‘Muketing’ กับ 5 ความเชื่อที่สร้างมูลค่า คาดปี 2567 เม็ดเงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน

ศาสตร์แห่งความเชื่อ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘มูเตลู’ มีมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี ซึ่งมีหลายหลักการณ์ตามวิจารณญาณของแต่ละบุคคล และเชื้อชาติ โดยความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้นจะมีทั้ง ของขลัง ไสยศาสตร์ การดูดวง ฮวงจุ้ย เป็นต้น แต่ความเชื่อก็มาพร้อมกับแรงศรัทธา ซึ่งในอดีตอาจมีเพียงแค่คนรุ่นเก่าที่ให้ความสนใจ แต่ปัจจุบันความเชื่อได้รับความนิยมและมีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของกลุ่ม Generation ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน จนก่อให้เกิดการตั้งสำนักวิชาชีพกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้มหาศาล

ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘Business+’ ได้นำเสนอบทความ ‘มูเตลู’ ธุรกิจที่เกิดจากความเชื่อ สร้างรายได้มากกว่า 50 ล้านเหรียญ’ โดยใจความสำคัญของบทความนี้เกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการทำนายดวงชะตาของสิงคโปร์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2564 ซึ่งจำนวนสถานประกอบการทำนายดวงชะตาในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 32.6% อ้างอิงตามสถิติล่าสุดที่กำหนดโดยกรมสถิติของสิงคโปร์ ส่งผลให้มูลค่าอุตสาหกรรมอยู่ที่ 56 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากในอดีต โดยจะเห็นได้ว่าไม่เพียงแค่ประเทศไทยที่พึ่งศาสตร์ความเชื่อเพื่อเป็นแนวทาง หรือ ไกด์ไลน์ในการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ต่างประเทศก็มีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้อ้างอิงข้อมูลจาก ม.หอการค้าไทย ระบุว่า ธุรกิจความเชื่อ สายมู หมอดู ฮวงจุ้ยไทย ถูกจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 โดยอยู่อันดับที่ 4 เนื่องจากอยู่ใน Soft Power ที่ช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและเผยแพร่วัฒนธรรม ขณะเดียวกันความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ประชาชนหันไปพึ่งพาสิ่งที่เป็นความเชื่อ และความศรัทธามากขึ้น ทำให้คาดจะมีเงินสะพัดในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 10,000-15,000 ล้านบาท หรือโตขึ้น 10-20%

โดยจากกระแสมูเตลูที่อยู่แทรกซึมคนทุก Gen และได้รับความนิยมในวงการธุรกิจต่าง ๆ จึงทำให้เกิดการตลาดสายมู (Muketing) ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 52 ล้านคนมีความเชื่อเรื่องมูเตลู โดยหากวัดจากจำนวนประชากรถือได้ว่ามีมากกว่าครึ่ง หรือคนเกือบทั้งประเทศมีการแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ Muketing หรือมีการนำศาสตร์ความเชื่อมาประยุกต์ผสมผสานกับการดำเนินธุรกิจจะดึงดูดความสนใจผู้บริโภคมากขึ้น

สำหรับ 5 อันดับความเชื่อด้านโชคลางของไทยที่มักเชื่อมโยงกับ Muketing คือ

1.การพยากรณ์ : โดยหากย้อนไปในอดีตนักพยากรณ์จะมีอายุที่ค่อนข้างมาก แต่ในปัจจุบันอายุของนักพยากรณ์เริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งการพยากรณ์ หรือการดูดวงมีรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ ไพ่ยิปซี, ลายมือ, โหงวเฮ้ง, วันเดือนปีเกิด เป็นต้น แต่ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลก็มีการดูดวงออนไลน์เกิดขึ้นถือได้ว่าได้รับความนิยมอย่างมากเพราะประหยัดเวลาในการเดินทาง และหากยิ่งนักพยากรณ์ที่มีชื่อเสียงก็จะเป็นที่ดึงดูดใจของผู้ประกอบการในการจัดทำกิจกรรมร่วมกับนักพยากรณ์ หรือที่คุ้นชินกันในรูปแบบ Collaboration ซึ่งการที่จะได้ใกล้ชิดกับนักพยากรณ์ที่ชื่นชอบก็อาจจะต้องมีการทำตามกติกาของผู้จัดนั้น ๆ อย่างเช่น การสะสมมูลค่าการใช้จ่ายเพื่อให้เป็น Top spender ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ช่วยเพิ่มยอดขาย หรือรายได้ให้กับทางผู้ประกอบการนั้นได้เป็นอย่างดี

