การเดินทางอันยาวนานของ ‘เด็กสมบูรณ์’ จากภาพวาดสุดคลาสสิกถึงภาพถ่าย ‘พี่ธีร์-น้องพีร์’

หากจะกล่าวถึงหนึ่งในแบรนด์ที่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นผลิตภัณฑ์คู่ครัวที่แทบทุกครัวเรือนมักจะมีติดบ้านไว้เสมอ เห็นจะหนีไม่พ้น เด็กสมบูรณ์’ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาพจำของแบรนด์นี้อย่าง ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์’ เครื่องปรุงรสที่ช่วยปรับรสชาติให้กับอาหารได้หลากหลายเมนู ที่ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์นี้ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างภาพจำให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ด้วยโลโก้รูปเด็กที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์กำลังนั่งถือขวดซีอิ๊ว อีกทั้งการโปรโมทผลิตภัณฑ์ผ่านการโฆษณาที่ติดหูคนไทยมาอย่างยาวนานจนจำชื่อผลิตภัณฑ์ได้อย่างขึ้นใจว่า ‘ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์’

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ นับเป็นระยะเวลายาวนานถึง 76 ปี ที่ ‘เด็กสมบูรณ์’ อยู่คู่ครัวไทยพร้อมกับโลโก้สุดคลาสสิก ที่เพียงแค่เห็นก็จำได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาจากผู้ผลิตรายใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ‘เด็กสมบูรณ์’ ได้กลายเป็นที่กล่าวถึงในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง หลังผู้ใช้งานแฟนเพจเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามมากถึง 1.3 ล้านราย อย่าง ‘ผู้บริโภค’ ได้ออกมาเผยภาพผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ ‘เด็กสมบูรณ์’ ที่มีรูปภาพของเด็กน้อย 2 คนกำลังยิ้มอย่างสดใส พร้อมกับตั้งคำถามว่า “เด็กสองคนนี้คือใคร” ซึ่งภายหลังก็มีผู้เข้ามาตอบคำถามนี้เป็นจำนวนมากว่าแท้จริงแล้ว เด็กทั้งสองคนที่ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์ก็คือ ‘พี่ธีร์-น้องพีร์’ ลูกชายฝาแฝดของนักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ‘บีม กวี’ นั่นเอง

ทั้งนี้ นอกจากผู้คนจะตอบคำถามว่าเด็กในภาพคือใครแล้ว ยังมีการกล่าวถึงการเปลี่ยนโลโก้ของ ‘เด็กสมบูรณ์’ อีกด้วย เนื่องจากเข้าใจว่ารูปภาพของเด็กน้อยทั้งสองเป็นรูปภาพที่จะมาทำหน้าที่โลโก้อันใหม่แทนของเก่า แต่จริง ๆ แล้ว ภาพของ ‘พี่ธีร์-น้องพีร์’ ที่ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์นั้น เป็นเพียงภาพที่เพิ่มเข้ามาอยู่บนผลิตภัณฑ์ด้วยเท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่รับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของ ‘เด็กสมบูรณ์’ นั่นเอง และแน่นอนว่าโลโก้ก็ยังคงเป็นภาพวาดสุดคลาสสิกภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ในวันนี้ Business+ จึงขอพาทุกท่านย้อนวันวานไปยังจุดเริ่มต้นของ ‘เด็กสมบูรณ์’ เจ้าของผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่อยู่คู่ครัวไทยมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

‘เด็กสมบูรณ์’ เป็นแบรนด์ภายใต้ ‘บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด’ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2490 โดยครอบครัว ‘ตั้งสมบัติวิสิทธิ์’ เพื่อจำหน่ายซีอิ๊วที่ผลิตด้วยเทคนิคการผลิตที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ต่อมาปี พ.ศ. 2496 ‘คุณวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์’ ได้ดำเนินธุรกิจต่อจากบิดา โดยได้มีการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลิตภัณฑ์ซีอิ๊วและเต้าเจี้ยว ‘ตราเด็กสมบูรณ์’ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วประเทศ ส่งผลให้มีปริมาณความต้องการจากผู้บริโภคสูงขึ้น ในปี พ.ศ.2523 จึงได้เปลี่ยนจากระบบครอบครัวเป็นระบบการบริหารแบบมืออาชีพ และนำวิธีตลาดสมัยใหม่มาใช้ พร้อมทั้งสร้างโรงงานแห่งแรก ( โรงงาน 1) ขึ้นที่ตำบลท่าจีน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร บนเนื้อที่ 60 ไร่

ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 เริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก และด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2530 ‘บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด’ ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทซีอิ๊วจากกระทรวงอุตสาหกรรม

ปี พ.ศ. 2540 ขยายการผลิตตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้น โดยโรงงานแห่งใหม่นี้เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์การผลิตและการวิจัยอันทันสมัย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ ส่งผลให้ ‘หยั่น หว่อ หยุ่น’ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและอาหารอย่างครบวงจร ซึ่งไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวที่เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างหลากหลาย อาทิ ซอสหอยนางรม ซอสพริก น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างทั่วถึง ส่งผลให้ในปัจจุบัน ‘หยั่น หว่อ หยุ่น’ ไม่ได้เป็นที่รู้จักเพียงแค่ผู้ผลิตซีอิ๊วเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ ‘หยั่น หว่อ หยุ่น’ ยังคงดำเนินกิจการมาได้อย่างยาวนาน นอกจากคุณภาพของสินค้าจะเป็นที่ยอมรับแล้ว การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้สามารถองค์กรสามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา ยังช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับการดึงเอาบุคคลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นวงกว้างอย่าง 2 แฝด ‘พี่ธีร์-น้องพีร์’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการปรับตัวของผู้ผลิตในการเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่นอกจากจะมีคาแรกเตอร์ที่เข้ากับภาพลักษณ์ของแบรนด์แล้ว ยังเป็นบุคคลที่จะช่วยดึงลูกค้าที่มีความชื่นชอบในตัวของพรีเซ็นเตอร์ให้เข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์มากขึ้นอีกทาง

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ของ ‘บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด พบว่า
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,345 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.22% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 135 ล้านบาท

ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,584 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.95% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท ลดลง 20.61% จากปี 2563

ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,436 ล้านบาท ลดลง 5.73% จากปี 2564 และขาดทุนสุทธิ 267 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ของ ‘บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด พบว่า
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.75% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,382 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.52% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท

ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.48% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.44% จากปี 2563

ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.73% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.86% จากปี 2564

ที่มา : deksomboonshop, Corpus X

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #เด็กสมบูรณ์ #ตราเด็กสมบูรณ์ #หยั่นหว่อหยุ่น #ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ #deksomboon #แบรนด์ในตำนาน #แบรนด์ดังในตำนาน