ถอดกลยุทธ์บริหาร ‘อาร์เอส กรุ๊ป’ เน้นสร้างองค์กร สร้างคน ศึกษาตลาดด้วยตัวเอง

โปรย : หากพูดถึงองค์กรที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงต้องมีชื่อของ ‘อาร์เอส กรุ๊ป’ เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกเทรนด์ เกิดจากการวางโครงสร้างบริษัทที่เน้นความรวดเร็ว และลงไปศึกษาตลาดอย่างใกล้ชิดทำให้อาร์เอสในวันนี้ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น

 คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเฮียฮ้อ ประธานกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS บอกกับเราว่า กลยุทธ์การบริหารธุรกิจที่ทำให้อาร์เอส กรุ๊ป ประสบความสำเร็จทั้งธุรกิจพาณิชย์ และธุรกิจสื่อ เกิดจากการให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างองค์กรให้มีความพร้อมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องคำนึงถึง 2 หัวใจหลัก คือ โครงสร้างองค์กร และคนในองค์กร

ในด้านของโครงสร้างองค์กร ต้องทำให้โครงสร้างองค์กรมีความยืดหยุ่นสูง และมีความกระชับ พร้อมสำหรับการปรับตัวตลอดเวลา โดยเน้นกลยุทธ์วางโครงสร้างแบบ สั้น ไม่ลึก และรวดเร็ว ส่วนในด้านของคนในองค์กรต้องเน้นเรื่องของการสร้าง Culture ให้เกิดสังคมของคนที่มีแนวความคิดคล้ายกัน และมี Passion ในการทำงาน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการ Upskill และ Reskill พนักงานในองค์กรมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานให้เกิดการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ และมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดแข็งขององค์กร

ผู้บริหารอาร์เอสทุกคนต้องลงพื้นที่ด้วยตัวเอง

อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการบริหารฉบับอาร์เอส คือ ผู้บริหารทุกคนจะต้องออกไปศึกษาตลาดด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้เห็นถึงพฤติกรรมลูกค้า คู่ค้า หรือสังคมรอบข้างว่าเปลี่ยนไปอย่างไร นำมาซึ่งการวางกลยุทธ์ทางการตลาด และทางธุรกิจได้แม่นยำขึ้น

“ผู้บริหารของ อาร์เอส ทุกคนจะเป็นนักคิด และนักปฏิบัติ ที่ต้องลงไปทำงานกับลูกน้อง ไม่ใช่การนั่งหอคอยอย่างเดียว และการทำแบบนี้จะทำให้เราเข้าใจตลาด ได้เห็นว่าสังคมเปลี่ยนไปยังไง ทำให้การวางกลยุทธ์ทางการตลาด และทางธุรกิจได้แม่นยำขึ้น”

ปรับตัวครบทุกด้านรับมือโควิด-19

ช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาร์เอสแก้เกมด้วยการหาแนวทางที่จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อย่างเช่นการปรับราคาสินค้า และปริมาณให้ลดลง เน้นความคุ้มค่า เพราะลูกค้าต้องการระมัดระวังเรื่องของการใช้จ่าย  รวมถึงต้องบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ยังได้ออกสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดและเกี่ยวข้องกับโควิด-19 อย่างเช่น หน้ากากอนามัยที่มีวางขายทั้งในร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป รวมถึงช่องทาง Modern Trade

ปรับตัวอย่างรวดเร็วรับทุกเทรนด์ธุรกิจ

อาร์เอส ถือเป็นบริษัทที่ปรับตัวเข้ากับเทรนด์ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และใช้เทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกับทุกเรื่อง อย่างช่องทางขายสินค้าผ่าน Tele Sale ได้นำ Machine Learning เพื่อโทรศัพท์หาลูกค้า ซึ่งระบบเหล่านี้จะเรียนรู้ไปพฤติกรรม และช่วงเวลาการรับสายของลูกค้าจึงช่วยสนับสนุนยอดขายของบริษัทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทก็ยังให้ความสำคัญกับช่องทางการขายออนไลน์แพลตฟอร์ม ถึงแม้ปัจจุบันจะยังมีสัดส่วนที่ไม่มากนัก แต่การเติบโตค่อนข้างสูง และเป็นเทรนด์การซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบัน

ขณะที่ ล่าสุด ได้ออกเหรียญคริปโต Pop Coin ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ออกเหรียญในลักษณะนี้ โดยเหรียญดังกล่าวจะมาตอบโจทย์ Stakeholder ด้วยหลักการทำงานคือเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และสามารถนำมาใช้จ่ายใน Ecosystem ของอาร์เอส ด้วยการเชื่อมโยง Big Data ในทุกธุรกิจเข้าด้วยกัน โดย Pop Coin ยังสามารถซื้อขายในผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ภายเดือนมกราคมปี 2565 อีกด้วย

“Pop Coin จะสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ ตอนนี้กระแสตอบรับค่อนข้างดี เพราะเราใช้เวลาออกแบบมากว่า 1 ปี คิดค้นมาในทุกมิติ ซึ่งการออกเหรียญมีแต่ได้กับได้ หากมองในมุมธุรกิจพาร์ทเนอร์ก็จะได้รับความสะดวกสบาย ในมุมของอาร์เอส ก็จะเข้ามาช่วยเรื่อง Data ทั้ง Entertainmerce เพราะ Pop Coin จะเข้ามาควบรวมข้อมูลระหว่างธุรกิจพาณิชย์ และธุรกิจสื่อเข้าด้วยกัน”

Entertainmerce ยังขยายได้อีกไกล

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของอาร์เอส คือ ธุรกิจพาณิชย์ 64% และธุรกิจสื่อ 31% ส่วนธุรกิจเพลงและอื่น ๆ อยู่ที่ 5% ซึ่งธุรกิจพาณิชย์และสื่อที่เรียกว่า Entertainmerce กินสัดส่วนรวมกัน 95% โดยอาร์เอส ยังคงมุ่งเน้นขยายธุรกิจภายใต้คอนเซป Entertainmerce เพราะเป็นตลาดที่ค่อนข้างกว้าง โดยที่ผ่านมาได้ขยายตลาดสู่สินค้าใหม่ ๆ ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่ม Functional Drink เพราะเป็นเทรนด์เครื่องดื่มดูแลสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยม รวมไปถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง

“เราจะยังพุ่งเป้า 2 ธุรกิจนี้เป็นหลัก หากอะไรก็ตามที่เป็น Entertainmerce เราจะต่อยอดและทำทั้งหมด ถ้าเจอสิ่งที่น่าสนใจก็จะหยิบมาวิเคราะห์ และพัฒนา อย่างเช่นที่ผ่านมาเราพบข้อมูลว่าลูกค้าของเราส่วนใหญ่เลี้ยงสุนัขเลี้ยงแมว ก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะขยายสู่ตลาดอาหารสัตว์”

ส่วนความท้าทายที่รออยู่ คุณสุรชัย มองว่าเป็นเรื่องของภาพรวมตลาดที่จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2565 จะเป็นปีที่ดีของอาร์เอส เพราะในปี 2564 ที่ผ่านมาได้ดำเนินแผนการขยายธุรกิจ และพัฒนาไปหลายด้าน และจะไปออกดอกออกผลในปีหน้าทั้งในมุมธุรกิจ และผลประกอบการ