เปิดข้อมูล ‘เอสซีจี เดคคอร์’ บริษัทย่อย SCC ที่เข้ามาแทน COTTO

December 20, 2023

บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันที่ 20 ธ.ค.66 เป็นวันแรก ซึ่งถือว่าเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้จากมูลค่าการระดมทุน 5,049.65 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 18,975 ล้านบาท โดย SCGD เป็นเจ้าของธุรกิจกระเบื้องและสุขภัณฑ์ภายใต้เครือ “ปูนซิเมนต์ไทย” โดย บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) หรือ SCC ถือหุ้น SCGD อยู่ 100% (บริษัทย่อย) แต่ภายหลังเสนอขาย IPO และแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย จะถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 73.4% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

ทั้งนี้ SCGD ได้เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นแทน บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ตามแผนการ Spin off ธุรกิจผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และสุขภัณฑ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศออกจาก SCC โดยตั้ง SCGD เป็นแกนนำ (Flagship company) แทน

โดยแผนผังโครงสร้างบริษัทเป็นดังนี้

สำหรับโครงสร้างธุรกิจของ SCGD แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

1) ธุรกิจตกแต่งพื้นผิว (Decor Surfaces)

2) ธุรกิจสุขภัณฑ์ (Bathroom)

3) ธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์

โดยสัดส่วนของรายได้ล่าสุดในงวด 6 เดือนของปี 2566 มีดังนี้

จะเห็นได้ว่าสำหรับธุรกิจตกแต่งพื้นผิวนั้น SCGD ยังพึ่งพาการขายภายในประเทศเป็นจำนวนมาก ด้วยสัดส่วนที่มากถึง 43.7% ขณะที่รายได้จากประเทศอื่นๆ ยังไม่สูงมากนัก นอกจากนี้ธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ยังมีสัดส่วนเพียงแค่ 3.9% เท่านั้น ซึ่งจากการที่เป็นแบรนด์ที่อยู่มาอย่างยาวนาน มีชื่อเสียง อาจจะเป็นโอกาสให้บริษัทขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมได้

นอกจากนี้เป็นที่น่าจับตามองว่าภายหลังการ Spin off ธุรกิจออกมาแล้วจะทำให้การบริหารคล่องตัวขึ้นหรือไม่ และจะมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้ดีขึ้นหรือไม่ เพราะการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ SCC จะรวมธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกปูพื้น บุผนัง และสุขภัณฑ์ ให้เข้ามาอยู่ภายใต้ SCGD เพียงบริษัทเดียว และโอนหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออก เพื่อให้ธุรกิจผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และสุขภัณฑ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ของกลุ่ม SCC บริหารได้คล่องตัวมากขึ้น