเพื่อสร้างโครงการใหม่โดยที่บริษัทไม่ลำบาก เรามีเครดิตเรตติ้ง A ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัทอสังหาฯ ที่มีเรตติ้ง A ขึ้นไป”

แม้ตอนนี้ตลาดจะเป็นขาลงแต่ไตรเตชะมองว่า หากสามารถทำในสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ บริษัทก็สามารถสร้างรายได้ได้ ล่าสุดทางศุภาลัยได้ปล่อย ศุภาลัย สมาร์ท โซลูชัน ซึ่งเป็นบริการตัวใหม่สำหรับคนที่ ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีชื่ออยู่ในโฉนดที่อยู่อาศัย ต้องการเพียงแค่มีสิทธิ์ในการพักอาศัยเท่านั้น  ซึ่งจะเป็นรูปแบบการเช่าระยะยาวที่เมื่อลูกค้าหารเฉลี่ยแล้วจะทำให้จ่ายถูกกว่าเดิมเพื่อเป็นอีกทางเลือก สมมุติว่าซื้อคอนโดในราคา 1,000,000 บาท ถ้าเป็นการเช่าระยะยาวมีสิทธิ์เข้าอยู่ 30 ปี จ่ายเพียง 600,000 บาท แต่แน่นอนว่าต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า ซึ่งเหมาะกับลูกค้าบางกลุ่มที่มีเงินสดในมืออยู่แล้ว

“ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ Property เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น Home Automation ก็เป็นสิ่งที่ทางบริษัททำให้หลาย ๆ โครงการของเราแล้ว และมีการลงทุนใน Enterprise Resource Planning อย่าง Customer Relationship Management  รวมถึงระบบ Construction Management ที่เราใช้เก็บข้อมูลบ้านทุกหลัง ลูกค้าทุกราย เพื่อนำมาวิเคราะห์หา Behavior ของลูกค้า และนำเสนอสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้า โดยลงทุนไปกว่าร้อยล้านบาท และระบบทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ปีนี้พอดี”

ไตรเตชะปิดท้ายว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่อาจไม่ดีนัก แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เจ้าของที่ดินยอมขายในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถเก็บที่ดินดี ๆ เพิ่มขึ้นได้ จนนำมาสู่การพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นว่าปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการมากที่สุดด้วยซ้ำ