อิตัลไทย ฉลองความสำเร็จ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด ฉลองความสำเร็จหลังจากส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 12 โครงการ

วันนี้ (22 มีนาคม 2559) อิตัลไทยวิศวกรรม ภายใต้ อิตัลไทย กรุ๊ป ในฐานะผู้บริการงานทางด้านวิศวกรรมการก่อสร้างแบบครบวงจร  ฉลองความสำเร็จการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ให้กับโครงการ บี.กริม ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ และ โซลาร์วา นครปฐม ทั้งหมด 12 โครงการ รวมกำลังการผลิต 91.7 เมกะวัตต์

ด้าน สกล เหล่าสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด  เปิดเผยว่า ปีที่แล้ว บริษัทฯ ได้ร่วมงานกับ บริษัท โปรเซสเอ็นจิเนียริ่งเซอร์วิส จำกัด (PESCO) และบริษัท โซลาร์คอน จำกัด (Solarcon) ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 12 โครงการ รวมมูลค่าลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ให้กับ บริษัท โรงพยาบาลยันฮี จำกัด, บริษัท บี.กริม ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ จำกัด (บริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด และบริษัท ยันฮี โซล่า เพาเวอร์ จำกัด) และ บริษัท โซลาร์วา จำกัด (บริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด และบริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด) ในจังหวัดนครปฐมและพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ อิตัลไทย ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 10 เดือน และพร้อมจ่ายไฟฟ้าและจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ในวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ก่อนกำหนดเวลาที่รัฐบาลกำหนดคือ 31 ธันวาคม 2558

สำหรับโครงการของ “บี.กริม ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์” และ “โซลาร์วา นครปฐม” มีทั้งหมด 12 โครงการ แบ่งเป็น

• โครงการบี.กริม ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ 9 แห่ง ได้แก่ ไทรหลวง 1 (8 MW, 115 kV), ไทรหลวง 2 (8 MW, 115 kV), ไทรหลวง 3 (8 MW, 115 kV), ไทรหลวง 9 (7.2 MW, 115 kV), ไทรหลวง 10 (7.5 MW, 115 kV), ไทรใหญ่หน้า (8 MW, 115 kV), ไทรมะนาว (8 MW, 115 kV), ไทรพุทรา (8 MW, 22 kV) และไทรเสนา 2 (5 MW, 22 kV)

 

• โครงการโซลาร์วา นครปฐม (B.Grimm–Sena Solar)  3 แห่งได้แก่ ไทรแสบ (8 MW, 22 kV), ไทรลุ้ยริมน้ำ (8 MW, 115 kV) และไทรฉลวย (8 MW, 115 kV) ด้วยงบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท

โดย สกล ย้ำว่า โครงการโรงงานพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด  ยกให้ปี 2558 เป็นปีแห่งงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของบริษัท โดยสามารถก่อสร้างและจ่ายกระแสไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์รวมกว่า 139 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 10 เมกะวัตต์

นอกเหนือจากโครงการดังกล่าว สกล เปิดเผยรายละเอียดอีกว่า “บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์อีก 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด 41 เมกะวัตต์ ของบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ อยู่ในเครือบริษัท ซุปเปอร์ บล๊อก จำกัด (มหาชน) และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบหมุนตามแสงอาทิตย์ของบริษัท SunEdison ขนาด 6.5 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี

 

 

ขณะเดียวกัน  ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัทฯ ก็ได้ร่วมกับบริษัท โกลด์วินด์ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้กับบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (iWIND) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ IFEC group เสร็จในวันที่ 31 มีนาคม 2559

และปัจจุบันก็กำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมภายใต้โครงการชัยภูมิวินด์ฟาร์มให้กับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) ขนาด 80 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 50 และมีกำหนดจ่ายไฟภายในปีนี้”

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ สกล บอกว่า อิตัลไทยวิศวกรรม ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 ไว้ที่ 5,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ  มีมูลค่างานในมือ (backlog) กว่า 6,000 ล้านบาท

และนอกเหนือจากรายได้จากงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแล้ว บริษัทฯ ยังมาจากงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้า 3 แห่ง, งานก่อสร้างระบบประกอบอาคารสูง รวมทั้งงานก่อสร้างโรงงานและสาธารณูปโภคในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี น้ำมัน และแก๊สและงานก่อสร้างระบบจ่ายสาธารณูปโภคของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารับงานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ”