จากกรณีที่สหรัฐ อเมริกา ประกาศจะเพิ่มการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็นร้อยละ 25 จากเดิมที่ร้อยละ 10 วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่จีนได้ตอบโต้ทันควันเช่นกัน โดยประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อีกมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แน่นอนว่า การตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก กำลังจะสร้างวิกฤติทางการค้าครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่าสงครามการค้าที่ตอบโต้กันไปครั้งนี้ แม้ว่าพญามังกรดูจะเจ็บตัวมากกว่าแต่ทางฝั่งของพญาอินทรีย์ก็เจ็บตัวไม่ต่างกัน ในขณะที่ประเทศอื่นซึ่งไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง อย่างประเทศไทย จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จากสงครามการค้าดังกล่าว หากมองโดยภาพรวมแล้ว ประเทศไทยจะได้รับผลดี เพราะเมื่อสหรัฐฯเก็บภาษีจากจีนในอัตราที่สูง ก็จะมีสินค้าบางอย่างของไทยที่สามารถนำเข้าไปขายในสหรัฐฯได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อจีนเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าบางอย่างของสหรัฐฯสูงขึ้น เช่น สินค้าเกษตร เป็นต้น ซึ่งจะทำให้สินค้าเกษตรจากประทศไทยส่งออกไปจีนได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้น ในส่วนนี้ถือว่าประเทศไทยได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามประเทศไทยซึ่งไม่ใช่คู่กรณีและได้รับทั้งผลกระทบและข้อได้เปรียบ ไม่อาจนิ่งนอนใจ การมองหาตลาดใหม่ๆ รองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ย่อมดีกว่า ซึ่งตลาดที่อยู่รอบๆ อย่างกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ก็ยังคงเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี …
Read More »
The Business Plus บิสิเนสพลัส

Welcome to popups plugin