Halloween

Halloween ปีนี้เงินเฟ้อลูกกวาดแตะ 2 หลัก คาด ‘ชาวมะกัน’ ใช้จ่ายทะลุ 1.2 หมื่นล้านเหรียญ

‘เทศกาลฮาโลวีน’ วนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มคึกคักไม่ต่างจากปี 2565 ด้วยผ่านพ้นการระบาดหนักของไวรัส COVID-19 เป็นปีที่สองแล้ว สำหรับเทศกาลฮาโลวีน ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี โดยหลายคนจะแต่งกาย หรือ คอสเพลย์ (Cosplay) เป็นตัวละครหลอน ๆ อย่างการสวมหน้ากาก ปลอมเป็นผี ซาตาน และออกไปสังสรรค์ในยามค่ำคืน ซึ่งวันฮาโลวีนถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในประเทศที่มีการให้ความสำคัญกับกับเทศกาลนี้อย่าง สหรัฐอเมริกา

สำหรับสัญลักษณ์ที่มาพร้อมกับวันฮาโลวีนคือตะเกียงฟักทอง ขณะเดียวกันสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือขนมหวาน อย่างพวก ช็อกโกแลต ลูกกวาด โดยผู้ใหญ่จะแจกให้กับเด็กนั้น ๆ ที่มาเคาะประตูบ้าน หรือ เดินแจกตามท้องถนน ด้วยความเชื่อที่ว่ายิ่งแจกให้คนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ถือว่าได้ทำบุญให้กับผู้ที่จากไปมากเท่านั้น

ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า ในเดือนตุลาคมนี้อัตราเงินเฟ้อของช่องทางจำหน่ายลูกกวาด ราคาขนมและหมากฝรั่งของสหรัฐอเมริกา แตะระดับเลขสองหลัก โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของราคาร้านขายของชำทั้งหมดที่เพิ่มขึ้น 6% สอดคล้องกับข้อมูลของ Datasembly ระบุว่า ราคาขนมและหมากฝรั่งเพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้การที่ราคาของขนมมีการปรับขึ้นส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ทำให้วัตถุดิบหรือส่วนประกอบสำคัญของขนมได้รับผลกระทบ อย่างเช่นในกรณีของโกโก้ที่ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการทำช็อกโกแลตได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ขณะเดียวอ้อยก็ได้รับผลกระทบทำให้ราคาน้ำตาลทั่วโลกอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 12 ปี กอปรกับอินเดียผู้ผลิตน้ำตาลทรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากบราซิลสั่งห้ามส่งออกน้ำตาลครั้งแรกในรอบ 7 ปี หลังจากโดนมรสุมภัยธรรมชาติกระทบต่อการเก็บเกี่ยว อีกทั้งไทยผู้ซึ่งผลิตน้ำตาลทรายอันดับ 4 ของโลก ก็ได้รับผลผลิตที่น้อยลงหลังเผชิญภัยธรรมชาติเช่นกัน โดยจากหลาย ๆ ปัจจัยจึงทำให้ราคาขนมทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น

แต่ถึงแม้ราคาของขนมจะมีการปรับขึ้นแต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่พร้อมจ่าย โดยสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (NRF) ของสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่า ผู้คนทั่วโลกจะใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งสหรัฐอเมริกาจะได้รับการกระตุ้นทางเศรษฐกิจสูงมาก โดยคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายช่วงเทศกาลวันฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกาในปีนี้จะแตะระดับ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าสถิติของปีที่แล้วที่ 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้บริโภคยังคงอดใจไม่ได้ที่จะใช้จ่ายเงินในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน

ซึ่งข้อมูลของสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ยังระบุว่า ชาวอเมริกันใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 108 ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อเครื่องแต่งกาย ขนม ของตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ต่าง ๆ ซึ่งในทางตรงกันข้าม คาดว่ามีชาวแคนาดาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะใช้จ่ายมากกว่า 50 ดอลลาร์แคนาดาในช่วงเทศกาลนี้

สำหรับเทศกาลฮาโลวีนไม่เพียงแค่การเล่นตระเวน หรือร่วมงานปาร์ตี้เท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปสู่กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ซึ่งบรรดาผู้ค้าปลีก ร้านเช่าชุด ร้านแต่งหน้า และร้านอื่น ๆ ที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สามารถโกยเงินได้อย่างมากจากความนิยมเหล่านี้ โดยปรับใช้เทคนิคต่าง ๆ ในแต่ละฤดูกาลเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อขนม ฟักทอง และสินค้าต่าง ๆ ทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับวันฮาโลวีน

ขณะเดียวกันในบ้านเราก็เริ่มให้ความสนใจกับเทศกาลฮาโลวีนมากขึ้นกว่าในอดีต โดยจะเห็นได้ว่า ตามร้านต่าง ๆ อย่างร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ก็มีการจัดกิจกรรมวันฮาโลวีนเพื่อสร้างกระแสให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ ซึ่งเมื่อผู้บริโภคเกิดความสนใจก็จะทำให้เกิด Traffic มากขึ้นต่อสถานที่นั้น ๆ ซึ่งเมื่อมีการมาเยือนการจับจ่ายใช้สอยก็จะตามมา ดังนั้นผู้ประกอบการอาจต้องมีการเตรียมความพร้อม หรือ มีการวางแผนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากงานเทศกาลต่าง ๆ เพราะถือเป็นช่วงที่ผู้บริโภคเต็มใจควักเงินจ่ายค่าสิ่งของนั้น ๆ มากที่สุด

.

ที่มา : IQ, CNBC, Thai PBS

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #Halloween #ฮาโลวีน #วันปล่อยผี #เทศกาลฮาโลวีน #วันฮาโลวีน