พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้า คือ หัวใจของ COTTO

พฤติกรรมของคนหลังโควิด-19 จะเปลี่ยนไปอย่างถาวร หลาย ๆ ธุรกิจต้องพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการ โดยเฉพาะตลาดสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำเพราะห้องน้ำจะกลายเป็นพื้นที่ที่คนจะใช้เวลาอยู่นานมากขึ้นจากการให้ความสำคัญกับความสะอาดดังนั้นห้องน้ำในปัจจุบันจะไม่ใช่แค่สถานที่ปลดทุกข์อีกต่อไปแต่จะต้องเป็นสถานที่ผ่อนคลายและสร้างเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับผู้ใช้ได้ด้วย

 

คุณกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด เจ้าของสุขภัณฑ์แบรนด์ชั้นนำอย่าง คอตโต้ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการสุขภัณฑ์โดยรวมลดลง แต่ยอดขายของคอตโต้ยังประคองตัวเองได้ดีทั้งตลาดในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนสาเหตุมาจากการพัฒนาและปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการ โดยเน้นการใส่ใจลูกค้ามากขึ้นด้วยกลยุทธ์ Customer centric และการทำ Market Research รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมในการผลิตที่ดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของคอตโต้

 

COTTO ปรับตัวตอบสนองความต้องการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นั่นคือการปรับบ้านให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข ที่ไม่ใช่แค่สุขกายแต่ต้องสุขใจ เป็นดัง Space of Happiness Bathroom ที่ต้อง Smart และ Hygiene นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตที่สอดคล้องกัน โลกสมัยก่อนอยู่ได้ด้วย Economies of scale แต่โลกปัจจุบันต้องเป็น Economies of Scope กับ Economies of Speed เพื่อให้ตอบสนองตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราได้นำเอานวัตกรรมมาช่วยในการ Simulate และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง”

 

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลง โดยห้องน้ำกลายเป็นสถานที่นึงที่ต้องใส่ใจเพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ต้องใช้ในการดูแลความสะอาดให้ตัวเอง
ดังนั้นตลาดสุขภัณฑ์กำลังจะไปในทิศทางของ Smart และ Hygiene ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของ Smart Toilet คอตโต้มองว่าฐานลูกค้า
จะสามารถขยายได้อีกมาก เพราะเป็นสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มตลาด บ้านพักอาศัยและอาคารสำนักงาน โดยคอตโต้ตั้งเป้ายอดขายกลุ่ม Smart Toilet ในปี 2564 ที่ 320 ล้านบาท

 

“เราเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าเป็นอย่างดี ฟังก์ชั่นไหนที่ไม่จำเป็นเราจะไม่ใส่เข้าไปในสินค้า และเพิ่มฟังก์ชั่นบางอย่างที่ลูกค้าอยากได้เข้าไปจะทำให้ได้ราคาที่จับต้องได้ และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว”

 

กุญแจสู่ความสำเร็จแบบฉบับ COTTO จะเน้นที่ 3 เรื่องสำคัญ

  1. 1. ต้องเข้าใจลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก โดยสินค้าและบริการคอตโต้ล้วนพัฒนามาจากการศึกษาผู้ใช้งานจริง โดยคอตโต้ให้ความสำคัญทุกขั้นตอน ตั้งแต่สำรวจ สัมภาษณ์ เก็บข้อมูล ความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และนำไปพัฒนา

 

  1. 2. ต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยการมุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมเพื่อความสะดวกและสะอาดที่สวยงาม มีดีไซน์ มีคุณภาพและราคาจับต้องได้ เป็นสินค้าและบริการใน้ที่ผู้บริโภคสามารถเอื้อมถึง

 

ยิ่งเทรนด์ปัจจุบันยังนิยม แบบ Customize personalization ทางคอตโต้เองก็มีสินค้าที่กลุ่มลูกค้าที่รักความมีดีไซน์ มีสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง “SMART & HYGIENE with STYLE” โดยเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้ Mix & Match สินค้า Smart ตาม Style ที่เป็นตัวเอง และทำให้พื้นที่ห้องน้ำเป็น Space of happiness bathroom ด้วยเช่นกัน

  1. 3. ราคาต้องคุ้มค่า จับต้องได้ ด้วยการมุ่งเน้นส่งมอบสินค้าที่ดีที่สุดในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Main stream ทั่วไป รวมถึงสินค้ากลุ่ม Smart & Hygiene โดยราคาสินค้าต้องแข่งขันในตลาดได้ โดยที่ลูกค้ายังได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพดีที่สุด

 

“อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสนใจนอกจาก 3 เรื่องนี้คือเรื่องของ Way of working ด้วยการให้ความสำคัญกับ Customer centric การเข้าใจลูกค้า, Collaboration การร่วมมือกันทั้งในและนอกองค์กร และรวมไปถึงการแนวคิด Entrepreneur : ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบผู้ประกอบการให้กับพนักงานของคอตโต้”

 

คุณกิตติพงษ์ กล่าวว่า คอตโต้ จะไม่หยุดอยู่ที่ตลาดในประเทศแต่จะขยายธุรกิจไปสู่อาเซียนมากขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 8% จากการขยายตลาดไปต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาเซียนโมเดล ด้วยการหาจุดที่ตอบสนองได้ดีสำหรับแต่ละประเทศ และออกแบบให้ความต้องการที่แตกต่างให้ลงตัวที่สุด ซึ่งเราสามารถเข้าใจคนไทยและคนอาเซียนได้ดีกว่าแบรนด์ไหน ๆ ซึ่งปัจจุบันได้ขยายตลาดไปยังตลาดในอาเซียนกลุ่มประเทศ CLMV มียอดขายการส่งออก 25%

 

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ COTTO ที่ประสบความสำเร็จและได้รับรางวัล Product of the year awards 2021 นั้นคือรุ่น Simply Modish ที่มีดีไซน์บาง ลบภาพสุขภัณฑ์แบบเดิมๆ ด้วย รูปลักษณ์ที่โมเดิร์น มินิมอล ด้วยฝารองนั่งที่บางเฉียบแต่แข็งแรง มีความเป็น internationalและยังได้รับความนิยมสูงมากจนถึงปัจจุบัน

 

นอกจากนี้สุขภัณฑ์รุ่น Simply Modish ยังถูกพัฒนาและออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันจึงมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฝาอัตโนมัติ ฝารองนั่งแบบบาง ฝาหนานุ่ม หรือเป็น waving sensor รุ่น Simply modish ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไร้สัมผัส พร้อมสารเคลือบ Ultra clean+ ที่ยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียได้เอง 99% ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ออกแบบตามความต้องการของลูกค้าทั้งสิ้น

 

Simply Modish เป็นที่นิยมทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ เพราะถูกออกแบบจาก Global perception ด้วยรูปทรง GeoMetric ดังนั้น ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนก็ยังดูร่วมสมัย นอกจากนี้เราได้ปรับ อัพเกรดเวอร์ชั่น และต่อยอด Simply Modish มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเทรนต์สี ฟังก์ชั่น และความนิยม ด้วยการศึกษาเทรนด์ความต้องการลูกค้าและค่อย ๆ พัฒนาฟังก์ชั่นเข้าไป เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และพัฒนามาเรื่อย ๆ แตกไปสู่ความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกยุค และเพื่อเติมเต็ม The Space of happiness bathroom ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและอาเซียนต่อไปครับ”