แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่กรุงเทพประกันชีวิตก็ยังคงสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 55% พร้อมกับการปรับโครงสร้างพอร์ตประกันชีวิต ลดเบี้ยประกันแบบสะสมทรัพย์จ่ายครั้งเดียว และหันมาให้น้ำหนักกับประกันระยะยาวมากขึ้น
ขณะที่ โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่า “ธุรกิจนี้ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจประกันชีวิตยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
เนื่องจากอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตยังไม่สูงมาก และจากกระแสประชากรไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ทำให้ความต้องการหลักประกันเพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ ตลอดจนถึงการมีเงินออมที่เพิ่มขึ้น”
และแม้ว่าภาพรวมเบี้ยรับของบริษัทฯ ปี 2558 อัตราเติบโตลดลง เนื่องจากบริษัทปรับนโยบายให้ขายสินค้าระยะยาวมากขึ้น และลดการขายสินค้าแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นชำระเบี้ยครั้งเดียวลง
เพื่อกระจายความเสี่ยงในการหาผลตอบแทนจากการลงทุน โชน บอกว่า ภาพรวมของบริษัทยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากได้รายได้และกำลังจากการลงทุน ทำให้ผลกำไรสุทธิทั้งปี 2558 เพิ่มขึ้น 55%
ขณะที่ โชน ระบุกลยุทธ์กรุงเทพประกันภัยว่า บริษัทฯ เน้นการดำเนินงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส มีจริยธรรม และมีการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่นประจำปี 2557 จาก คปภ. ด้วยรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร อันดับ 3
และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรุงเทพประกันภัยได้เดินหน้าพัฒนาความพร้อมใน 5 ด้าน ดังนี้
- พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแบบประกันรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เช่น บีแอลเอ พร้อมเกษียณ บีแอลเอ คุ้มครอง 2 พลัส บีแอลเอ เฮลธ์ พลัส หรือผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุด อย่างบีแอลเอ เบาหวาน เทคแคร์
- พัฒนาศักยภาพของบุคลากร เสริมสร้างความผูกพันและเชื่อมั่นในองค์กร เพื่อสร้างแรงผลักดันในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า เพื่อพัฒนาศักยภาพตัวแทนประกันชีวิตให้มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำการวางแผนการเงินให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ
- มีบริการที่เป็นเลิศและสะดวกรวดเร็ว เพิ่มช่องทางการขาย ทำให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่มและมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาช่องทางการให้บริการ ทั้งศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ ศูนย์บริการลูกค้า และสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์
- ให้ความสำคัญคู่ค้าและพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง และกรุงเทพประกันภัย ภายใต้จุดยืนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ประชาชน สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมรอบด้าน
- รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ครอบคลุมทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การให้ความรู้ด้านวางแผนการเงิน การสนับสนุนการศึกษา การส่งเสริมสุขภาพและกีฬา การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่อง
จากกลยุทธ์กรุงเทพประกันชีวิตเหล่านี้ ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG 100) และได้รับการยอมรับเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดถึง 56,117 ล้านบาทเลยทีเดียว
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในนิตยสาร Business+ ฉบับเดือนมีนาคม 2559 หรือคลิกที่นี่