MASTER

ถอดรหัสความสำเร็จของ MASTER ผู้นำธุรกิจความงามแบบ All Time High ในทุกมิติ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ ปี 2566 ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของประเทศไทย มีมูลค่าตลาดสูงถึง 72,000 ล้านบาท โดยมีผู้เล่นอยู่ในตลาดมากกว่า 4,000 ราย และหนึ่งในบรรดาผู้ให้บริการที่เป็นดาวเด่นมากที่สุด คือ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘MASTER’ ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช (Masterpiece) ที่สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ร่วมถอดรหัส Key Success ที่ทำให้ MASTER เติบโตแบบก้าวกระโดด กับ ‘ลภัสรดา เลิศภานุโรจ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือคุณดาว

เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยกลยุทธ์ M&P

“ภาพรวมของปีที่ผ่านมา เราทำนิวไฮทั้งรายได้และกำไร รายได้เติบโต 28% กำไรเติบโต 39% เป็นการพิสูจน์ว่าเราทำจริงตามที่เคยให้สัญญาไว้ แม้จะเป็นธุรกิจที่อยู่ใน Red Ocean แต่ MASTER ยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” ลภัสรดากล่าวถึงภาพรวมของผลประกอบการในปีที่ผ่านมา MASTER ก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยนับเป็นโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมรายแรกในตลาดทุนไทย และเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับ MASTER ในอนาคต ที่เน้นการเติบโตทั้งแบบ Organic และ Inorganic

โดยกุญแจความสำเร็จของ MASTER คือ กลยุทธ์ Merger and Partnership (M&P) หรือการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทชั้นนำในวงการศัลยกรรมความงามและอื่น ๆ รวม 15 บริษัท ที่เรียกได้ว่าครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ของธุรกิจความงาม โดย MASTER เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนตั้งแต่ 36-40% คิดเป็นมูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท จนส่งผลให้ปี 2566 เป็นปีที่ MASTER เติบโตแบบก้าวกระโดดและสามารถสร้างผลประกอบการแบบ All Time High ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ประกอบด้วยรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 1,916.76 ล้านบาท เติบโต 28% จากปี 2565 และมีกำไร 416.30  ล้านบาท เติบโต 39% โดยเป็นการเติบโตในทุก ๆ มิติ

กลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก

นอกจากกลยุทธ์ทางธุรกิจข้างต้นแล้ว ลภัสรดาเปิดเผยถึง Key Success Factors ที่ทำให้ MASTER เติบโตอย่างต่อเนื่องว่ามาจากการให้ความสำคัญกับ “แพทย์ บุคลากร และการตลาด” ที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เพราะ MASTER เติบโตด้วย Word of Mouth หรือการบอกต่อ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงอิทธิพล และการจะทำให้เกิด Word of Mouth ได้นั้น ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

อย่างแรกเลยคือเรื่องของ ‘แพทย์’ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจเสริมความงาม ที่นอกจากจะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและครบวงจรแล้ว การมีแพทย์แบบฟูลไทม์คือปัจจัยสำคัญในการเติบโตของ MASTER

“สิ่งที่ทำให้ MASTER ประสบความสำเร็จคือเรากลัดกระดุมเม็ดแรกถูก นั่นคือ ‘แพทย์’ โดยแพทย์ของเราเป็น Full Time ทั้งหมด ถ้าเปรียบเทียบกับที่อื่น แพทย์อาจจะเข้าเฉพาะบางวัน ต้องนัดวัน แต่ของ MASTER แพทย์ของเราเข้า 6 วันต่อสัปดาห์ โดย MASTER มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการทำศัลยกรรม เช่น ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมยกคิ้วและกรอบหน้า ศัลยกรรมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมันปรับรูปร่าง ศัลยกรรมตา ศัลยกรรมแก้ไขปรับโครงหน้า รวมถึงการปลูกผม ดูแลเส้นผม ให้บริการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ เป็นต้น

นอกจากเรื่องทีมแพทย์แล้ว ลภัสรดาเปิดเผยว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ MASTER เติบโต คือเรื่องของ ‘บุคลากร’ ซึ่งมีส่วนในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยมีการเสริมทักษะให้กับบุคลากรทั้ง Hard Skills และ Soft Skills รวมถึงเรื่อง Speed of Trust เพื่อสร้างความไว้วางใจ หรือ 7 Habits หลักการทำอย่างไรให้ Pro Active เพราะบางทีลูกค้าก็มีความต้องการที่หลากหลาย แพทย์จะเจรจาอย่างไรจึงจะสามารถปิดเคสได้”

และปัจจัยที่ 3 ที่สร้างการเติบโตคือเรื่อง ‘การตลาด’ ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาทุกวันให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นโซเชียลมีเดียเป็นหลัก

“รายได้ 95% ของ MASTER มาจากโซเชียลมีเดีย ดังนั้นเราจึงต้องปรับปรุงและพัฒนาการตลาดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG หรือ TikTok ทุกอย่างปรับไวมาก ต้องปรับให้ทัน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ MASTER เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

ไม่เพียงเท่านั้น ในแง่ของการตลาด ลภัสรดายังเน้นว่า อินฟลูเอนเซอร์ทุกคนที่มา MASTER ต้องทำหัตถการจริง ๆ เพราะนั่นหมายความว่าผลงานของ MASTER จะปรากฏอยู่บนใบหน้าและบนร่างกาย และถือเป็นการประชาสัมพันธ์ชั้นดีให้กับทางแบรนด์

จาก mai ก้าวสู่ SET พร้อมสยายปีกสู่การเป็น Specialty Hospital

หลังสร้างผลประกอบการแบบน่าประทับใจไปแล้วในปีที่ผ่านมา สำหรับแผนธุรกิจต่อจากนี้ MASTER ยังเน้นการลงทุนที่เทียบเท่ากับปี 2566 โดยดูจากสถานการณ์และแนวโน้มของตลาดเป็นหลัก โดยตั้งเป้าสร้างการเติบโตขึ้นอีก 20% ในทุก ๆ ปี ผ่านระบบการทำงานแบบ Professional Sports Team เน้นการทำงานเหมือนทีมแข่งขัน ที่ทำให้อัตราการเร่งไปได้เร็วขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็น Specialty Hospital ตามแผนที่วางไว้

โดยในปี 2567 นี้ MASTER มีแผนนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของทั้ง MASTER และความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของธุรกิจเสริมความงามในไทย

“ตอนอยู่ เอ็ม เอ ไอ เราอยากสร้างสตอรีให้มันเติบโต ซึ่ง MASTER เคยประกาศไว้ว่า โดยแผนของ MASTER ภายใน 3 ปีข้างหน้า เราจะเป็น Specialty Hospital ที่มีความแข็งแกร่ง โดยระยะยาวแล้ว MASTER บอกว่า กลยุทธ์ M&P จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับของทั้งศัลยกรรมและฮับของธุรกิจความงามในอนาคต

“สิ่งที่ทำให้ MASTER ทำ M&P เพราะเราอยากให้ประเทศไทยเป็นฮับของธุรกิจความงามและศัลยกรรม ถ้าเราไปคนเดียว เราไปได้ แต่คนที่อยู่ข้างหลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเรามาร่วมมือกันและทำให้ใหญ่ขึ้น อันนี้คือสิ่งที่ตอบโจทย์ได้มากกว่า” ลภัสรดากล่าวทิ้งท้าย

จากคำกล่าวทั้งหมดที่คุณดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘MASTER’ ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช (Masterpiece) Specialty Hospital ของอุตสาหกรรมด้านความงามอันดับต้นของไทยและเอเชีย บอกไว้ข้างต้น เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า รางวัล Thailand Top Company Awards 2024 ประเภท OUTSTANDING AWARD ควรค่าที่สุดแล้ว