8 ทักษะ อัพสกิลสู่การเป็นหัวหน้างานที่ดี

ในชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตาม ทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่อยากจะมีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีหัวหน้างานที่ดี ที่นอกจากจะคอยปกครองลูกน้องแล้ว ยังจะต้องมีทักษะในด้านต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันกับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อผลักดันให้ผลงานบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

โดย Business+ ได้นำเอา 8 ทักษะเพิ่มเติมที่จะช่วยส่งเสริมบทบาทการเป็นหัวหน้างานที่ดียิ่งขึ้นจาก ‘Jennifer Herrity’  ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการด้านอาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 12 ปี ในการแนะแนวอาชีพด้านการสรรหาบุคลากรและบทบาทการเป็นผู้นำ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นในการหางานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งได้ทำการแนะนํากระบวนการหางานผ่านการแนะนําอาชีพแบบตัวต่อตัวผ่านการสัมมนาออนไลน์ และคลิปวิดีโอแนะนําอาชีพในช่อง YouTube โดยเธอได้สรุปทักษะเพิ่มเติมสำหรับหัวหน้างานไว้ดังนี้

1. ทักษะการสื่อสาร

ในบรรดาทักษะที่หัวหน้างานควรมี การสื่อสารถือเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุด เนื่องจากหัวหน้างานที่ดีต้องสามารถสื่อสารกระบวนการ, ความคาดหวัง และเป้าหมายให้กับสมาชิกในทีมได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสะท้อนผลการปฏิบัติงานของหัวหน้าในเชิงบวกด้วย นอกจากนี้ การแจ้งให้พนักงานทราบอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความคืบหน้าของทีม รวมถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และแผนการในอนาคตจะทำให้สมาชิกในทีมแต่ละคนรู้สึกมีส่วนร่วมและมีคุณค่ามากขึ้น

 

2. การเข้าถึงและการเอาใจใส่

หัวหน้างานที่ดีจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมของตน และควรเข้าถึงได้ง่ายเมื่อสมาชิกในทีมมีคำถาม, ข้อขัดแย้ง หรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยในฐานะหัวหน้างานจะต้องรับฟังเมื่อสมาชิกในทีมมีข้อร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะในที่ทำงาน ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นต้องมีทักษะทางสังคมที่สำคัญ เช่น ความเห็นอกเห็นใจและความฉลาดทางอารมณ์ (การตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของตนเองและของผู้อื่น)

 

3. ทักษะการจัดการ

หน้าที่รับผิดชอบที่สำคัญที่สุดของหัวหน้างานคือการรับผิดชอบต่อประสิทธิภาพการทำงานของทีม ซึ่งรวมถึงการจัดการตารางเวลาของพนักงาน โดยหลังจากมอบหมายงานให้เหมาะสมกับสมาชิกในทีมแล้ว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนทำตามกำหนดเวลาได้ ทั้งนี้ หัวหน้างานต้องสามารถดูแลให้สมาชิกในทีมทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

โดยความสามารถในการมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับพนักงานที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในทักษะการจัดการระดับสูงที่หัวหน้างานที่ดีพึงมี ซึ่งในข้อนี้หัวหน้างานจะต้องรับรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของพนักงานแต่ละคน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้งานออกมาสมบูรณ์แบบแล้ว ยังช่วยให้หัวหน้างานมีเวลามากขึ้นในการทำงานควบคุมดูแลและจัดการทีม หรือโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

4. ความสามารถในการปรับตัว

หัวหน้างานที่ดีต้องสามารถวางกลยุทธ์และตัดสินใจตามแต่ละสถานการณ์ แทนที่จะพยายามทำตามระเบียบการที่ตายตัว แต่ควรมีความยืดหยุ่นและมีความสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา และไม่กลัวที่จะนำแนวคิดใหม่ ๆ ไปปรับใช้ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การทำงาน ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้สมาชิกในทีมมีความมั่นใจและไว้วางใจในความสามารถของหัวหน้างานในการเป็นผู้นำมากขึ้น

 

