MasterLGBTQ

รพ.มาสเตอร์พีช กับการจ้างงานกลุ่ม LGBTQ+ มากถึง 30%

ประเทศไทยมีประชากรกลุ่ม LGBTQ+ กว่า 4 ล้านคน คิดเป็น 6% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด แม้ว่าในมุมมองของชาว LGBTQ+ ทั่วโลกจะเห็นว่าประเทศไทยค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่การวิจัยจากกลุ่มธนาคารโลก และบริษัท Love Frankie ยังพบว่า กลุ่มคนข้ามเพศยังคงถูกปฏิเสธการรับเข้าทำงาน และในประเทศไทยก็ยังคงมีการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในสังคมที่ทำงานให้เห็นอยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ เลสเบี้ยน และเกย์

แต่รู้มั้ยว่าจริงๆแล้ว การเคารพความหลากหลายทางเพศไม่ได้ส่งผลเสียต่อบริษัท แถมยังช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทแห่งนั้นดีขึ้นได้

ซึ่งผลสำรวจจากตามรายงานของ McKinsey พบว่าองค์กรที่มีบุคลากรหลากหลายทั้งทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศถึง 35% โดยเกิดจากการที่พนักงานเหล่านี้ไม่ต้องปิดบังตัวตน หลบซ่อน และมีอิสระในการคิดการแสดงออก

ขณะที่ยังมีการให้ความเห็นจากฝ่ายวิจัยอื่นๆว่า บริษัทที่มีนโยบายและบรรยากาศสนับสนุนให้ LGBTQ+ สามารถเปิดเผยตัวตนอย่างอิสระ ช่วยลดความเครียด และยกระดับสุขภาพจิตของพนักงาน รวมถึงส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและหัวหน้าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และส่งผลดีต่อบริษัทในแง่ของคุณภาพงาน และกำไรที่สูงขึ้น

นั่นจึงทำให้บริษัทในสหรัฐที่เป็นบริษัทชั้นนำหลายๆ แห่งทั่วโลกที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความหลากหลายของพนักงานในองค์กรมากขึ้น เพราะเชื่อว่าการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างบุคลากรที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกันจะสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้

สำหรับประเทศไทยมีบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศมากมายโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมศัลยกรรมและความงาม เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องมีความชื่นชอบในความสวยความงาม มีจิตใจบริการ และต้องมีความมั่นใจสูง

อย่างเช่น บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ เจ้าของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ที่ได้เปิดเผยข้อมูลในด้านการบริหารบุคลากรอย่างเท่าเทียม ด้วยการจ้างงาน LGBTQ+ มากกว่า 30% ของพนักงานทั้งหมด และล่าสุดยังได้จัดงาน MASTER Job Fair: LGBTQ+ Friends 2024 เปิดรับสมัครงาน 150 อัตรา 80 ตำแหน่ง จาก บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ MASTER ที่ประกอบไปด้วย เอส โฟว์ตี้ไฟว์ คลินิก, Dr Chen, รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์, Kin Corporation และ WIND Clinic รวมถึงพันธมิตรด้านสุขภาพทางจิต Me Center ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของไทยกับการสร้างโอกาสในการทำงานอย่างเท่าเทียม แบบไม่ระบุเพศ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล Pride Month

 

ซึ่งถ้าหากผลสำรวจ และผลวิจัยออกมาก็เป็นที่น่าจับตามองว่า บริษัทแห่งนี้จะทำผลประกอบการนิวไฮได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะการบริหารธุรกิจที่ดีนอกจากต้องคำนึงถึงกลยุทธ์เพิ่มรายได้แล้ว ยังต้องบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และความหลากหลายในองค์กรก็อาจมีส่วนช่วยลดต้นทุนแฝงและเพิ่มกำไรให้กับบริษัทได้จริง

ที่มา : MASTER , McKinsey

เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS