นักลงทุนเห็นอะไรในหุ้น MGI หลังเทรดเพียง 4 วันพุ่งรวมกว่า 135%

แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนก็มีหลายหลักทรัพย์เข้ามาทำการออกและเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อที่จะมาจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งในปีนี้มีมากกว่า 30 บริษัท โดยภาพรวมที่ผ่านมาก็มีทั้งผลตอบรับที่ดีและไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จากผลสำรวจมีมากกว่า 15 หลักทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่าไอพีโอ หรือก็คือต่ำจองนั่นเอง สำหรับหลักทรัพย์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากนักลงทุน ก็คือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ประกอบธุรกิจเวทีการประกวดนางงามถือเป็นรายแรกที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ทำเพียงแค่ธุรกิจประดวกนางงามเท่านั้น ซึ่ง ‘Business+’ ก็ได้มีการเขียนบทความเกี่ยวกับโครงสร้างธุรกิจของ MGI ไว้ก่อนหน้านี้ โดยบทความมีชื่อว่า เปิดโครงสร้างธุรกิจเครือ ‘มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ ที่มีรายได้จากการขาย ‘น้ำพริก’ มากกว่าเวทีนางงาม

จากในบทความ MGI มีสัดส่วนโครงสร้างรายได้งวด 9 เดือนปีนี้ แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้ ธุรกิจพาณิชย์ 40.86%, ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 12.63%, ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19.06%, ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23.12%, ธุรกิจเช่าช่วง MGI Hall 3.51% และรายได้อื่น ๆ 0.81% โดยจะสังเกตได้ว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจพาณิชย์มีมากกว่าถึง 28.23% ซึ่ง MGI มีสินค้า 4 อย่างที่สร้างรายได้เป็นหลัก นั่นคือ น้ำพริกปลาสลิด, Face Serum, Neck Serum และ Nangngam Anti Melasma

โดยจากโครงสร้างนี้ทำให้เห็นว่า บริษัทไม่ได้มุ่งดำเนินเพียงแค่ธุรกิจเดียว แต่มีการกระจายจับตลาดหลายกลุ่ม เพื่อเสริมฐานให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสามารถมีรายได้ได้จากหลายช่องทาง ซึ่งหากจะมุ่งเน้นสร้างรายได้จากเวทีประกวดเพียงอย่างเดียวก็อาจส่งผลให้ขาดช่วงการหมุนเวียนของกระแสเงินสด และก็จะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท

ทั้งนี้ในวันที่เข้าทำการซื้อขายวันแรก (14 ธ.ค.) MGI เปิดเทรดวันแรกที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 26.26% จากราคา IPO 4.95 บาท ขณะที่ปิดเทรด อยู่ที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 71.72% จากราคาไอพีโอ 4.95 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,329 ล้านบาท โดยวันแรกทำราคาต่ำสุดที่ 6.20 บาท

15 ธ.ค. ราคาหุ้น MGI ปิดเทรดอยู่ที่ 9.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือ 7.65% มูลค่าการซื้อขาย 1,067.86 ล้านบาท

18 ธ.ค. ราคาหุ้น MGI ปิดเทรดอยู่ที่ 11.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 30.05% มูลค่าการซื้อขาย 742.05 ล้านบาท

19 ธ.ค. ราคาหุ้น MGI ปิดเทรดอยู่ที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.60 บาท หรือ 30.25% มูลค่าการซื้อขาย 519.07 ล้านบาท

โดยจะเห็นได้ว่าราคาหุ้น MGI มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรวมทั้ง 4 วันมีการปรับขึ้นถึง 139% จากราคา IPO 4.95 บาท ซึ่งจากการปรับตัวขึ้นนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่านักลงทุนเห็นอะไรในหุ้น MGI ถึงทำให้มีแรงซื้อขายเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่ในตลาดก็มีอีกหลาย ๆ หุ้นวางโครงสร้างธุรกิจที่ครอบคลุมเหมือนกันแต่ราคาหุ้นแทบไม่ขยับ ถึงแม้ผลประกอบการจะออกมาดีก็ตาม ซึ่งจากการวิเคราะห์ของ ‘Business+’ พบด้วยกัน 6 ข้อ ดังนี้

1.กระแส : หุ้น MGI เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือ ‘หุ้นนางงาม’ เวทีที่หลากหลายกลุ่มคนให้ความสนใจ ซึ่งคนที่ประกวดชนะเวทีนี้ก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เดินสายทำกิจกรรมในวงการบันเทิง เป็นบุคคลสาธารณะที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มแฟนคลับ และหากหยิบหรือจับอะไรก็มีความน่าเชื่อถือ และเรียกความนิยมได้

2.โปรโมท : บริษัทมีการเดินสายโปรโมทอย่างต่อเนื่อง แม้ในวันเทรดวันแรกก็มีการนำนางงามมิสแกรนด์ที่มีความนิยมมาร่วมในงานด้วย เพื่อให้สามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้

3.แตกไลน์ธุรกิจ : โครงสร้างธุรกิจไม่ได้มีเพียงแค่เวทีประกวดนางงามเท่านั้น แต่ได้แตกไลน์ไปยังธุรกิจอื่น เพื่อให้มีรายได้หลากหลายช่องทางแม้ในช่วงนั้นจะไม่มีการประกวดก็ตาม

4.ธุรกิจดำเนินได้อีกนาน : หากเมื่อใดก็ตามที่ยังมีคนที่มีบุคลิกภาพดี ภาพลักษณ์ดี การประกวดนี้ก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งเวทีมิสแกรนด์ถือเป็นเวทีการประกวดที่เติบโตเร็ว

5.แผนการลงทุน : บริษัทได้กางแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ รวมทั้งระบบสารสนเทศ (Information Technology) เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ โดยการออกสินค้าใหม่ก็จะมีการนำนางงามมิสแกรนด์มาโปรโมทร่วม เพื่อเพิ่มความนิยมและยอดขาย ซึ่งจากผลการสำรวจหากมีการนำคนดังเข้ามามีส่วนร่วมไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็จะได้รับความนิยม และยอดขายก็จะเพิ่มสูงขึ้น

6.การเติบโตในอนาคต : หลาย ๆ คนเมื่อเห็นผลตอบรับที่ดีในตอนแรกก็มีความคาดหวังถึงผลงานจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากอดีต และเวทีการประกวดนี้อาจจะมีความนิยมในต่างชาติมากขึ้น ซึ่งเมื่อมีความนิยมมากขึ้นก็จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินได้มากขึ้น อาจจะเป็นผ่านการ Vote หรือผ่าน SMS ที่ต้องเสียเงินถึงจะร่วมกิจกรรมได้ เป็นต้น

ทั้งนี้จากข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการคาดการณ์ที่ทำให้นักลงทุนเกิดความสนใจแล้วเข้ามาซื้อขายในหุ้น MGI เท่านั้น ซึ่งก็ยังมีอีกหลายมิติที่อาจมีการพิจารณาลึกกว่านี้ หรือนี่อาจจะเป็นเพียงการเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นก็ได้ด้วยราคาหุ้นยังมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทก็มีการเดินหน้าโปรโมทอยู่เสมอ รวมทั้งยังมีการวางแผนลงทุนที่สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว แต่อย่างไรก็ดีในแง่ของการลงทุนก็ต้องมีการศึกษาโครงสร้างธุรกิจให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อลดการขาดทุนให้ได้มากที่สุด

.

ที่มา : IQ, settrade

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #MGI #มิสแกรนด์ #นางงามมิสแกรนด์