LH Securities เครื่องมือทำเงินของแลนด์แอนด์เฮ้าส์

หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้วางยุทธศาสตร์ 3 Step ประกาศรุกกลุ่มรายย่อย ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 2% ชูระบบ “Cyber Branch” ให้บริการโบรกเกอร์ออนไลน์เป็นหลัก

 

จัดเป็นผู้เล่นใหม่ที่น่าจับตามองไม่น้อยสำหรับ “บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)” หรือ LHS บริษัทในเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ แม้ตอนนี้จะรั้งอันดับท้ายๆ ในตลาดโบรกเกอร์ แต่เมื่อมองถึงอนาคตและแผนธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้เล่นรายนี้มีดีพอจะขยับอันดับขึ้นมาได้ รวมถึงกระแสข่าวร้อนก่อนหน้านี้ที่บริษัทแม่ฯ คือ แบงก์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กำลังถูกทาบทามซื้อกิจการ

 

ทางหนึ่งหากกระแสข่าวนี้เกิดการควบรวมกิจการจริงๆ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS จะเสมือนเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งทันที โดยจุดแข็งของ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คือเป็นบริษัทในเครือธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงน่าจะช่วยให้มีโอกาสเข้าถึงนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนที่มีศักยภาพทางการลงทุนสูง (High Net Worth)ได้ดี รวมทั้งในระยะถัดไปก็วางแผนว่าจะเข้าไปหาลูกค้าประเภทนักลงทุนสถาบันเพิ่มด้วย แต่ทั้งหมดนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนที่บริษัทได้วางกลยุทธ์ไว้

 “เราไม่ได้คาดหวังว่าติดอันดับ Top ในเร็ววันอยู่แล้ว เพราะเราคิดว่า การขยายตัวเร็วเกินไปจะมีปัญหาเรื่องต้นทุน ดังนั้น เราจะค่อยๆ เดินไป และภายในปี 2559 เราคิดว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 2%” คำบอกของ กานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้จัดการ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กับ Business+

ด้วยความเป็นน้องใหม่ของตลาด ทำให้ LHS เลือกชูจุดเด่นวางระบบให้เป็น “One Stop Service” ครบครันในที่เดียว หากลูกค้ามีปัญหาโทรเข้ามาที่คอลล์เซ็นเตอร์ หรือส่วนกลางเราสามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดในปีผ่านมา ซึ่งกานต์ เผยว่า บริษัทได้เปิด Cyber Branch ใช้ระบบออนไลน์ ทั้งสิ้น 3 สาขา เริ่มวางระบบให้พร้อม ตามคอนเซ็ปต์ คือ เราต้องทำบ้านให้พร้อมก่อนจะชวนใครๆ มาอยู่บ้านเรา ซึ่งปีนี้เราจะเปิด 3 สาขาในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภาคอีสาน

สำหรับแผนดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 Step เริ่มจาก “Landing” ช่วงก่อตั้งไปจนถึงสิ้นปี 2558 เราเรียกว่าช่วง Landing ซึ่งจะเข้ามาทำระบบพัฒนาบุคลากรให้พร้อม รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ เราจะดำเนินการคุยกับแบงก์เพื่อหาวิธีการติดต่อสื่อสารข้อมูลรวมทั้งส่งต่อลูกค้า

ส่วนแพลนการตลาดปีนี้ กานต์ แย้มว่า จะเริ่มเข้าไปที่ธนาคาร งานสัมมนา หรืออาจจะร่วมกับสื่อ วารสารต่างๆ ที่จะแนะนำตัวโพรดักส์ เริ่มสอนให้ลูกค้าซื้อขายด้วยตัวเอง ทำระบบ Put Research ในข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ เน้นแนะนำลูกค้าตามพฤติกรรมส่วนตัว โดยลูกค้าก็สามารถโฟกัสอะไรที่ควรจะขาย อาทิ ช่วงนี้ควรลงสินทรัพย์อะไร ลงหุ้นดีไหม หรือเอาเงินไปฝากได้ดอกเบี้ยเท่าไร หรือจะไปลงทุนตราสารหนี้ชั่วคราวอีกไหม โยกเงินไปลงทุนอื่นๆ สินทรัพย์เราก็จะปลอดภัยกว่า

และภายในปี 2559 บริษัทฯ จะก้าวเข้าสู่ช่วง “Running” เริ่มขยายธุรกิจออกไปแนวกว้างด้วยการเปิดสาขา และเริ่มหาลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น เพราะเป็นลูกค้าฐานที่กว้าง ค่อนข้างเสถียร ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาดึงลูกค้าเราไป ปัจจุบันนี้เวลาโบรกเกอร์ถูกดึงลูกค้าก็จะเสียสูญพอสมควร และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น

ถัดมาอีกในปี 2560 เราจะเข้าสู่ช่วง “Jumping” หลังจากเรามีความพร้อมทุกอย่าง เรามีผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบครันทุกแบบที่มีในตลาด เซ็ตระบบออนไลน์ให้พร้อม 100% เพื่อผลักดันให้ธุรกิจมีการก้าวกระโดดต่อไป ….

 

 จอมภัค สู่สุข

 —– ติดตามบทความทั้งหมดได้ที่ นิตยสาร Business+ January  2015 Issue 311 —-