KOL :จันทร์เพ็ญ จันทนา ผู้อำนวยการผู้บริหารสาย Social Media & Digital Content ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
เป็นธรรมชาติธรรมดาของมนุษย์ทุกคน ที่หากประสบปัญหาแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ ก็มักจะตีโพยตีพาย ยกให้เป็นความบกพร่องผิดพลาดของคนอื่น โทษองค์กร โทษสังคม โทษเศรษฐกิจ โทษน้ำ โทษฟ้า ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าบางครั้งเราจะมีวิธีคลายความเครียด โดยการให้ดินให้ฟ้ามาแบ่งรับภาระทางความรู้สึกนั้นไปบ้าง แต่การจ่อมจมอยู่กับห้วงทุกข์และการกล่าวโทษนานเกินไปอาจไม่ช่วยอะไร คงจะดีกว่าหากเมื่อเราเจอปัญหาแล้วครองสติได้ จึงควรหันมา “จุดตะเกียง ดีกว่าสาปแช่งความมืด”
บ่ายวันหนึ่ง ผู้เขียนได้มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศอันงดงามราวกับโอเอซิสอันร่มรื่น หอมละมุมที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางกรุงเทพ ณ Divana Nature Spa สุขุมวิท ซอย 11 เพื่อพูดคุยและรับพลังบวกจากเจ้าของ 2 ท่าน คือ คุณตี๋ พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ และคุณตง ธเนศ จิระเสวกดิลก CEO & Co Founder แห่ง Divana ผู้มองเห็นทุก ๆ วิกฤตในชีวิตว่าเป็นประตูไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ผู้ไม่พิรี้พิไรฟูมฟายกับโชคชะตา ท่ามกลางความมืดมิดเขาเลือกที่จะเดินหน้า และตะเกียงที่เริ่มจุดเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ก็ยิ่งเรืองแสงแจ่มจ้าจนถึงวันนี้
ตึกถล่ม ชีวิตทะยาน
ในวันที่ตึกเวิลด์เทรดถล่ม เหตุการณ์ 9/11 ช็อคโลก สจวร์ตสวิสแอร์ 2 คนเริ่มเห็นเค้าลางวิกฤติของอุตสาหกรรมการบินในยุคนั้น สายการบินที่สังกัดมีปัญหาการเงิน และนำมาสู่การเลย์ออฟลูกเรือชาวต่างชาติทั้งหมด ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงม และการโวยวายฟ้องร้อง มีคนกลุ่มหนึ่งยังคงเดินหน้าไขว่คว้าโอกาสใหม่ ๆ รวมถึง 2 คนไทยคือคุณตี๋ คุณตงด้วยเช่นกัน เพราะเชื่อว่าหนทางแห่งความสำเร็จและความสุขนั้นมีอีกมากมายหลายเส้น เค้าจึงใช้วิกฤตินั้นเป็นแรงผลักดันสู่ธุรกิจที่ใฝ่ฝันมานาน คือการทำสปา…ตั้งแต่วันที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก
จากต้นทุนที่ทั้งคู่ได้มีโอกาสทำงานกับสวิสแอร์ ได้เดินทาง และพบปะกับผู้คนหลากหลายชาติที่มีไลฟสไตล์ที่แตกต่างกัน และยังได้สัมผัสกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่เป็นผู้นำด้านสุขภาพหรือ Wellness ของโลก ทำให้ได้เห็นโมเดลทางธุรกิจด้านสุขภาพที่มีมาตรฐาน รวมทั้งแรงบันดาลจากแบรนด์ la prairie แบรนด์สวิสที่แจกให้กับผู้โดยสารชั้น First Class บนเครื่องสวิสแอร์ ที่ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์เครื่องสำอาง แต่ยังมีสถาบันสุขภาพที่เหล่าคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกต้องไปใช้บริการ
เขามีความคิดว่า “สักวันหนึ่งเราต้องเป็นแบบนั้น” และการถูกเลย์ออฟครั้งนั้น ก็ทำให้ความคิดฝันได้มีโอกาสเลื่อนระดับ ขยับมาเป็นความจริง
บททดสอบของพระเจ้า
ในวันนี้ที่ธุรกิจผ่านมา 19 ปี หากเป็นคน นี่คือวัยที่เติบโตงดงาม พร้อมจะขยายความแข็งแกร่งไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง แต่หากฉายภาพ flash back ไปตั้งแต่เริ่มตั้งต้นเตาะแตะ ทั้งคู่ต้องเผชิญกับบททดสอบความเป็น “คนจริง” อยู่ตลอดเวลา กว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคเติบโต และขยายธุรกิจที่ครอบคลุมตั้งแต่ สปา เมดิคอลสปา คาเฟ่ จนถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ อย่างทุกวันนี้
ในช่วงแรกของการทำธุรกิจ ทั้งคู่มีเงินทุนไม่มาก แต่มุ่งมั่นทำสปาระดับหรูที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครันที่สุด สายป่านจึงมีความฝืด ผู้ก่อตั้งต้องทำเองแทบทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงเป็น CEO เท่ ๆ แต่ต้องเป็นทั้งพ่อบ้าน คนจัดสวน นักการตลาด ไปจนถึงตากล้อง ในช่วง 3 เดือนแรก ลูกค้าไม่มากพอที่จะสร้างกระแสเงินสดเข้าร้าน จนเหลือเงินสดก้อนสุดท้ายเพียง
90,000 บาท ถึงแม้สถานการณ์จะบีบรัด จะยากจะเครียดแค่ไหน แต่ด้วยหัวใจเต็มร้อยที่อยากดูแลลูกค้า แม้จะต้องเริ่มเปิดบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าและรับลูกค้าจนถึงตี 1 ของวันรุ่งขึ้น
แต่พวกเขาก็สู้ไม่ถอย…กัดไม่ปล่อย ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในที่สุดฟ้าก็เป็นใจ ธุรกิจเริ่มขยับ และขยายดีวันดีคืนขึ้นในเดือนที่สี่ ที่ห้า แล้ว Divana องค์หญิงผู้อ่อนน้อม ก็ค่อย ๆ เติบโต งดงาม แบบงามวันงามคืนในทุกมิติตั้งแต่บัดนั้น
ยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบ
ช่วงเวลาอันยาวนาน พวกเขาผ่านปัญหาและเห็นจุดอ่อนมากมาย ทั้งจุดที่มองเห็นด้วยตาตนเอง คำเตือนจากเพื่อนฝูง และเสียงสะท้อนจากลูกค้า เสียงตำหนิติเตียน ถูกแปลค่าเป็นความปรารถนาดี เป็นโอกาสที่จะได้ “กล้าแก้” การไม่ได้เสพติดกับความสำเร็จและคำชมเชยเพียงด้านเดียว ทำให้ไม่เกิดเป็นความประมาท อันจะนำมาสู่ความพลั้งพลาดและเสื่อมถอยในที่สุด เมื่อไม่ย่ามใจ ก็ไม่หยุดเรียนรู้ และเมื่อไม่หยุดเรียนรู้ ก็ไม่หยุดพัฒนา การแผ่ขยายคุณภาพ ไลน์ธุรกิจ และขนาดองค์กร จึงเพิ่มขึ้น ๆ เป็นลำดับ จากพนักงาน 4 คน ณ วันนี้ Divana จึงมีพนักงานที่เข้มแข็งถึง 500 คน มีผลิตภัณฑ์และบริการรองรับลูกค้ากว่า 1 ล้านคนจากทั่วโลก
ความสุข การให้ และความภาคภูมิใจของความเป็นชาติไทย
สิ่งที่สัมผัสได้จากการสนทนา คือ ไฟในการสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของทั้งคู่ ดูเหมือนจะไม่เคยอ่อนพลัง ด้วย Passion ด้วยความสู้ไม่ถอย ด้วยการศึกษาและลองผิดลองถูกจากทุกตำรา จนเกิดเป็นประสบการณ์การเรียนรู้เฉพาะตน สิ่งที่เพาะบ่มเริ่มงอกงามสู่การเป็นผู้ให้ ก่อให้เกิดความสุขที่ไม่ใช่เพียงตอบโจทย์ธุรกิจ แต่ยังสะท้อนความหมายของชีวิต และสร้างคุณค่าอย่างน่าภาคภูมิให้กับความเป็นคนไทย…สปาไทย ดังไกลระดับโลก ส่งผ่านประสบการณ์ให้เกิดประจักษ์พยานว่าประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางของสุขภาพ หรือ Wellness ระดับโลกได้
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาตลอดในการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจ ยังถูกถ่ายทอด สร้างการเรียนรู้ไม่รู้จบ ในบทบาทของ Mentor ให้กับธุรกิจรุ่นหลังต่อไป ไม่ใช่การเติบโตแบบเด่นคนเดียวไม่เหลียวมองใคร
ในวันที่เสียงบ่นเซ็งแซ่ในโลกออนไลน์ว่าโลกนี้แย่ ประเทศนี้เศรษฐกิจไม่ดี สิ่งแวดล้อมในวันนี้ไม่น่าอยู่ แต่เป็นเพียงเสียงบ่น แล้วไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลย คงไม่สร้างคุณค่าหรือมูลค่าใด ๆ เพราะความมืดดำและความไม่ดีก็จะยังคงอยู่… เรียนรู้ ยอมรับ ปรับตัว แล้วจุดตะเกียงเล็ก ๆ ในแบบของเรา สร้างความดี ความหมาย และความสว่างไสว เท่าที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะพึงทำ ก็งดงามยิ่งแล้ว
กลับออกจาก Divana Spa กลิ่นหอมจากธรรมชาติสารพันยังกรุ่น ๆ ติดจมูก แต่ที่เข้มข้นกว่า คือ พลังงานความมุ่งมั่นของธุรกิจแห่งความสุขที่ยังดูแจ่มจ้า และทัศนคติเชิงบวกที่ชวนให้ประทับไว้กับใจ …
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่