RISE เบื้องหลังพลังขับเคลื่อน OR

August 7, 2024

RISE เบื้องหลังพลังขับเคลื่อน OR

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR “ดิษทัต ปันยารชุน” มุ่งมั่นเสริมแกร่งให้กับธุรกิจเดิม และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ Empowering All toward Inclusive Growth ผ่านแนวคิด RISE ให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เพื่อทุกการเติบโตร่วมกันในทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจ Megatrend ร่วมกับ Partners ที่เติบโตร่วมกันแบบ Inclusive Growth ทุกคนได้ประจักษ์จากผลงานในปีที่ผ่านมา โดย “ดิษทัต ปันยารชุน” ที่นำ OR เติบใหญ่จากหลักปรัชญาการทำงานบนแนวคิด RISE โดยคำว่า RISE ประกอบด้วยตัวอักษร 4 ตัว คือ R I S E ซึ่งแต่ละตัวมีความหมาย ดังนี้

  1. Result การทำงานโดยมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
  2. Intelligence การตัดสินใจที่ชาญฉลาด บนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ
  3. Synergy การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนองค์กร
  4. Entrepreneurship การทุ่มเทในบทบาทหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ

“ด้วยแนวทางการทำงาน RISE นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการทำงานของผม แต่เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดให้กับบุคลากร OR เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามได้ เพื่อช่วยกันสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับ OR ในระยะเวลาอันสั้น” ดิษทัตระบุ และเพียงในปีแรก “ดิษทัต” สร้างองค์กรพื้นฐานให้แข็งแกร่ง วัดได้จากผลการดำเนินงานของ OR ในไตรมาสแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,723 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100% โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,650 ล้านบาท หรือกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566

นอกจากนี้ OR ยังมุ่งมั่นในการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่านทาง Platform ต่าง ๆ ของ OR เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และ Net Zero ปี 2593 ไม่ว่าจะเป็นการบุกเบิกด้านพลังงานแห่งอนาคต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านของการใช้พลังงาน การพัฒนา Platform แห่งอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและการใช้ชีวิตที่หลากหลาย และการผลักดันให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจสู่ความเป็น Green ตลอดทั้งระบบนิเวศของ OR

ล่าสุด OR ได้นำระบบ SAP S/4HANA เข้ามาส่งเสริมศักยภาพการทำงาน ทั้งภายในองค์กรและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และได้เริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Digital Transformation Journey ของ OR ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำธุรกิจขององค์กรด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ในการนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ SAP ที่รวมฟังก์ชันในการบริหารจัดการธุรกิจพลังงานและค้าปลีกไว้ด้วยกัน เข้ามาใช้เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน รองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ “ดิษทัต” บอกถึงกลยุทธ์ที่จะพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน บน 4 แกนสำคัญประกอบด้วย

  1. การสื่อสาร : ให้ความสำคัญกับการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกแบบ 360 องศา กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม นั่นเพราะ OR ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่มีลูกค้า นักลงทุน ผู้ค้า พนักงาน สังคม และชุมชน รวมถึงประเทศ ที่ต้องทำให้พวกเขาเข้าใจว่า “OR กำลังทำอะไร และสิ่งที่เราทำนั้นจะส่งผลดีต่อพวกเขาอย่างไรบ้าง”
  2. การผลักดันเรื่องดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล : เพื่อทำให้ OR เป็น Digital and Data Driven Organization ให้ได้ นั่นเพราะ จากธุรกิจ Oil and Retail มาเป็น Mobility และ Lifestyle ระบบหลังบ้านต่าง ๆ เรื่องของ Digital Foundation ต้องถูก Redesign ให้สามารถตอบโจทย์ธุรกิจในวันนี้ไปจนถึงธุรกิจใหม่ ๆ ของ OR อีกในอนาคต ซึ่ง OR กำลังมุ่งเข้าสู่ธุรกิจที่เข้าใกล้ผู้บริโภคในหลากหลายมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในเรื่องของพลังงานเพียงอย่างเดียว ดังนั้น การทำงานต้องเป็นอะไรที่ Seamless มีการจัดเก็บ Data อย่างเหมาะสม นำเสนอบน Dashboard ได้แบบ Real Time เชื่องโยงกันได้หมด ลดเวลา ลดความซ้ำซ้อน ปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  3. New Headquarter : โดย OR กำลังสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทุนมนุษย์ ดังนั้น การสร้าง Learning Space ในพื้นที่แห่งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้พนักงานได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Unlearn, Relearn, Upskill และ Reskill ต่อยอดความรู้ เสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ ทั้งปัจจุบันและอนาคต
  4. การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนธุรกิจเชิงรุก (Active Organic and Inorganic Growth Investment Portfolio Management) โดย OR มีการวางแผนในการเติบโตทั้ง 2 แบบ ซึ่งเป็นทั้งการกระจายความเสี่ยงและการเพิ่มช่องทางในการเติบโต โดยที่เราให้ความสำคัญกับการบริหารเชิงรุก มีการ Revisit Performance อย่างสม่ำเสมอ และสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจที่ Smart ทันท่วงที มีข้อมูลมาสนับสนุน รวมถึงบริษัทที่ OR จะเข้าไปลงทุนนั้นก็จะได้รับนโยบายจากตัวแทนของ OR ที่เข้าไปร่วมประชุมกรรมการ เพื่อคอยให้คำปรึกษา คำแนะนำ และมีการติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด

ผลงานที่เด่นชัดข้างต้น จะพบว่า ด้วยศักยภาพของ “ดิษทัต” ถือเป็นยุคแห่งการเริ่มต้นยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาอันรวดเร็วและปราศจากอุปสรรค นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งและไม่ธรรมดาจริง ๆ

รับชมในรูปแบบ Video