เบื้องหลังความสำเร็จ น้ำนมข้าวโพด แบรนด์ภูตา

บทเรียนจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่ด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม เท่านั้น แต่กระทบแทบทุกอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนประเทศในหลาย ๆ มิติ

 

และบาดแผลจากจุดนั้น ส่งผลให้ธุรกิจของคุณคมเดช วุฒิสุข ประธาน แทบจะเดินต่อไม่ได้ นั่นเพราะลูกค้ารายใหญ่ถอนทุนออกไป แน่นอนทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

คุณคมเดช วุฒิสุข ประธานบริษัท ภูตะวัน ฟู้ดส์ แอนด์ เบเวอร์เรจส์ จำกัด ซึ่งได้รับรางวัลธุรกิจการเกษตรแห่งปี จากเวที THAILAND TOP SME AWARDS 2023 เล่าถึงปัจจัยที่ทำให้บริษัท ภูตะวัน ฟู้ดส์ แอนด์ เบเวอร์เรจส์ จำกัด ยังคงรักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจเอาไว้ได้ ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดใหญ่ นั่นคือ ความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ซึ่งก็คือ มาตรฐานการให้บริการทั้งที่วางไว้สูงกว่ามาตรฐานที่ลูกค้าต้องการ

 

“แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 จะส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคและเรา แต่สินค้าของเราสามารถพิชิตโอกาสจากวิกฤตนี้ และยังนับเป็นโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น” คุณคมเดช กล่าวพร้อมบอกว่า

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาอัตราการเติบโต คือการที่บริษัทฯ สามารถปรับตัวและการสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้ดี จากช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย จนกล่าวได้ว่าเราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ บ่มเพาะความเชี่ยวชาญจากจุดเริ่มที่เปิดขายน้ำนมข้าวโพด แบรนด์ ภูตา ตามตลาดนัด เพื่อต้องการเช็กกระแสตอบรับจากผู้บริโภค จนได้ผลตอบรับที่ดีมากจาก ทั้งจากกลุ่มคนทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแม่บ้านที่หาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกลับไปให้คนในครอบครัวได้บริโภค ดังนั้นจึงเดินหน้าจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัท เพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานต่อไป

 

“เราเป็นธุรกิจ SMEs จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อ พ.ศ. 2559 เพื่อประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำนมข้าวโพดเพื่อสุขภาพแบรนด์ ภูตา โดยจุดเด่นผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวโพด แบรนด์ภูตา เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่เน้นดูแลสุขภาพ รวมถึงกลุ่มผู้สูงวัย ด้วยการใช้วัตถุดิบที่คัดมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ใส่วัตถุกันเสีย สีผสมอาหาร และปริมาณน้ำตาลเพียง 2% โดยกระบวนการผลิตที่ใส่ใจทุกขั้นตอน

 

เครื่องจักรสามารถแกะเม็ดข้าวโพดทุกเม็ด แทนการฝาน เพื่อให้ได้คุณประโยชน์จากจมูกข้าวโพดเต็ม ๆ คำ จากนั้นนำไปคั้นถึง 3 รอบ เพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่สุด และเคี่ยวจนแตกมันเพื่อความกลมกล่อม ซึ่งในน้ำข้าวโพด 1 ขวด ปริมาณ 270 มิลลิลิตร สามารถให้พลังงานเพียง 90 กิโลแคลอรี และไม่มีคอเลสเตอรอล

 

ส่วนช่องทางการจำหน่ายสินค้า ต้องถือว่า น้ำนมข้าวโพด แบรนด์ภูตา ค่อนข้างมีภาษีดีกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ และได้สร้างความเปลี่ยนแปลง จนสร้างภาพจำได้อย่างชัดเจน ในแง่การหาซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย ในร้านสะดวกซื้อ อย่าง 7-ELEVEN, CP Freshmart ในเขต กทม. และปริมณฑล, Lawson 108, Jiffy, Betagro Deli รวมถึงร้านอาหารทั่วไป ร้านขายเครื่องดื่ม และร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ”

 

สำหรับเป้าหมายของแผนธุรกิจในอนาคต คุณคมเดช บอกกับเราว่า  เตรียมขยายช่องทางการวางจำหน่ายสินค้าเข้าโมเดิร์นเทรดอีก 5 บริษัท รวมถึงเตรียมขึ้นไลน์การผลิตทำนมข้าวโพดชนิดผงชงดื่ม เพื่อการส่งออกในตลาดต่างประเทศ โดยธุรกิจในอนาคตจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1. ทำตลาดในประเทศให้ครบทุกห้างสรรพสินค้า และ 2. ทำนมข้าวโพดผงเพื่อส่งออกต่างประเทศ

 

ประเด็นนี้ถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจที่น่าสนใจ หากมองถึงอุตสาหกรรมอาหารจากพืช หรือ Plant-based Food ที่ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงและมีความท้าทายต่อวิธีการมองหรือแนวคิด และวิธีการผลิตอาหารสำหรับบริโภคด้วย จากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและนักโภชนาการคาดคะเนว่า การปรับตัวและกระแสความสนใจเลือกรับประทาน Plant-based protein แทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป แม้จะผ่านพ้นวิกฤต Covid-19 ไปแล้ว เนื่องจากผู้คนต่าง ๆ ได้ทดลองและได้เริ่มรับประทาน ประกอบกับผลที่ดีต่อสุขภาพ

 

อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการอาหารเน้นว่าควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณยังคงได้รับสารอาหารที่จำเป็นในแต่ละวันที่เพียงพอต่อร่างกายแล้วหรือยัง เมื่อต้องเลือกรับประทาน Plant-based protein

 

เห็นได้ชัดว่า กุญแจสำคัญของความสำเร็จของน้ำนมข้าวโพด แบรนด์ภูตา ของบริษัท ภูตะวัน ฟู้ดส์ แอนด์ เบเวอร์เรจส์ จำกัด ที่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างจริงใจต่อคู่ค้าและผู้บริโภค ด้วยการทำสินค้าที่มีคุณภาพ ดูแลลูกค้า และยังมองถึงอนาคตในธุรกิจ Plant-based Food ที่มีมูลค่ามหาศาล จึงทำให้บริษัทฯ คว้ารางวัลธุรกิจการเกษตรแห่งปี จากเวที THAILAND TOP SME AWARDS 2023 ไปครองได้สำเร็จ

เขียนและเรียบเรียง : วิทยา กิจชาญไพบูลย์
ติดตาม Business+ ได้ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS