‘LUCKY POLE’ จุดเริ่มต้นสู่เมืองอัจฉริยะของ UTE

ภาพเมืองทั่วโลกในวันนี้ที่หลายคนเห็น ภายใน 5 – 10 ปีจากนี้คงจะเปลี่ยนแปลงไปอีกมาก จากการมาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผลักดันให้เมืองเหล่านี้ก้าวเข้าสู่บริบทใหม่ ภายใต้คำจำกัดความว่า ‘เมืองอัจฉริยะ (Smart City)’

ปัจจุบันประเทศไทยก็มีการเริ่มพัฒนาเมืองอัจฉริยะกันบ้างแล้วในหลายจุดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น และภูเก็ต ก็ถือว่าได้ดำเนินการไปพอสมควรแล้ว แน่นอนว่าการจะเกิดเมืองอัจฉริยะได้ ไม่อาจจะพึ่งพาแต่ภาครัฐในการผลักดันเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือกับท้องถิ่นในแต่ละที่ รวมไปถึงภาคเอกชนที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ทำงานร่วมกันด้วย

 

UTE อยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศและสังคม
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน จึงพร้อมลงทุนเพื่อความคุ้มทุนในระยะยาว

 

 

โดยภาคเอกชนไทยที่ถือว่ามีความเชี่ยวชาญและมีการทำงานร่วมกับหลายฝ่ายในการพัฒนา ‘เมืองอัจฉริยะ (Smart City)’ ก็คือ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จํากัด (UTE) ภายใต้เครือบริษัท เบญจจินดา ซึ่งคุณพิรชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการร่วม บอกว่า บริษัท UTE มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเมืองอัจฉริยะจากนี้

ซึ่งนวัตกรรมสำคัญของ UTE คือ เสาอัจฉริยะ ‘LUCKY POLE’ (Smart Pole) ที่ภายในจะมีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ติดตั้งอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) และแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ ที่จะมีระบบควบคุม จัดการแบบรวมศูนย์เมืองอัจฉริยะ และแผนปฏิบัติการให้ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง ปลอดภัย การศึกษา และการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะช่วยให้เมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามผลลัพธ์ที่ต้องการ จนนำไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบในอนาคต

 

 

“เป้าหมายของเราคือ การนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาเมืองในประเทศให้น่าอยู่มากขึ้น ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี พร้อมการสร้างความเข้าใจในทุกด้านกับทุกฝ่ายรวมไปถึงประชาชน ตรงนี้ก็จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในที่สุด

ขณะที่การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ จำเป็นต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและบริบทของเมืองเพื่อความสวยงามกลมกลืน และซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาก็ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย เพื่อให้ผู้ดูแลเมืองสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย เพื่อจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วต่อไป ซึ่งนี่ถือเป็นบริการรูปแบบหนึ่งที่ประชาชนจะได้รับ”

ขณะที่เป้าหมายในอนาคต ทางคุณพิรชัย เปิดเผยว่า ตั้งใจจะให้ เสาอัจฉริยะ LUCKY POLE (Smart Pole) ของ UTE กระจายตัวครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทย นอกจากนี้เทคโนโลยีของเรายังรองรับการใช้งานเทคโนโลยีเครือข่ายระบบโทรศัพท์ 5G ในทุกเครือข่าย ทาง UTE จะเป็นผู้ลงทุนเสาอัจฉริยะเอง และให้ผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมใช้เสาของบริษัทได้โดยไม่ต้องไปลงทุนสร้างเสาเอง ซึ่งก็จะได้ทัศนียภาพที่สวยงามให้กับเมืองในประเทศในระยะยาว ขณะที่ข้อมูลซึ่งรวบรวมได้จากเสาอัจฉริยะจะเป็นข้อมูลเปิดให้ทุกฝ่ายนำไปใช้งานได้

 

คุณพิรชัย ปิดท้ายว่า “UTE อยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศและสังคมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน จึงพร้อมลงทุนเพื่อคุ้มทุนในระยะยาว”