การควบรวมของ LINE และ Yahoo Japan ที่เสร็จสิ้นลงแล้ว ถือว่าเป็นดีลที่สะเทือนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดีลหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะการควบรวมนี้เกิดขึ้นจากเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อปกป้องตลาดเทคโนโลยีญี่ปุ่น จากการบุกของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีระดับโลก ทั้งฝั่งตะวันตกอย่าง Google, Amazon, Facebook, Apple และยังต้องต่อสู้กับ Alibaba ยักษ์ใหญ่ E-commerce ของจีน
ซึ่งภายหลังการควบรวมแล้วฐานลูกค้าของบริษัทใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานรวมราว 300 ล้านคน ประกอบกับการ Synergy ด้วยการนำจุดแข็งที่ชัดเจนของทั้ง 2 บริษัทมารวมกัน ทั้งในแง่ของการเป็น Super App ของ Line และ บริการ Search Engine ของ Yahoo Japan จะยิ่งทำให้บริษัทใหม่แข็งแกร่งขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเทคโนโลยีญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น LINE ทุกคนจะได้รับข้อความแจ้งประกาศเปลี่ยนชื่อผู้ดำเนินการบัญชีทางการของ LINE จากเดิม LINE Corporation เป็นบริษัทใหม่ LY Corporation ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการกันระหว่าง LINE Corporation (LINE) ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานประมาณ 165 ล้านคนรวมทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวัน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Yahoo Japan Corporation (Yahoo Japan) ผู้ให้บริการข่าวและ Search Engine ที่มีผู้ใช้งานเว็บไซต์ประมาณ 50 ล้านคน ซึ่งจริงๆ แล้วทั้ง 2 บริษัทได้เสร็จสิ้นกระบวนการทางกฏหมายตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 หลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นของการควบรวมไปตั้งแต่เดือนพ.ย.2562
โดยการควบรวมกิจการนี้อยู่ในรูปแบบของการร่วมทุนฝ่ายละ 50% ด้วยการตั้งบริษัทลูกใหม่ขึ้นมา ถือหุ้นทั้งฝั่ง Naver Corporation (บริษัทแม่ของ LINE) และฝั่ง Z Holdings (บริษัทแม่ของ Yahoo Japan) และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากทั้ง 2 บริษัทควบรวมกันคือ ฐานลูกค้าในมือขยับขึ้นมากกว่า 200 ล้านคนทันที การรวบฐานลูกค้าเข้าด้วยกัน ประกอบกับ Synergy จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ก็จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ ในทวีปเอเชียที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน ทั้ง Grab และ Go-Jek หรือแม้กระทั่ง Alipay
ซึ่งการควบรวมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกันมากขึ้นในด้านต่างๆ อย่างเช่น การชำระเงินดิจิทัล และการร่วมมือกันก็จะช่วยให้ทั้ง 2 บริษัทประหยัดงบประมาณ และค่าใช้จ่ายจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Ai) เพื่อปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย
และแน่นอนว่าการควบรวมดังกล่าว ทาง LINE และ Yahoo Japan ได้เคยออกมาบอกถึงเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า ต้องการป้องผู้บริโภคในตลาดญี่ปุ่น จากการบุกอย่างหนักของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ทางฝั่งตะวันตกอย่าง Google, Amazon, Facebook, และ Apple รวมถึง Alibaba ของจีน
โดยผลจากการควบรวมนี้ทำให้บริษัทใหม่จะทำให้บริษัทใหม่มีบริการบนอินเทอร์เน็ตมากกว่า 200 บริการ มีจำนวนผู้ใช้งานรวมมากกว่า 300 ล้านคน และขึ้นมาเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ทั้งนี้หันมามองในการ Synergy ของ 2 เจ้าใหญ่กันบ้าง โดยธุรกิจหลักของ Yahoo! Japan และ LINE นั้น หากรวมกันแล้วจะมีทั้งบริการ Search Engine, เว็บพอร์ทัล, โฆษณา และ Application Chat ซึ่งธุรกิจทั้งหมดนี้บริษัทใหม่จะยังคงให้บริการต่อไปตามเดิม แต่จะเพิ่มการโฟกัสใน 4 ธุรกิจใหม่ได้แก่
- Commerce : ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การให้บริการค้าปลีกออนไลน์ด้วย Social Commerce ผ่าน LINE
- Local Vertical : ซึ่งจะสร้าง Sulution สำหรับผู้ประกอบการในญี่ปุ่น อย่างร้านอาหาร โรงแรม
- Fintech : ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อบริการทางการเงินของ PayPay และ LINE Pay เข้าด้วยกัน
- Public Services : ซึ่งจะเป็นบริการใหม่ๆ เช่นบริการด้านสุขภาพ LINE Doctor
ส่วนในมุมของผู้ใช้งานจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเพียงบางส่วน ซึ่งทาง LINE Corporation ได้ประกาศว่า ภายหลังควบรวมได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น LY Corporation แต่ชื่อของแอปพลิเคชันและการให้บริการอื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้ ชื่อของผู้ให้บริการ LINE Official Account แต่ละราย (LINE OA) จะเปลี่ยนชื่อเป็น LY Corporation ซึ่งอาจจะใช้เวลาดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย ซึ่งเบื้องต้น รายชื่อของบัญชีทางการที่จะมีการเปลี่ยนชื่อผู้ให้บริการจาก LINE เป็น LY Corporation มีดังนี้
- TH-EN translator (@linethen)
- บันเทิง TODAY (@enttoday)
- GIFTSHOP Notice (@linegiftshopnoti)
- LINE STORE (@linestoreth)
- LINE TODAY (@linetodayth)
- LINE TH Help Center (@linehelpth)
- LINE สภาพอากาศ (@lineweather-th)
- LINE MELODY (@linemelodyth)
- MyShop (@linemyshop)
- LINE POD Thailand (@linepodth)
- MyShop Notice (@myshopnotice)
- LINE MELODY Notice (@linemelodynotice)
- Verified Resellers (@verifiedresellers)
- LINE Wallet TH (@linewalletthailand)
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ที่มา : bloomberg , Line , Yahoo Japan ,bnnbloomberg
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #Business #LINE #LINEOA #YahooJapan