ดีแทค ลุยทำตลาดแพ็คเกจ “dtac GO” โทร “ใน-นอก” ประเทศ ไม่ต้องเปลี่ยนซิม

ดีแทค (dtac) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้ใช้ดีแทคที่ไหนก็ได้ในโลก โดยไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ด้วยแพ็กเกจ “dtac Go” ที่แตกต่างจาก  dtac sim go inter…


highlight

  • dtac เผยพฤติกรรมในการใช้งานของลูกค้า ที่มีแนวโน้มใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ลูกค้ามีการใช้ดาต้า 9 GB ต่อเดือน และเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส จนถึงปัจจุบันมีอัตราการใช้ดาต้าถึง 11 GB ต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 22% จากปีที่แล้ว
  • แนวโน้มความสำคัญในการท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย เพื่อพักผ่อนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และหาแรงบันดาลใจในการเรียน การทำงาน รวมถึงได้แชร์รูปภาพและความสนุกสนานจากการไปเที่ยวต่างประเทศมาอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลมีเดีย จึงทำให้มีอัตราการเดินทางไปต่างประเทศเฉลี่ยมากขึ้น 10% ต่อปี
  • แพ็กเกจ dtac GO ครั้งแรกของแพ็กเกจรายเดือน ให้เน็ตเมืองไทยเยอะสุด ใช้ไม่หมดทบไปเดือนหน้าได้ แถมใช้เน็ตเมืองนอกฟรี เพิ่มอีก 5GB โดยไม่ต้องสมัครเพิ่ม ใช้ซิมเดิม เบอร์เดิมได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ใช้เน็ตต่างประเทศ ไร้กังวล บิลไม่รั่วแน่นอน พร้อมมั่นใจการใช้งานต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการโครงข่ายพันมิตร ใน 72 ประเทศ ทั่วโลก อาทิ Softbank Mobile ผู้ให้บริการจากประเทศญี่ปุ่น SK Telecom ผู้ให้บริการจากประเทศเกาหลี Orange France ผู้ให้บริการจากประเทศฝรั่งเศส และ Swisscom, Salt Mobile, Sunrise ผู้ให้บริการในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ดีแทค GO ลุยสร้างความต่าง สร้างปรากฏการณ์แพ็กเดียวจบ!! ใช้ได้ทั่วโลก

ดีแทค ลุยสร้างแคมเปญใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยแพ็กเกจ “โก” (GO) แพ็กเกจรายเดือนที่เน้นมอบความสะดวกสบาย ให้ผู้ใช้ไม่ต้องลำบากเปลี่ยนซิม แต่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยไม่ต้องสมัครหรือจ่ายเพิ่ม

ฮาว ริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า datc GO เกิดจากแนวคิดใหม่ที่ดีแทค มองเห็นโอกาสทางการตลาดของลูกค้าที่ชอบเดินทางต่างประเทศ และเทรนด์พฤติกรรมของลูกค้าในการใช้งานอินเทอร์เน็ตจากมือถือที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

จากการใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพบว่าลูกค้ายังไม่มีทางเลือกของแพ็กเกจ และวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีปัญหาจากการใช้งานที่ไม่สะดวกสบาย 

ดีแทค GO เกิดจากแนวคิดใหม่ ที่ดีแทคมองเห็นโอกาสทางการตลาดของลูกค้าที่ชอบเดินทางต่างประเทศ และเทรนด์พฤติกรรมของลูกค้าในการใช้งานอินเทอร์เน็ตจากมือถือที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

dtac จึงสร้างมิติใหม่ในการเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมของลูกค้าที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต ให้สามารถเข้าถึงข้อมูล ที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลาทั่วโลก และเพื่อให้ลูกค้าได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการเดินทางอย่างราบรื่น  

ดีแทค
ฮาว ริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค

dtac จึงได้ทำสัญญาความร่วมมือกับพันธมิตร ที่เป็นผู้ให้บริการที่ครอบคลุมได้มากที่สุดใน 72 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งทุกเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่มีเสถียรภาพ และเป็นที่นิยมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประเทศนั้น ๆ