2.พระเครื่องวัตถุมงคล : ในปัจจุบันนักพยากรณ์ไม่เพียงแค่ทำนายเท่านั้น แต่ได้มีการปลุกเสก หรือทำพิธีแก่สิ่งของต่าง ๆ เพื่อนำออกมาให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้นำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับสิ่งของวัตถุมงคลไม่เพียงแค่อยู่ในรูปแบบสร้อยพระ, พระพุทธรูป แต่ผู้ประกอบการได้มีการนำมาประยุต์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อย่างเช่น สร้อยข้อมือหิน, แหวน, ถุงเครื่องราง เป็นต้น เพื่อให้พกพาง่ายขึ้น ซึ่งสิ่งของที่ผ่านการทำพิธีจะมีราคาสูงกว่าท้องตลาด

3.สีมงคล, อาหารเสริมดวง : ในเรื่องของสีมงคลเรียกได้ว่าแทรกซึมได้ง่ายกว่าทุกศาสตร์ความเชื่อ สังเกตได้จากตารางสีมงคลประจำวัน ซึ่งคนที่มีความเชื่อในเรื่องของสีมงคลก็จะนิยมสวมใส่สีนั้น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต ยกตัวอย่างเช่น วันตรุษจีนต้องใส่สีแดง เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการก็จะมักนิยมนำสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลนั้น ๆ มาจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดขาย

4.ตัวเลขมงคล : มักมีความเชื่อที่ว่าตัวเลขมีพลังงานบางอย่างที่จะเข้ามาช่วยเสริมดวงในด้านต่าง ๆ ให้กับเราได้ ซึ่งตัวเลขของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน ศาสตร์นี้จึงมักถูกเชื่อมโยงไปกับนักพยากรณ์เพราะอาจต้องมีการคำนวณให้ถูกโฉลก และเพื่อให้ได้เลขที่เป็นสิริมงคลกับเจ้าของที่จะใช้ ส่วนมากเราจะพบเห็นได้จากการเปลี่ยนเบอร์มือถือที่บางคนอาจจต้องเปลี่ยนปีละครั้ง หรือ สองครั้ง จึงทำให้ค่ายมือถือต่าง ๆ มีการออกแพคเกจเบอร์มงคล ซึ่งเรียกได้ว่าสร้างมูลค่าให้อย่างมาก

5.เรื่องเหนือธรรมชาติ : จากการที่ในปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม หลาย ๆ คนจึงได้มีการทำคอนเท้นต์เกี่ยวกับความลึกลับ หรือเรื่องเหนือธรรมชาติ เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งหากยิ่งมีคนติดตามเยอะก็จะมีรายได้มาก เรียกได้ว่าคนยังมีความเชื่อในเรื่องของความลึกลับ และต้องการตามหาเพื่อค้นพบว่ามีอยู่จริง รวมถึงยังมีการท่องเที่ยวเชิงเชิงศรัทธาที่ช่วยสร้างรายได้ทางอ้อมให้กับประเทศได้ด้วย

สำหรับศาสตร์แห่งความเชื่อนี้ ถือได้ว่าสร้างรายได้เพิ่มให้กับหลายธุรกิจ และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศแบบทางอ้อม เพราะผู้ประกอบการที่เห็นช่องทางของโอกาสจะมีไอเดียเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเอง และต่อยอดเพื่อให้เชื่อมโยงไปกับเทรนด์ที่กำลังมา ซึ่งจากมุมมองกระแสมูเตลูจะอยู่ไปอีกนาน เพราะคนต้องการหาที่พึ่งทางใจในสภาวะการณ์ที่พลิกผันในหลาย ๆ อย่างของชีวิต

.

ที่มา : Thai PBS, วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล, IQ
.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/ 

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #การตลาดสายมู #Muketing #มูเตลู #สายมู