สยามคูโบต้า ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสร้างประสบการณ์ลูกค้า ด้วยฟีเจอร์จาก Tableau

สยามคูโบต้า ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสร้างประสบการณ์ลูกค้า ด้วยฟีเจอร์จาก Tableau

 


สยามคูโบต้าตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร และรถขุดขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการนำซอฟต์แวร์อัจฉริยะจาก Tableau เป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ช่วยให้สยามคูโบต้า สามารถทรานส์ฟอร์มธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้สำเร็จ

ความน่าสนใจของบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร และรถขุดขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าธุรกิจหลายพันล้านดอลลาร์ กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ทั้งการบริหารและการทำงาน เพื่อคงจุดยืนการเป็น “นวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคต” โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการในการทำการเกษตร ด้วยเครื่องจักรกลการเกษตร และโซลูชัน ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจากความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ  ตลอดจนสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

คุณเมธี ศรีสุพรรณดิษฐ์

ผู้จัดการฝ่าย Digital Tech บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด

จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรและรถขุดขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีฝ่ายวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนความก้าวหน้าในด้านการเกษตรและการจัดการฟาร์ม รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรในการตรวจสอบพืชผล มีการการใช้ข้อมูลเพื่อนำมาสังเคราะห์อย่างแม่นยำ ซึ่งการนำ IoT และการแสดงภาพข้อมูลมาใช้ในการทำงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกัน

“เราเห็นความสำคัญของการนำข้อมูลมาสังเคราะห์ ผ่านซอฟต์แวร์อัจฉริยะ Tableau ซึ่งเป็นการรื้อระบบ Operation ให้องค์กรทำงานรวดเร็วขึ้น และยังเป็นการรุกเข้าสู่การทำทุกอย่างบนแพลตฟอร์มดิจิทัลอีกด้วย ซึ่งเรานำซอฟต์แวร์ Tableau เข้ามาใช้ ทั้ง Spread Sheet และการนำเสนองานได้ถูกแทนที่ด้วยการแสดงข้อมูลภาพจาก Tableau และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยผู้ที่ต้องการใช้ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากใช้งาน Tableau ไม่ถึง 6 เดือน เราประหยัดเวลาในการดำเนินการได้อย่างมาก ด้วยการทำ Dashboard อัตโนมัติและเพิ่มมิติใหม่ในการวิเคราะห์ข้อมูล และแสดงข้อมูลภาพแบบใหม่ช่วยให้ธุรกิจคาดการณ์ยอดขายและจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น และยังช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมใน IoT อีกด้วย”

การขับเคลื่อนการแปลงด้วยข้อมูล
ด้วยวิธีการวิเคราะห์แบบเดิม สยามคูโบต้า ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดำเนินการด้วยตนเอง เพื่อสร้างแบบจำลองข้อมูลและสร้างการแสดงข้อมูลภาพที่สามารถนำเสนอต่อผู้บริหาร ผมและทีมเลือก Tableau เนื่องจากความสามารถในการแสดงข้อมูลภาพและง่ายต่อการใช้งาน เริ่มต้นด้วย Tableau Server โดยย้ายไปที่ Tableau Online อย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังในการประมวลผลที่ปรับขนาดได้และการอัปเกรดได้อย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

เวลาที่เคยใช้ในการสร้างแดชบอร์ดได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปสู่การขยายการใช้ Tableau และแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นว่า พวกเขาสามารถกรองและวิเคราะห์ข้อมูลของตนเองได้อย่างไร สิ่งนี้นำไปสู่การปรับใช้ Tableau อย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีพนักงานของสยามคูโบต้าประมาณ 200 คนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบ Tableau รวมถึง 80 คนทำหน้าที่ในการสร้างการแสดงข้อมูลภาพ

นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมและเพิ่มขีดความสามารถมากขึ้น และมีใช้งาน Tableau ภายในหลาย ๆ กรณี รวมถึงการคาดการณ์การขาย การตรวจสอบสายการผลิต การวิเคราะห์การแบ่งกลุ่มลูกค้า และการคาดการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมการกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของลูกค้า

และแน่นอนว่า เรายังใช้ Tableau เพื่อแสดงข้อมูลภาพที่รวบรวมจากอุปกรณ์ IoT ในลูกค้าที่ทำเกษตรกรรม ซึ่งเมื่อบริษัทฯ เริ่มช่วยเหลือเกษตรกรในการใช้ประโยชน์จาก IoT เป็นครั้งแรก โดยอาศัยโปรแกรมเมอร์ในการสร้างและแก้ไขการแสดงข้อมูลภาพ ซึ่งตอนนี้ โปรแกรมเมอร์มีอิสระมากขึ้น มุ่งเน้นไปที่การรวบรวมข้อมูล และการแสดงข้อมูลภาพถูกสร้างและแชร์ให้กับผู้ที่ต้องการข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ประหยัดเวลาได้ถึงครึ่งวัน ถ้าทำการวิเคราะห์ข้อมูลทุกวัน
สยามคูโบต้า เริ่มใช้งาน Tableau ในเดือนเมษายน 2563 และหนึ่งในการแสดงข้อมูลภาพข้อมูลแรกที่สร้างขึ้นนั้น ถูกใช้เพื่อติดตามผลกระทบของ COVID-19 ต่อพนักงาน ซึ่งบริษัทฯ มีพนักงาน 3,000 คน และต้องทราบเป็นประจำทุกวันว่าพวกเขามีสุขภาพแข็งแรงหรือมีอาการใด ๆ หรือไม่  โดยในช่วงแรก Google Form ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสอบถามสั้น ๆ เพื่อให้พนักงานกรอกทุกวันและรวบรวมผลลัพธ์ด้วยตนเอง ซึ่งตอนนี้ข้อมูลไหลตรงจาก Google ไปยัง Tableau แทน และการแสดงข้อมูลภาพจะได้รับการรีเฟรชโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ช่วยให้บริษัทประหยัดเวลาในการวิเคราะห์ได้ครึ่งวันทุกวัน

“ขั้นตอนต่อไปสำหรับเราคือ การขับเคลื่อนการใช้ข้อมูลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในรูปแบบวัฒนธรรมของเรา เพื่อให้มันเริ่มเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ และจะช่วยให้เรามองธุรกิจผ่านมิติต่าง ๆ และให้ข้อมูลเชิงลึกในการให้บริการลูกค้าของเราได้อย่างเต็มที่”