เช่น ญี่ปุ่น ใช้งานบนเครือข่าย Softbank Mobile เกาหลีใต้ ใช้งานบนเครือข่าย SK Telecom ฝรั่งเศสใช้งานบนเครือข่าย Orange France สวิตเซอร์แลนด์ ใช้งานบนเครือข่าย Swisscom, Salt Mobile, Sunrise ทำให้สามารถมอบคุณภาพสัญญาณที่ครอบคลุม

ซึ่งการจับมือในครั้งนี้จะช่วย แก้ปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ แล้วเกิดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น หรือ “บิลรั่ว” และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการต้องสมัครแพ็คเกจเฉพาะต่างประเทศ และต้องเปลี่ยนซิมทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปในต่างแดน 

ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนสถานที่ที่ได้รับความนิยมในประเทศนั้น ๆ ได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถอัปเดทเรื่องราวบนโซเชียลมีเดียของตนเองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของราคาค่าบริการ ที่ผู้ใช้ไม่รู้สึกคุ้มค่า จากการแพ็กเกจค่าโทร และจำนวนของอินเทอรเน็ตในต่างแดนที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน 

“จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าของเรา พบว่าปัจจุบันผู้ใช้บริการมีการเดินทางเฉลี่ย 2.9 เที่ยวต่อปี ส่วนลูกค้าดีแทคแบบเติมเงินมีการเดินทางเฉลี่ย 2.2 เที่ยว และมีพฤติกรรมชอบค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจบนโลกออนไลน์ และชอบอัปโหลดรูปภาพบนโซเชียลมีเดีย รีวิวอาหาร และแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจ จึงทำให้มีอัตราการเดินทางไปต่างประเทศเฉลี่ยมากขึ้น 10% ต่อปี” ฮาว ริ เร็น กล่าว

ดีแทค

ขณะที่พฤติกรรมในการใช้งานของลูกค้าที่มีแนวโน้มใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ลูกค้ามีการใช้ดาต้า 9 GB ต่อเดือน และเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส จนถึงปัจจุบันมีอัตราการใช้ดาต้าถึง 11 GB ต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 22% จากปีที่แล้ว

สำหรับลูกค้า dtac ที่ต้องการใช้งานแพ็กเกจ dtac Goแค่เพียงสมัครแพ็กเกจที่มีให้เลือกตั้งแต่ 499-1,099 บาท ซึ่งทุกราคาจะบวกเน็ตฟรี 5GB ให้ใช้งานในประเทศเพื่อนบ้าน และเน็ตฟรี!! ในประเทศที่กำหนดตามแพ็กเกจ และสามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อถึงจุดหมายปลายทางในวันแรกของการเดินทาง และหากใช้ไม่หมดก็ทบเน็ตเก็บไว้ใช้งานได้

นอกจากนั้นยังมีแพ็กเกจเสริม GO Travel สำหรับการใช้เน็ตต่างประเทศในราคาสุดคุ้ม สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ทั้งแบบเติมเงินและแบบรายเดือน ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 99-899 บาท ที่มอบเน็ตฟรีในประเทศประเทศที่กำหนด *(แพ็ค 99 บ./399 บ.) และ (899 บ. ไม่จำกัด) พิเศษ! แถมเน็ตเพิ่มอีก 1 GB เมื่อสมัครแพ็กเสริม GO Travel ก่อน 31 ธ.ค. 2562

ดีแทค

วิเคราะห์แนวคิดหลังดีแทคลุยเปลี่ยนเกมแข่งขันแพ็กเกจต่างประเทศ

การเปลี่ยนเกมการทำตลาดแพ็กเกจของ dtac ในครั้งนี้ น่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการที่ต้องเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับประเทศที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวของผู้บริโภคเป็นหลัก ในอดีตการเลือกแพ็กเกจ ผู้ใช้เลือกที่จะไปซื้อซิมของประเทศนั้น ๆ เพื่อใช้งานมากกว่าจะใช้บริการอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ เพราะมีค่าโทรถูกกว่าการใช้การโรมมิ่ง (Roaming) ไปจากประเทศของตนเองหลายเท่าตัว ในบางประเทศอาจมีตัวเลือกดาต้าจำนวนจำกัด แต่ก็สามารถซื้อดาต้าเพิ่มได้ถ้าต้องการ ขณะที่หลายประเทศก็ไม่จำกัดจำนวนดาต้า

