Dell Technologies กับบทบาทช่วยลูกค้าขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้นิยาม Essential Infrastructure Solutions

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคือกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากที่สุดท่ามกลางการระบาดของโคโรน่าไวรัส โดยสาเหตุจากมาตรการควบคุมการเดินทางของภาครัฐทั่วโลก และความหวาดกลัวที่ทุกคนมีต่อ COVID-19 นั้นทำให้ผู้คนซึ่งเคยใช้วิถีชีวิตแบบเดิม ๆ จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับไปกับทิศทางใหม่ที่เกิดขึ้น โดยทิศทางใหม่ที่เกิดขึ้นก็มีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันและคอยช่วยเหลือสนับสนุนให้การใช้ชีวิตและการทำงานสามารถดำเนินต่อไปได้ท่ามกลางความไม่ปกติในเวลานี้

วันนี้เราจะมาอัปเดทสถานการณ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และทิศทางจากนี้ของอุตสาหกรรมว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดกับคุณอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหารตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชียและกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท Dell Technologies (ประเทศไทย) ซึ่งคุณอโณทัย ได้ให้มุมมองภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีว่า

ปัจจุบันนี้เราอยู่ในยุคที่มนุษย์และเครื่องจักรเป็นพันธมิตรกัน ซึ่งเดิมทีคาดการณ์กันว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะเกิดขึ้นสมบูรณ์ในปี 2030 แต่ภายใต้สภาพแวดล้อม ณ ปัจจุบัน ทำให้เกิดการเร่งตัวทางเทคโนโลยีขึ้น ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2025 เราน่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีในฐานะพันธมิตรซึ่งจะก้าวหน้าไปอีกมาก

ขณะที่ในปี 2021 นี้คุณอโณทัย มองว่าเทคโนโลยีที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญและต้องลงทุนกับมันมากขึ้นก็คือ Cloud ซึ่งทาง Dell Technologies เชื่อว่าทุกองค์กรต้องลงทุนด้านนี้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Hybrid cloud เพื่อให้ได้ Cloud economic ที่นอกจากจะมี Private Cloud ในองค์กรเป็นของตัวเองแล้ว ขณะเดียวกันก็อาจจะมี Public Cloud ที่เป็นในรูปแบบ Service Provider และก็อาจจะมีการใช้บริการต่างหากผ่าน Telco Cloud แล้วก็ Edge cloud ด้วย

“ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่สำคัญต่อโลก ไม่มีใครคาดคิดว่าชีวิตนี้ต้องมาเจอกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทุกคนได้รับผลกระทบหมดมากน้อยแตกต่างกันไป แต่ว่าในเชิงของเทคโนโลยีเรากลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการที่จะช่วยทุกคนบนโลกใบนี้ให้สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกัน และขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กร

ซึ่งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเราทำผลประกอบการได้มากถึง 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโต 3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานโตขึ้นถึง 17% เลยทีเดียว”

การเติบโตตรงนี้มาจากการที่คนต้องทำงานที่บ้านหรือเรียนหนังสือที่บ้านกันมากขึ้น ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องมีการลงทุนอุปกรณ์ด้าน IT และ Digital Infrastructure มากขึ้น ปีที่แล้ว IT ในส่วนของ Device โดยเฉพาะในส่วนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเติบโตมากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งมีการประมาณการกันว่าปีที่แล้วปีเดียวมียอดการขนส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านเครื่อง

“ผมคิดว่าบทบาทของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะเปลี่ยนไปจากนี้ เมื่อก่อนมันคือ Personal computer แต่ตรงนี้มันเปลี่ยนตัวเองไปเป็น Personal companion มากยิ่งขึ้นผ่านการประสานความสามารถของ AI หรือ Machine learning หรือ Intelligent ต่าง ๆ เข้ามาทำให้มันกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเราจริง ๆ ในเรื่องของการทำงาน”

Dell Technologies ในวันนี้มีขอบเขตธุรกิจค่อนข้างกว้าง ครอบคลุมตั้งแต่ Enterprise business ลงมาถึง Consumer business โดยตัวผลิตภัณฑ์มีตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Data Center business ซึ่งจะรวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในนั้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ, เน็ตเวิร์ค กิ้ง และ Private Cloud เป็นต้น

หากให้พูดถึง Dell ต้องบอกว่าเราทำค่อนข้างกว้างครอบคลุมตั้งแต่ Enterprise business ถึง Consumer business เลย เราจัดองค์กรในลักษณะ Customer centric เพราะฉะนั้นเราจะมีลูกค้าตั้งกลุ่ม Enterprise, Public sector, Commercial, SMB และ Consumer”

นอกจาก Hardware แล้ว Dell Technologies ยังมีบริการด้าน Solution เกี่ยวกับ Software ด้วยเช่น การทำ Private Cloud Setup การทำ Platform สำหรับ AI หรือการทำ Cybersecurity เป็นต้น ขณะที่ฝั่ง Device ก็มีตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบ PC และ Notebook

นอกจากนี้เรายังมี Solution ที่เกี่ยวข้องกับ Device ด้วย เช่นการทำ Remote Workforce และ Workplace Management ถ้าจะให้จำกัดความคงต้องบอกว่า Dell Technologies ในวันนี้คือ Technology Company ที่นำเสนอ Essential Infrastructure Solutions เพื่อช่วยลูกค้าให้เอาเทคโนโลยีไปใช้เพื่อขับเคลื่อนคนทำงานให้ก้าวไปข้างหน้า