เจาะกลยุทธ์การตลาด เอปสัน (ประเทศไทย) ที่มาพร้อมกับระบบนิเวศอันแข็งแกร่ง

ต้องชื่นชมเป็นอย่างมากสำหรับ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กับผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่มีรายได้รวมจากการขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มในปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10% ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่บริษัทฯ สามารถทำได้ตั้งแต่การระบาดของ Covid-19

 

กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงที่สุดถึง 170% รองลงมาคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจกเตอร์ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 64% โดยเป็นผลจากลูกค้าติดตั้งโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์ภายในบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกระแสความสนใจชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดูภาพยนตร์ภายในบ้านมากขึ้น

 

ส่วนกลุ่มธุรกิจเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลเติบโต 52% และกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีการเติบโตได้ดี ได้แก่ โปรเจกเตอร์ความสว่างสูง เติบโตอยู่ที่ 43% กลุ่มเครื่องพิมพ์มินิแล็บที่เติบโต 29% เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทขนาดใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น 23%

 

ผลงานที่น่าทึ่งเช่นนี้ นั่นเพราะเอปสันได้กำหนดกลยุทธ์ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในช่วง Post COVID โดยเน้นสร้างความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘New 5’ ซึ่งประกอบด้วย New S-curve, New Target, New Business Model, New Service และ New Experience โดยยึดหลักความยั่งยืนเป็นสารสำคัญ

 

คุณยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า กลยุทธ์ และปัจจัยความสำเร็จของบริษัทฯ เกิดจากการที่เอปสัน ประเทศไทย จะยกระดับความสำคัญในเรื่องธุรกิจและความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์องค์กรที่เรียกว่า ‘Environmental Vision 2050’ ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘New 5’

 

New S-curve เทคโนโลยี Heat-Free เป็นแกนที่จะสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคตให้กับเอปสัน เห็นได้จากเอปสันประกาศยุติการจำหน่ายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และเปิดตัวมัลติฟังก์ชันอิงค์เจ็ทในกลุ่ม WorkForce Enterprise รุ่น AM-Series ที่ใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore Heat-Free Technology ที่กินไฟน้อย และถูกออกแบบให้มีชิ้นส่วนประกอบที่ต้องดูแลรักษาน้อย ทำให้บำรุงรักษาง่าย เพื่อมาแข่งขันในตลาดเดียวกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์และเครื่องถ่ายเอกสาร

 

New Target เอปสันมีผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายที่สุดในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทความเร็วสูงที่เอปสันได้เข้าไปทำตลาดในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร ได้เปิด WorkForce Enterprise AM-Serie ที่จะมาช่วยเติมเต็มไลน์สินค้าและสร้างโอกาสในการเพิ่มการขาย

 

New Business Model เอปสัน ได้เริ่มทำธุรกิจเชิงการบริการ เช่น EasyCare รูปแบบบริการการพิมพ์แบบจ่ายรายเดือน และในครึ่งปีหลังของปี 2566 ยังมีแผนที่จะเปิดการให้บริการการพิมพ์ภายใต้คอนเซปต์ Epson iPrint AnyWhere เพื่อสนับสนุนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับตัวหลังการระบาดของ COVID-19 ที่มีรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid มากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการในการพิมพ์งานเอกสารตามสถานที่ต่าง ๆ

New Service ในด้านการบริการ เอปสันได้เพิ่มทีมงาน Pre-sales เพื่อให้สนับสนุนการทำโซลูชันต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนข้อมูลผ่านทาง digital platform ต่าง ๆ และที่มีแผนขยายเครือข่ายการให้บริการหลังการขายของสินค้ากลุ่ม B2B จาก 122 แห่ง เป็น 130 แห่ง เพื่อตอบสนองการขยายตัวของสินค้าเอปสัน กลุ่ม B2B ที่ออกไปยังภูมิภาคมากขึ้น รองรับการขยายตัวของตลาด และลดระยะเวลาในการส่งเครื่องซ่อม

New Experience เอปสัน ประเทศไทย ได้มีการลงทุนในการสร้างโซลูชันเซนเตอร์แห่งใหม่ โดยจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3 ของปี 2566 โดยจะรวบรวมผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มาจัดแสดง พร้อมกับทำการสาธิตและจัดอบรมให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าที่สนใจ ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานเครื่องจริงก่อนตัดสินใจ

“ปี 2566  เอปสัน ประเทศไทย จะยกระดับความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยจะผลักดันเข้าไปสู่กลไกทางธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดแสดงและการสาธิตผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้และเปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคได้สัมผัสถึงคุณค่าด้านความยั่งยืน ที่เอปสันให้ไว้ในตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงผ่านกิจกรรมสื่อสารการตลาดที่มุ่งส่งเสริมด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการขานรับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาวของไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น หรือที่เรียกว่า ‘Environmental Vision 2050’

คุณยรรยง บอกกับเราเพิ่มเติมว่า จากผลกระทบหลังการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ทำให้มีปัจจัยบวกและโอกาสใหม่ที่สนับสนุนธุรกิจของเอปสัน อาทิ รูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid มากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการในการพิมพ์งานเอกสารตามสถานที่ต่าง ๆ ประกอบกับการเกิดใหม่ของ SME, Soho,  Freelance ทำให้เกิดกำลังซื้อในตลาด ไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจรับพิมพ์ภาพ

 

ธุรกิจรับพิมพ์เสื้อยืดและของชำร่วย หรือธุรกิจผ่านการซื้อขายบนอีคอมเมิร์ซ รวมถึงโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเริ่มใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในขั้นตอนการให้บริการมากขึ้น เช่น การพิมพ์ฉลากยาสีในโรงพยาบาล เป็นต้น ความต้องการเหล่านี้เอปสันมีโซลูชันที่พร้อมตอบโจทย์ของลูกค้าทุกการใช้งาน และทุกธุรกิจ

 

แน่นอนว่า แผนการกระตุ้นยอดขายและรักษาระดับการรับรู้ต่อแบรนด์เอปสันนั้น เอปสันยังคงทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนา กิจกรรมส่งเสริมการขายทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลของเอปสัน และแพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ และการสนับสนุนกิจกรรมของพาร์ตเนอร์ เป็นต้น

 

จากข้อมูลทั้งหมดเราจะเห็นถึงระบบนิเวศที่แข็งแกร่งของเอปสัน ประเทศไทย ซึ่งรางวัล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2023 สาขา BEST INNOVATIVE TECHNOLOGY AWARD จึงเหมาะสมที่สุดกับองค์กรนี้

 

เขียนและเรียบเรียง : วิทยา กิจชาญไพบูลย์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS