Go-faster Mission ปรับธุรกิจให้อยู่รอด ในยุคดิจิทัล

ปี 2018 คือก้าวแรกของสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง และยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นห่วงโซ่ไปยังปี 2019 ผลลัพธ์จากการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี การวิจัยและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ไปจนถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ในอดีตเป็นเพียงจินตนาในโลกของภาพยนต์ จะออกมามีตัวตนที่สัมผัสได้ในโลกแห่งความเป็นจริง

การเคลื่อนเข้าสู่สังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบในปี 2018 เป็นผลพวงจาก Technology Disruption ซึ่งเปรียบเสมือนตัวจุดชนวน ก่อให้เกิดแรงระเบิดที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในทุกอุตสาหกรรม และบังคับให้หน่วยธุรกิจต้องปรับตัวและลงมือให้เร็ว ทั้งการลงทุนในเทคโนโลยี สร้างสรรค์นวัตกรรม ไปจนถึงโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ

เพราะยุค 2019 ไม่ใช่ยุคของ Big Company อีกต่อไป แต่จะเป็นยุคทองของ Go-faster Company ที่จะกุมชัยชนะ

นอกจากนี้ เชื่อว่าในปี 2019 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่มีการเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ใหม่ ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อพลวัตโลก เทคโนโลยีที่มีอยู่และเกิดใหม่จะเป็นไปในทิศทางที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง รวมไปถึงนวัตกรรมหรืองานวิจัยทดลองในห้องแล็บ จะไม่ได้เป็นเพียงตัวต้นแบบเท่านั้นแต่จะถูกต่อยอดในเชิงพานิชย์มากขึ้น

และที่น่าจับตามองมากที่สุดคือคลื่นความเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อกับระบบดิจิทัลในชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าสังคมออนไลน์ได้เข้ามาขโมยเวลาการอยู่กับโลกจริงเกือบ 24 ชั่วโมง ส่งผลเกิดเป็นแนวโน้มโภชนาการ ทางเทคโนโลยี (Nourishing Tech) หรือการออกแบบเทคโนโลยีที่ควบคู่ไปกับประสบการด้านเวลา ผ่านแอพพลิเคชันและช่องทางใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในการจัดการระบบออนไลน ์หรือเทคโนโลยีจากจากโลกออนไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับโลกออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ

ในขณะที่ธุรกิจไทยมีตัวอย่างการปรับตัวอย่างรวดเร็วในหลาย ๆ อุตสาหกรรมโดยเฉพาะบิ๊กเนมหลายองค์กรที่ปรับทัพ เปิดเกมรุกสู้ศึกเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นแสนสิริ บิ๊กเนมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ลุกขึ้นมาปรับทัพปลายปี 2018 เซตมาตรฐานวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยใหม่ด้วยการเปิดตัวครั้งแรกกับโมเดลธุรกิจเปลี่ยนโลก “Sansiri Green Mission”ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เฉลี่ย 2,120 ตัน หรือเทียบเท่าพื้นที่ป่าสีเขียวกว่า 1,700 ไร่โดยมีเทคโนโลยสมัยใหม่เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน

ในขณะที่บิ๊กเนมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ดุสิตธานี มีการปรับทัพรุกตลาดใหม่ ๆ รวมไปถึงขยายธุรกิจไปยังเซ็กเมนต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก โดยนำความเข้าใจและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละแบรนด์ รวมทั้งใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเป็นตัวเชื่อมให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น

ทางฝั่งของอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และมีคู่แข่งคนสำคัญเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่กำลังเฟื่องฟูอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล จำเป็นต้องปรับอย่างหนัก ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล ได้เตรียมนำเทคโนโลยีจ่ายเงินด้วยใบหน้า และโมเดลร้านค้าไร้พนักงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศจีนและอินโดนีเซียเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะได้ใช้บริการในปี 2019 นี้

เอไอเอส หนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมได้ออกมาแถลงวิสัยทัศน์ และนโยบายใหม่เพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider” ในรูปแบบของพาร์ตเนอร์และอีโคซิสเต็ม ด้วยมาตรฐานระดับเวิล์ดคลาส พร้อมเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างประโยชน์ให้กับทุกธุรกิจในยุค Digital Transformation เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ แก่เศรษฐกิจไทย

และสุดท้ายคือธุรกิจพลังงานที่มีเจ้าตลาดคือ ปตท. กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในอุตสาหกรรมพลังงานที่มุ่งเน้นไปที่พลังงานสะอาดและพลังงานไฟฟ้า ทำให้ธุรกิจของ ปตท. ได้รับผลกระทบเต็ม แต่อย่างไรก็ตาม ปตท. ได้วางแผนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve ระยะยาวภายใต้กลยุทธ์ Design Now โดยคณะกรรมการ ปตท. ได้อนุมัติปรับปรุงโครงสร้างการบริหารให้มีหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม ที่จะดูแลการนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีรวมทั้งความเชี่ยวชาญของกลุ่ม ปตท. มาสร้างธุรกิจใหม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบขนาดเล็กย่อมได้เปรียบกว่าในส่วนของความยืดหยุ่นปรับตัวได้ง่ายและเร็วกว่ากว่ารายใหญ่ และการที่ธุรกิจจะคงความเป็นผู้นำได้ คงไม่พ้นการติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ ที่สำคัญหากองค์กรไหนไม่รีบนำเทคโนโลยีมาปรับก็อาจส่งผลให้การก้าวมาเป็นผู้นำในตลาดของคุณต้องตกไปอยู่ในมือของคู่แข่งได้