เปิด 12 อันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในไทย

ไม่ว่าคุณเป็นนักเดินทางตัวยง หรือนักเดินทางที่ออกเดินทางท่องเที่ยวนาน ๆ ครั้ง และไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ คุณต้องเคยจองที่พักหรือโรงแรมด้วยวิธีการจองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งมีมากมายหลายแพลตฟอร์ม แล้วอยากรู้หรือไม่ว่าแพลตฟอร์มไหนทำรายได้สูงสุดในประเทศไทย ‘Business+’ จะพาไปหาคำตอบกัน

 

SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มโฮเทลคอมเมิร์ซระดับโลก เปิดเผยรายชื่อบริษัทที่มีรายได้จากการจองโรงแรม 12 อันดับแรก ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงแรมของ SiteMinder ประจำปี 2022

 

โดยอันดับแรกคือ Booking.com ผู้ให้บริการจองที่พักและเป็นสื่อกลางระหว่างนักเดินทางกับที่พัก ซึ่งมีตัวเลือกสำหรับเข้าพักทั้งหมดมากกว่า 28 ล้านรายการ จำนวนนี้รวมบ้านพัก อะพาร์ตเมนต์ และที่พักแปลกใหม่ประเภทอื่น ๆ กว่า 6.6 ล้านรายการ โดยให้บริการใน 43 ภาษา และมีตัวเลือกที่พักออนไลน์ให้เลือกจองกว่า 29,475,748 ล้านห้อง ในที่พักกว่า 2,563,380 แห่ง

 

อันดับ 2 คือ Agoda ซึ่งอยู่ในเครือ Booking Holdings Inc. เช่นเดียวกับ Booking.com, Priceline.com, Kayak.com, Rentalcars.com และ Opentable.com  โดย Agoda เป็นแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ ที่นำเสนอข้อเสนอราคาย่อมเยาสำหรับโรงแรม เที่ยวบิน กิจกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

อันดับที่ 3 คือ เว็บไซต์โรงแรม หรือการจองโดยตรงกับทางโรงแรมนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ค่อนข้างสูงในประเทศไทย และมีการจองโดยตรงเพิ่มขึ้นทั่วโลกเมื่อเทียบกับปี 2019 เป็นผลจากการที่ที่พักหลายแห่งที่ลงทุนในการทำเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและดึงดูดปริมาณการเข้าชมมากขึ้น

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่น่าจับตามอง เช่น WebBeds ที่ขึ้นมาอยู่อันดับ 9 เทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่อันดับ 10 มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และ Goibibo & MakeMyTrip แพลตฟอร์มสัญชาติอินเดีย ติด 12 อันดับแรกของประเทศไทยอีกครั้ง เนื่องจากการกลับมาของนักเดินทางชาวอินเดียที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2022

 

แม้ว่า Airbnb ไม่ติด 12 อันดับในประเทศไทย แต่จากข้อมูลการจัดอันดับของ SiteMinder ในประเทศอื่น ๆ Airbnb ติด 12 อันดับแทบทั้งสิ้น โดยในปี 2019 Airbnb ติดอันดับเพียง 28% ของรายการ 12 อันดับแรกของ SiteMinder แต่ในปี 2022 ติดอันดับถึง 89% พิสูจน์ให้เห็นว่า Airbnb เป็นแพลตฟอร์มที่พักที่มีผลงานแข็งแกร่งหลังการแพร่ระบาด ซึ่งมีผู้จองที่พักหลากหลายประเภทไม่ใช่เพียงแค่ที่พักให้เช่า เนื่องจากนักเดินทางแสวงหาประสบการณ์ที่พักที่น่าจดจำในทุกประเภท

 

ซึ่งรายงานระบุว่า จุดหมายปลายทางนอกเมืองหลักในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมใน Airbnb สำหรับการเข้าพักระยะยาวภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ได้แก่ เกาะพะงัน เกาะลันตา และกระบี่

 

จากการจัดอันดับทั้งหมดแม้ว่า Booking.com และ Expedia Group จะครองอันดับแรก ๆ ในหลายประเทศเป็นส่วนใหญ่ และเป็นตัวกลางสำคัญสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมในปี 2022 แต่จากข้อมูลอินไซต์ของ SiteMinder เน้นย้ำว่าการประชาสัมพันธ์ที่พักตั้งแต่ 5 ช่องทางขึ้นไปสามารถเพิ่มการจองได้ถึง 40%

การเพิ่มความครอบคลุมในการเข้าถึงการจองที่พักในหลายช่องทาง ทำให้เข้าถึงคนที่มีโอกาสเป็นแขกได้หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการโรงแรมจึงควรสร้างช่องทางที่หลากหลายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับที่พัก ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของที่พักเอง แพลตฟอร์มจองโรงแรมยอดนิยม หรือแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอย่าง Airbnb ที่ ‘Business+’ มองว่ายังสามารถเติบโตได้อีกในประเทศไทย

 

เนื่องด้วย Airbnb มีโมเดลแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นไปที่ท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น  อีกทั้ง ปีที่ผ่านมาไทยถูกยกให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับคนทำงานทางไกล และมีการค้นหาที่พักระยะยาวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่พักในการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ

 

ที่มา : SiteMinder, เว็บไซต์บริษัท

 

เขียนและเรียบเรียง : สีน้ำ แผ่วฉิมพลี

 

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

 

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #OnlineTravelAgency #Travel #Booking #Agoda #Airbnb #โรงแรม #ที่พัก #SiteMinder