5. ความมั่นใจและการมองโลกในแง่ดี

ทัศนคติและพฤติกรรมของหัวหน้านั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อบรรยากาศในที่ทำงาน พยายามควบคุมตนเองในแต่ละวันและแต่ละสถานการณ์ด้วยการคิดบวกและมองโลกในแง่ดี พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการแสดงความมั่นใจทั้งต่อตนเองและสมาชิกในทีม อีกทั้งแสดงความกระตือรือร้นต่อวัตถุประสงค์ของบริษัทและเป้าหมายของงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และกระตุ้นความกระตือรือร้นของสมาชิกในทีมให้อยากบรรลุวัตถุประสงค์ไปพร้อม ๆ กัน

 

6. ความโปร่งใส

แม้ว่าหัวหน้างานจำเป็นจะต้องเก็บความลับในบางเรื่องไว้ส่วนตัว เช่น ข้อมูลพนักงานที่ละเอียดอ่อน หรือความลับทางการค้าของบริษัท เป็นต้น แต่ก็ควรดำเนินการทุกเรื่องอย่างโปร่งใสที่สุด โดยการเป็นหัวหน้างานที่ดีจำเป็นจะต้องมีความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมากับผู้ใต้บังคับบัญชา อีกทั้งจำเป็นจะต้องแบ่งปันข้อมูลกับสมาชิกในทีมเกี่ยวกับความสำเร็จ, ความล้มเหลว, โอกาส หรือข้อกังวลใด ๆ ของแผนกหรือองค์กร ตามที่เห็นสมควร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในทีม

นอกจากนี้ หัวหน้างานที่ดียังต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากพอที่จะรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของโปรเจกต์หรือทางเลือกที่ไม่ดี ซึ่งความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ในข้อนี้สามารถช่วยเพิ่มความเคารพจากสมาชิกในทีมที่มีต่อหัวหน้าในฐานะผู้นำได้เป็นอย่างดี

 

7. การทำงานเป็นทีม

หัวหน้างานที่ดีควรปฏิบัติต่อสมาชิกในทีมอย่างเท่าเทียมกันมากกว่าการมองพนักงานเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา โดยแทนที่จะออกคำสั่งและคาดหวังให้พนักงานปฏิบัติงานต่อไปเรื่อย ๆ หัวหน้าที่ดีควรนำสมาชิกในทีมเข้าร่วมในกระบวนการตัดสินใจและการกำหนดกลยุทธ์การทำงาน โดยปฏิบัติต่อสมาชิกทุกคนในฐานะหุ้นส่วนการทำงานเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกัน

ทั้งนี้ หากเกิดความขัดแย้งขึ้น หัวหน้างานควรมีความมั่นใจและหนักแน่นในบทบาทการกำกับดูแลของตนเอง แต่ยังต้องวางตัวเป็นกลางและไม่ลำเอียง เนื่องจากจะช่วยให้สมาชิกในทีมรู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมกับงานเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น

 

8. ความเต็มใจที่จะเรียนรู้

การเป็นหัวหน้าไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานหรืออาชีพที่ทำ รวมถึงอุตสาหกรรมตนอยู่ ดังนั้น การจะเป็นหัวหน้างานที่ดีที่สุดต้องพยายามพัฒนาทักษะและความรู้ของตนเองอยู่เสมอ โดยสามารถเรียนรู้ได้ไม่เพียงแค่จากผู้คนและพนักงานที่อยู่รอบตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถเรียนรู้จากสถานที่ทำงานหรือหาโอกาสศึกษาด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ควรแบ่งปันความรู้ที่มีให้กับสมาชิกในทีมและส่งเสริมให้ทุกคนมีความก้าวหน้าในอาชีพต่อไป

 

ทั้งนี้ แม้ว่าคำแนะนำในบทความนี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่ใช่ทักษะที่ยากอะไร แต่หากนำทักษะเหล่านี้ไปปรับใช้ในการทำงาน ก็อาจจะช่วยให้ความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชาดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ความสัมพันธ์ของคนในทีมดี ย่อมส่งผลให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้ผลงานในภาพรวมมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลลัพธ์ของงานเหล่านั้นก็จะกลายเป็นภาพสะท้อนการทำงานของคนทั้งทีมและหัวหน้างานในท้ายที่สุด

 

ที่มา : indeed

 

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #8ทักษะอัพสกิลสู่การเป็นหัวหน้างานที่ดี #หัวหน้างาน #หัวหน้างานที่ดี #leader #leadership