‘Netflix’ โชว์รายได้ Q3 โตทะลุ 8 พันล้านดอล ตอกย้ำความสำเร็จกลยุทธ์ ‘ห้ามแชร์รหัส’

เป็นอีกประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับการออกมาประกาศ ‘ห้ามแชร์รหัส’ ของผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหญ่อย่าง ‘Netflix’ ที่ทำเอาหลาย ๆ คนเกิดอาการเซ็งไปตาม ๆ กัน เนื่องจากการแชร์รหัสเป็นหนึ่งในวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการ ทำให้ภายหลังการออกมาประกาศนโยบายดังกล่าวก็มีผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มเป็นจำนวนมากที่ออกมาคัดค้านต่อเรื่องนี้ แต่แม้จะมีเสียงไม่เห็นด้วยมากแค่ไหน สุดท้ายนโยบายนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีอีกด้วย

‘Netflix’ ได้ออกมาประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 ที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากการนำกลยุทธ์ ‘ห้ามแชร์รหัส’ มาใช้ ซึ่งทำให้มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นสูงถึง 8.76 ล้านคนในไตรมาสนี้ ส่งผลให้มีรายได้ในไตรมาส 3/66 สูงถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 3/65 ที่มีรายได้อยู่ที่ 7.92 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรได้สุทธิอยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากปีก่อนหน้า

โดยการเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของจำนวนสมาชิกที่จ่ายค่าบริการที่ดีเกินคาดเป็น 247.15 ล้านราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าอาจเพิ่มขึ้น 5.49 ล้านราย หรือจำนวน 243.88 ล้านราย โดยจำนวนสมาชิกในไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2563 ซึ่งในเวลานั้นจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 10.1 ล้านราย และเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องอยู่แต่ในบ้านภายใต้มาตรการควบคุม COVID-19 อีกทั้งในส่วนของจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการแบบมีโฆษณาก็ปรับตัวขึ้นเกือบ 70% ในไตรมาส 3/66 เช่นกัน

พร้อมกันนี้ ‘Netflix’ ได้ประกาศว่าบริษัทจะยังคงตรึงราคาค่าบริการแบบมีโฆษณาไว้ที่ 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือนในสหรัฐ แต่จะปรับขึ้นค่าบริการแพคเกจเบสิกและพรีเมียมตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.66 โดยค่าบริการแพคเกจเบสิกจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และค่าบริการแพคเกจพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นเป็น 22.99 ดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนค่าบริการแพคเกจสแตนดาร์ดจะยังคงอยู่ที่ 15.49 ดอลลาร์ต่อเดือน

นอกจากนี้ ‘Netflix’ คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 4/66 จะเพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ระดับ 8.69 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ ‘Wall Street’ คาดการณ์ไว้ที่ 8.77 พันล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งคาดว่าจำนวนสมาชิกในไตรมาส 4/66 จะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับในไตรมาส 3/66

ที่มา : nytimes, InfoQuest, hollywoodreporter, cnbc

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #Netflix