The Business Plus บิสิเนสพลัส
จบไปแล้วสำหรับการตัดสินคดีก้องโลกของอดีตคู่รักนักแสดงชื่อดังอย่าง จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) และ แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) จากกรณี เดปป์ ฟ้องร้องอดีตภรรยา แอมเบอร์ เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 516 ล้านบาท) ฐานหมิ่นประมาท (Defamation) ภายหลังจากที่แอมเบอร์ได้เขียนบทความลงในหนังสื่อพิมพ์ The Washington Post เมื่อปี 2018 ว่าเธอเป็นบุคคลสาธารณะที่เป็นตัวแทนของการถูกทำร้ายภายในครอบครัว (Domestic Abuse) แม้จะไม่มีการระบุชื่อของเดปป์ลงในบทความ แต่จากการตีความของบทความนี้ ทำให้ผู้คนเข้าใจว่าแอมเบอร์หมายถึงอดีตสามีอย่างเดปป์ จนกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฮอดลีวูดที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและรายได้ของเดปป์อย่างหนัก
อย่างไรก็ดี ในการตัดสินคดีโดยระบบลูกขุน ศาลตัดสินให้เดปป์เป็นฝ่ายชนะคดี โดยแอมเบอร์ต้องจ่ายเงินชดเชยให้เดปป์เป็นจำนวน 15 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่บทความดังกล่าวกำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ถือเป็นช่วงเวลาตกต่ำของนักแสดงขึ้นชื่ออย่างเดปป์เป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะไม่มีงานใหม่ ๆ เข้ามาแล้ว ยังรวมไปถึงการถูกถอดออกจากบทบาทการแสดงที่ได้รับไว้ก่อนหน้านั้นด้วย
โดยเดปป์มีงานที่อยู่ในมือหลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์สร้างชื่อที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของเดปป์ จากบทบาท ‘กัปตันแจ็คสแปร์โรว์’ อย่าง Pirates of the Caribbean ซึ่งคาดว่าเดปป์จะได้รับเงินทั้งหมด 22.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 775 ล้านบาท) จากการแสดงภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean ภาค 6 แต่ก็โดน Disney ยกเลิกโปรเจ็กต์ไป อย่างไรก็ดี เดปป์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขามีความตั้งใจที่จะเขียนบทและแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมบูรณ์ที่สุดเป็นการอำลาบทกัปตันแจ็คสแปร์โรว์ที่เขาผูกพันมานาน
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการขอให้ถอนตัวจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Fantastic Beasts ของค่าย Warner Bros. ซึ่งก่อนจะมีประเด็นบทความดังกล่าว เดปป์ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนหนังเป็นอย่างดี ในบทบาทของ ‘กรินเดลวัลด์’ ส่งผลให้มีแฟนหนังและแฟนคลับของเดปป์ต่างเฝ้ารอชมบทบาทนี้ของเขาในภาคต่อไปเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ภายหลังการถอนตัวของเดปป์จากบทบาทกรินเดลวัลด์ในภาพยนตร์ Fantastic Beasts ได้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเพื่อสานต่อบทบาทดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในการเข้าฉายภาพยนตร์ภาคต่อนี้ ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามที่ทางค่ายคาดหวัง โดยหนังภาคต่อนี้ถือเป็นภาคที่ 3 แต่กลับได้รับรายได้ต่ำที่สุดจากการฉายทั้งหมด 3 ภาค (เดปป์เริ่มรับบาทบาทนี้ในภาคที่ 2) โดยในรอบสัปดาห์แรกทำรายได้เพียง 43 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นรายได้ที่น้อยที่สุดในแฟรนไชส์ Fantastic Beasts ที่เคยสร้างมา ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ทางค่ายถอนเดปป์ออกจากบทดังกล่าว ซึ่งกระทบต่อฐานผู้ชมพอสมควร
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางกระแสข่าวที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเดปป์ กระทบไปถึงความเชื่อมั่นจากผู้ว่าจ้าง แต่ยังคงมีหนึ่งในแบรนด์ที่ยังคงยืนหยัดเคียงข้างเดปป์ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ อย่าง Dior ที่ยังคงให้โอกาสเดปป์ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของน้ำหอมในแคมเปญ ‘Sauvage’ ต่อไป แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้คนรอบข้างที่เชื่อเนื้อหาจากบทความของแอมเบอร์
โดยผลของการยืนหยัดของ Dior ส่งผลให้น้ำหอม Sauvage ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากบรรดาแฟนคลับและผู้คนที่ชื่นชมทางแบรนด์ที่ไม่ถอดเดปป์ออกการเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยยอดค้นหาน้ำหอม Dior Sauvage ในเว็บ Cosmetify เว็บขายเครื่องสำอางรายใหญ่ก็เพิ่มขึ้น 23% และเกิดเป็นกระแสชื่นชมและขอบคุณ Dior ที่ยังไว้ใจเดปป์ และยังส่งผลให้น้ำหอม Sauvage ขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมชายที่ขายดีที่สุดในร้าน The Fragrance Shop และติดลิสต์น้ำหอมที่ขายดีที่สุดในร้าน The Perfume Shop ในเวลานั้น
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมกราคม 2022 เว็บไซต์ Marie Claire ได้จัดอันดับให้น้ำหอม Sauvage เป็นน้ำหอมผู้ชายที่มียอดขายทั่วโลกสูงสุด โดยมีการสั่งซื้อทุก ๆ 3 วินาที คิดเป็นยอดขาย 4.5 ล้านดอลลาร์/วัน
ขณะที่ในระหว่างการพิจารณาคดีระหว่างเดปป์และแอมเบอร์ พบว่ามีการค้นหาน้ำหอมดังกล่าวผ่าน Google เพิ่มขึ้น 48% จากการค้นหา 8.23 แสนครั้งในเดือนมีนาคม 2022 เป็น 1.2 ล้านครั้งในเดือนเมษายน 2022 และการเข้าชมวิดีโอเกี่ยวกับการทดลองใช้น้ำหอม Sauvage ผ่านแอพพลิเคชั่น TikTok เพิ่มขึ้น 63% ในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นผลตอบแทนจากความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Dior ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลนี้ เป็นที่น่าสนใจว่าภายหลังจากคำตัดสินของศาลที่ให้เดปป์ชนะคดีในการฟ้องร้องแอมเบอร์แล้วนั้น Dior น่าจะได้รับรายได้จากการขายน้ำหอม Sauvage เพิ่มขึ้นอีกมากในช่วงเวลาต่อจากนี้
หัวข้อ : Global Analytic
ที่มา : thestandard, theguardian, majorcineplex
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
