เก่าไป ใหม่มา HOOQ ล้มละลาย HBO GO มา

บริการประเภท Subscription Video on Demand หรือ “SVOD” ประกอบด้วย Content Mixed หลากหลาย ทั้ง Netflix และรายอื่น ๆ เช่นเดียวกับ HOOQ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองมาก ๆ

ทุกรายต่างประกาศกลยุทธ์หาพันธมิตรเพื่อเร่งหาฐานลูกค้า ทั้งจากการวางแพ็กเกจให้ดึงดูลูกค้ามากที่สุด แต่ต้องไม่ลืมว่า ธุรกิจนี้่ Cost หรือต้นทุนการผลิตคอนเทนต์ หรือการเสาะหาคอนเทนต์ดี ๆ นั้นคือรายจ่าย Fix cost อันดับ 1 ที่ต้องแลกมากับการแย่งคนดูหนัง หรือซีรีย์ดังๆ หรือกีฬา ถ้าแบรนด์ใดได้ Exclusivity ถือเป็นความได้เปรียบที่สุด ‘ผู้ชม’ ก็ต้องยอมจ่ายด้วยต้นทุนที่สูง ย่อมต้องมีนายทุน และนิสัยของนายทุนก็ต้องการผลกำไร หากมองแล้วไม่เห็นอนาคต นายทุนก้ต้องโบกมือลา

กรณีนี้ HOOQ ก็เข้าข่าย เพราะมี Singtel เป็นนายทุน และเมื่อ HOOQ ไม่สามารถเป็นแม่วัวที่ดีให้กับ Singtel เหมือน Amobee ซึ่ง SingTel ไปซื้อมาในราคา 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Amobee ทำเงินคืนให้ Singtel อย่างงดงาม Singtel จึงโบกมือลากับ HOOQ

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวคือ HBO GO เปิดให้บริการในไทยเต็มรูปแบบ แค่เดือนละ 149 บาท จุดเด่นของ HBO GO คือ สามารถรับชมคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หรือหนังได้พร้อมๆ กับผู้ชมจากสหรัฐฯ

การมาของ HBO GO ยังไม่มีใครบอกว่า จะไปได้ไกลเพียงใด เพราะขนาด HOOQ ยังเจ๊ง และในสถานการร์ที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย

ธุรกิจที่ผลาญเงินเล่น ถ้าเงินไม่หนาจริงๆ ก็อยู่ยากนะ (จะบอกให้)