เปิดเส้นทาง ‘AJ’ แบรนด์ดังจากสโลแกน ‘พระเอกตัวจริง’ จนถึงการ Rebranding หลังก่อตั้งมา 23 ปี

AJ คือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีจุดกำเนิดมาจากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทภาพและเสียง อย่างเครื่องเล่น DVD หรือชุดโฮมเธียเตอร์ และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อย่างเช่นเครื่องซัก ตู้เย็น ซึ่งแบรนด์ AJ เคยเคยโด่งดังจากสโลแกน ‘พระเอกตัวจริง’ ที่มี ‘สมบัติ เมทะนี’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่พอเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงยุคที่คนเลิกใช้เครื่องเล่น DVD หันมาใช้การดูหนังและฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ AJA ต้องปรับตัวไปทำธุรกิจอื่นๆ เพื่อความอยู่รอดของบริษัท

ซึ่งการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทำให้ผลประกอบการของ AJA ในช่วงที่ผ่านมายังต้องประสบกับผลขาดทุนสุทธิ

โดยผลประกอบการ 4 ปีย้อนหลังเป็นดังนี้

• ปี 2563 ขาดทุน 132 ล้านบาท
• ปี 2564 ขาดทุน 152 ล้านบาท
• ปี 2565 ขาดทุน 145 ล้านบาท
• ปี 2566 ขาดทุน 38 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ‘Business+’ ได้พบว่า แบรนด์ AJ ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายครั้ง และเข้าลงทุนในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในธุรกิจตู้เติมเงิน ขายจักรยานยนต์ไฟฟ้า จนปัจจุบันได้ปรับโครงสร้างด้วยการรวบรวมบริษัทย่อยทั้งหมดเข้าด้วยกันและกลายมาเป็น บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ในปัจจุบัน

ซึ่งมีธุรกิจทั้งหมด 5 ธุรกิจด้วยกัน นั่นคือ

1.ธุรกิจขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

2.ธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์

3.ธุรกิจขายรองเท้ากีฬา ชุดกีฬา และอุปกรณ์อื่นๆ ในชื่อ Outlet Pro

4.ธุรกิจเป็นตัวแทน และให้บริการสมาชิก Alibaba ประเทศไทย

5.ธุรกิจผลิตและขายปุ๋ยอินทรีย์เคมี

ซึ่งการปรับโครงสร้างธุรกิจนี้ได้ส่งผลให้ในไตรมาส 1/67 บริษัทได้พลิกเป็นกำไร 19 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วขาดทุนสุทธิ 5.38 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทมีรายได้จากธุรกิจขายจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 21.34 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้ารองเท้ากีฬาเพิ่มขึ้น 9.37 ล้านบาท และมีรายได้เหมืองขุดบิตคอยน์เพิ่มขึ้น 8.99 ล้านบาท (หลังจากราคาเหรียญบิตคอยน์มีราคาสูงขึ้น)นอกจากนี้ยังมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล 19.98 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2567 เราพบว่า บริษัทยังมีแผนที่จะขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ อย่างเช่นล่าสุดภายหลังจากที่มีการเข้าซื้อหุ้นของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ CEO ของบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เจ้าของเวทีมิสแกรนด์ จน ณวัฒน์กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 4 และได้ถูกแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท ซึ่งทาง AJA ก็ได้เปิดแผนการบุกตลาดออนไลน์อาหารเสริมของ ‘ณวัฒน์’ ออกมาทันที ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยกลางคนที่มีกำลังในการซื้อเพื่อบริโภคภายใต้แบรนด์ กลัวแก่ (KAUKAE)

นอกจากนี้ล่าสุด บริษัทยังมีแผนปรับภาพลักษณ์จากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่มานาน 23 ปี ด้วยการ Rebranding โลโก้ของ AJ และโลโก้ของกลุ่มสินค้าประเภทมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจมากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้กระจายการลงทุนในธุรกิจหลากหลายจนไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่รายได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนเหมือนเดิม

โดย LOGO IDEA – AJ ไอคอนของแบรนด์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปุ่มเพาเวอร์ (Power Button) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกคนคุ้นเคยผ่านการประยุกต์ดัดแปลงเพื่อเพิ่มความทันสมัย ภายในยังมีตัวอักษร AJ แฝงอยู่อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สื่อถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยี โดยรวมสื่อถึงความเป็นผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือของ AJ Group แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการก้าวไปสู่ความล้ำสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งแสดงศักยภาพ ความพร้อมที่จะพัฒนาสินค้าและบริการของ AJ Group ให้ตรงกับความต้องการของคนไทย

LOGO IDEA – AJ EV โลโก้ AJ EV ได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัย โฉบเฉี่ยว เข้ากับสินค้ายานยนต์ไฟฟ้า เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น ที่ชอบความทันสมัย และบวกแนวคิดเรื่องของความประหยัด ในยุคน้ำมันแพง และกระแสพลังงานสะอาดเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมโลกให้ยั่งยืน โดยรวมแล้วไอคอนนี้สื่อความเป็นผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือให้เห็นความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มุ่งพัฒนานำพาคนไทยให้เข้าสู่ยุคแห่งความล้ำสมัยของเทคโนโลยี

เป็นที่น่าจับตามองกันต่อว่า ภายหลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งเน้นไปยังธุรกิจที่ยั่งยืน ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า หรืออาหารเสริมที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุที่อยู่บน Future Trend จะช่วยให้ AJA สามารถกลับมาพลิกกำไรได้หรือไม่? และการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเวทีมิสแกรนด์ก็อาจจะทำให้เราได้เห็นการใช้พรีเซ็นเตอร์จากค่าย MGI ให้เกิดประโยชน์กับทาง AJA ในอนาคตไม่แน่นะคะ เราอาจจะได้เห็น AJA กลับมาด้วยสโลแกนใหม่ที่ดังกว่าเดิม