ดีแทค

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถใช้เล่นโซเชียลเน็ทเวิร์คต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และไลน์ ได้ไม่จำกัดดาต้า ซึ่งข้อดีคือ สามารถใช้ดาต้าเหล่านี้ในการโทรผ่านแอปกลับไปยังประเทศได้ฟรี ๆ หรืออาจจะถูกกว่า 

แต่ไม่ได้หมายความการการซื้อซิมเฉพาะที่ทางผู้ให้บริการเคยทำจะไม่ดี แต่ติดตรงที่ผู้ใช้จำเป็นต้องศึกษา เปรียบเทียบ หรือหาข้อมูลเยอะ ว่าแพ็กเกจไหนคุ้มค่า และเหมาะสมกับระยะเวลาที่จะใช้งานในต่างแดน ซึ่งนั่นหมายความว่า หากมีเหตุที่ต้องใช้งานมากกว่าที่คาดเอาไว้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าซักเท่าไร อีกทั้งในการตั้งค่าการรับสัญญาณ (โดยเฉพาะในประเทศที่มีหลายผู้ให้บริการ) อาจจะยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีความรู้เชิงเทคนิคซักเท่าไรนัก

สำหรับการตั้งค่าโทรศัพท์มือถือ หากไม่ได้ตั้งค่าเพื่อให้รับสัญญาณเฉพาะเครือข่าย แต่ตั้งเป็นแบบ Automatic ก็อาจมีการจับสัญญาณที่ผิดพลาดจากแพ็กเกจ ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายส่วนเกินได้ และเกิดปัญหาเรื่องบิลค่าโทรรั่ว ทำให้ต้องมานั่งแก้ปัญหากันเมื่อกลับมาประเทศของตนเอง

ดีแทค

และในหลายกรณีผู้ใช้บางรายมักจะเลือกไปเช่าเครื่องที่ประเทศปลายทางมาใช้งาน หรือแม้แต่การพกพ็อกเก็ตไวไฟ (Pocket Wifi) ก็อาจเป็นวิธีที่ยุ่งยากได้เช่นกัน แต่ 2 กรณีนี้แทบจะหมดลงไปแล้วเพราะเครื่องสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะสามารถรับช่วงคลื่นได้หลากหลาย

ซึ่งก็จะตรงกับคลื่นความถี่ที่ประเทศที่เดินทางไปมีให้บริการ อีกทั้งสามารถใช้เป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ได้อีกด้วย ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขที่ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ออกมาเปิดเผยว่า

การเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศในปีนี้จะยังขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีคนไทยไปท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 10.55 – 10.75 ล้านคน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 6 ปี โดยเติบโตขึ้น 5.4% – 7.4% จากปี 2561 

ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่นักท่องเที่ยวไทยจะใช้กับค่าโทรศัพท์ และค่าอินเทอร์เน็ตมือถือเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่ dtac จะรีบเปิดเกมการแข่งขันเพื่อแย่งชิงรายได้ในส่วนนี้

การทำแพ็กเกจนี้จะแตกต่างจากสิ่งที่ดีแทคเคยทำใน dtac sim go inter ซึ่งใช้งานได้ในแค่ 67 ประเทศทั่วโลก และมีแพ็คเกจให้เลือกใช้แค่ 2 ประเภท เท่านั้น คือ

  • ซิมเที่ยวเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา ใช้ Sim GO Inter (Asia-Austrlia-America) ราคาเพียง 399 บาท ให้เล่นเน็ตแรงเต็มสปีด 5 GB นาน 10 วัน
  • ซิมเที่ยวยุโรปและทุกทวีปทั่วโลก ใช้ Sim GO Inter (Worldwide) ในราคา 899 บาท เล่นเน็ตแรงเต็มสปีด 4 GB นาน 15 วัน

นั่นหมายถึงการทำแพ็กเกจ dtac Go นี้ของ dtac จะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของแพ็กเกจมากขึ้น แถมด้วยแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้นไปด้วย และที่สำคัญคือ ไม่ต้องเสียเวลาในการไปหาซื้อตาม 7-11 หรือร้านสะดวกซื้อ, ช้อป dtac และสนามบินดอนเมือง เพราะสามารถใช้เบอร์เดิมได้ทันที

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com 

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่

ประกันภัยไทยวิวัฒน์