แม้สถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันจะบีบบังคับให้เรารวมตัวกัน หรือจัดงานจัดสรรค์ได้น้อยลง แต่เรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่สามารถทำให้การบริโภคของทั่วโลกแผ่วลงไปเลย
มีข้อมูลจาก fortunebusinessinsights.com รายงานมูลค่าตลาดไวน์ทั่วโลกปี 2021 มีมูลค่ากว่า 3.40 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องมากถึง 4.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ย 4.3%
ซึ่งล่าสุดอีกหนี่งความแปลกใหม่ของตลาดไวน์โลก เมื่อ SinfooTech บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญในด้านวิจัยและพัฒนา Food Technology ที่ได้คิดค้นและวิจัย หมักเวย์ถั่วเหลืองออกมาเป็น ไวน์ถั่วเหลือง ที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของไวน์ถั่วเหลือง เริ่มในปี 2016 Chua Jian Yong นักศึกษาปริญญาเอก ซึ่งกำลังศึกษาในโปรแกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ได้ทำค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับการหมักเวย์ถั่วเหลือง มีอาจารย์ที่ปรึกษา อย่างรองศาสตราจารย์ Liu Shao Jain ร่วมกันต่อยอดและพัฒนา โดยที่ทั้งคู่มีความสนใจในเรื่อง ‘อาหารที่ยั่งยืน’ เหมือนกัน
หลังจากทดลองได้ลองผิดลองถูกกันไปพักใหญ่ ในที่สุดก็พบทางสว่างในการนำเทคนิคเปลี่ยนรูปทางชีวภาพจากเวย์ถั่วเหลือง พร้อมหมักด้วยยีสต์ ใช้เวลาประมาณ 18-30 วัน และหยุดกระบวนหมักด้วยความร้อนอย่างรวดเร็ว (Flash Heating Process) ทำให้กลายมาเป็นเครื่องดื่ม ไวน์ถั่วเหลือง (Soy Wine) ครั้งแรกของโลก ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อ ‘Sachi’
โดยจุดเด่นของ ‘Sachi’ มีรสชาติอ่อน ดื่มง่าย กลิ่นหอมหวานคล้าย Moscato (หรือองุ่นขาวสายพันธุ์เก่าแก่ มีรสชาติหวานละมุน) มีแอลกอฮอล์ 5.8% โดย ปริมาณ 100 ML ให้ 70 แคลอรี ราคา 38 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 932 บาท (500ml)
นอกจากนี้ เครื่องดื่มไวน์ดังกล่าวยังเป็น Gluten-Free ที่ผู้แพ้กลูเตนสามารถดื่มได้ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ซึ่งอีกหนึ่งความน่าสนใจ ที่หลายคนอาจไม่ทราบ คือ ในกระบวนการผลิตของโรงงานเต้าหู้ สามารถสร้างของเสีย หรือ Food waste ได้มากถึง 1 หมื่นตันต่อปี (จำนวนเฉพาะจากประเทศสิงคโปร์เท่านั้น) ซึ่งการที่บริษัทฯ สามารถนำมาต่อยอดเป็นเวย์ถั่วเหลือง และหมักออกมาเป็นไวน์ได้ ไม่เพียงเพิ่มมูลค่าของสินค้า แต่ยังเป็นการช่วยลดจำนวนขยะโลกที่ตอนนี้เป็นปัญหาระดับโลกอีกด้วย
ปัจจุบัน Chua Jian Yong เป็นอาจารย์ประจำภาควิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัย National University of Singapore (NUS) และแม้ไม่ได้มีบทบาทในบริษัทฯ แล้ว แต่ถือว่าเขาคือหนึ่งในคนสำคัญของการก่อตั้ง SinfooTech เลยทีเดียว
ทั้งนี้บริษัทฯ ก็ยังคงมุ่งตีตลาดคนรักไวน์เพื่อสุขภาพต่อไป โดยได้วางแผนลุยตลาดภายในประเทศอย่างเต็มที่ก่อนส่งออกนอกประเทศ ทั้งมีการเปิดตลาดเข้าไปในร้านอาหาร และงานแต่ง พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้หญิง ที่มองหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มง่าย รวมถึงกลุ่มผู้ชายวัย 50-60 ปี ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็น 48% ของสัดส่วนผู้บริโภค
ข้อมูล : sinfootech / thepeakmagazine / fortunebusinessinsights