สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.1% ในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.4% ในเดือนมิถุนายน 2565 และถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2525 ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้ออาจปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 13% ในปีนี้
สำหรับสาเหตุหลักที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง ได้แก่ ราคาอาหารและพลังงานและพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ONS ระบุว่า ค่าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาอาหารสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยราคาอาหารมีการปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2565 อาทิ กลุ่มขนมปังและซีเรียลปรับเพิ่มขึ้น 12.4% ต่อปี, กลุ่มชีส นม และไข่ เพิ่มขึ้น 19.4% กลุ่มน้ำมันและไขมันปรับเพิ่มขึ้น 23.4%
อีกทั้งต้นทุนพลังงาน น้ำมันเบนซินและดีเซลก็มีส่วนทำให้เงินเฟ้อเช่นกัน โดยภาคครัวเรือนในประเทศอังกฤษต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น 129 พันล้านปอนด์ (5.1% ของ GDP) รวมเป็น 193 พันล้านปอนด์ต่อปี (8.1% ของ GDP) ทั้งนี้ เนื่องจากภาคครัวเรือนมีการใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศไปแล้วครึ่งหนึ่ง ค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับเศรษฐกิจโดยรวมจึงมีแนวโน้มที่จะสูงถึง 16% ของ GDP
นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าค่าพลังงานในครัวเรือนโดยทั่วไปจะสูงถึง 3,582 ปอนด์ ในเดือนตุลาคม 2565 และ 4,266 ปอนด์ ในเดือนมกราคม 2566 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 5,000 ปอนด์สำหรับครัวเรือนโดยเฉลี่ย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหลังการระบาดของ COVID-19 ซึ่งหมายความว่าอุปทานของสินค้า เช่น พลังงานเชื้อเพลิงไม่สามารถเพิ่มขึ้นทันกับอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งสงครามในยูเครนที่ทำให้อุปทานของสินค้า อย่างเช่นก๊าซ ข้าวสาลี และน้ำมันปรุงอาหารหยุดชะงัก
ขณะที่การวิเคราะห์ข้อมูลของ NimbleFins จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันครัวเรือนของอังกฤษโดยเฉลี่ยใช้จ่ายประมาณ 3,601 ปอนด์ สำหรับการซื้อของชำ และ 1,744 ปอนด์ สำหรับค่าอาหารที่ร้านอาหารและการซื้อกลับบ้านทุกปี ด้วยเหตุนี้ ครัวเรือนในอังกฤษจึงใช้จ่าย 16% ของงบประมาณไปกับอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนงบประมาณอีก 3% เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ด้านธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณเตือนว่าอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปลายปี 2565 โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2565 และหดตัวต่อไปจนถึงสิ้นปี 2566
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ที่มา : BBC, Carbon Brief
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออังกฤษ #เงินเฟ้ออังกฤษนิวไฮรอบ40ปี