คาแร็กเตอร์ คาเฟ่ ความเพ้อฝันที่ขายได้

ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงลิ่วในทุกอินดัสทรีทำให้ทุกธุรกิจอยู่ยาก ไม่เว้นแม้ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจที่ถูกยกให้เป็นธุรกิจปราบเซียนในทุกยุค ยิ่งในยุคที่คนไม่จำเป็นต้องเดินเข้าร้านเพื่อไปทานอาหารเหมือนแต่ก่อนเพราะการเข้ามาของบริการเดลิเวรี่ ไลน์แมน แกรบฟู๊ด ฟู๊ดแพนด้า เป็นสื่อกลางในการเป็นตัวแทนไปเข้าแถวซื้อและส่งอาหารให้ถึงมือ ก็ยิ่งทำให้คนเดินเข้าร้านน้อยลง ๆ


แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่บางแห่งที่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาที่ร้านได้ไม่หยุดหย่อน เพราะร้านเหล่านี้ต่างมุ่งไปที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ที่มีความต้องการบางอย่างที่หาที่ไหนไม่ได้


เช่น คาเฟ่สัตว์เลี้ยง ที่แม้ว่าอาหารจะแพงแค่ไหน ต้องจ่ายค่าเข้าเพิ่มมากเท่าไหร่ เหล่าคนรักสัตว์ก็พร้อมที่จ่ายเพื่อเข้าไปสัมผัสความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ที่มีตั้งแต่แมว สุนัข ไปจนถึงสัตว์แปลก ๆ ที่ต้องได้รับการอนุญาตในการครอบครองเป็นพิเศษ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในรูปแบบธุรกิจแบบนี้คือ การที่เจ้าของมองขาดว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น และพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของตัวเอง คาเฟ่สัตว์จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มคนรักสัตว์ที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในชีวิตจริง ได้มีพื้นที่เติมเต็มความต้องการหรือสนองนีดในความอยากเลี้ยงสัตว์นั่นเอง

และอีกหนึ่งเทรนด์ที่ช่วงนี้กำลังมาแรงไม่แพ้คาเฟ่สัตว์ก็คือ คาแรคเตอร์ คาเฟ่ (Character cafes) หรือ คาเฟ่ การ์ตูน ที่หยิบเอาคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนชื่อดัง ขวัญใจคนทั่วโลกมาสร้างเป็นตีมคาเฟ่ ดึงเม็ดเงินมหาศาลจากสาวกตัวการ์ตูนเหล่านั้น ซึ่งลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายก็ไม่ใช่เด็ก แต่กลับเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีรายได้และขณะเดียวกัน ก็เติมเต็มชีวิตวัยเด็กกับการ์ตูนในดวงใจ ซึ่งต้องบอกว่าวันนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการคาเฟ่เมืองไทย เพราะอันที่จริงการดึงเอาคาแรคเตอร์การ์ตูนดังมาเป็นธีมของการทำร้านคาเฟ มีในเมืองไทยมีนับ 10 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Sanrio Hello Kitty House Bangkok, Unicorn Café, Paul Frank Café, Moomin Cafe, B.Duck, HUNGRY BEAR, Toys Café, Mermaid Castle, Charlie Brown Cafe, และ May’s Garden House Restaurant เป็นต้น

หากกลับมาพิจาราณาว่า ทำไม คาแรคเตอร์ คาเฟ่ ถึงสามารถทำเงินและอยู่ได้แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่นับว่าดี ก็จะพบว่า คาแรคเตอร์ คาเฟ่ มีจุดเด่นอยู่ที่เอกลักษณ์ของตัวการ์ตูนที่จดจำได้เป็นตัวดึงดูดลูกค้า ซึ่งมีการคัดสรรลูกค้าต่างจากคาเฟ่หรือร้านกาแฟทั่วไป ที่ลูกค้ามักถูกดึงดูดให้เข้ามาที่ร้านด้วยรสชาติที่ลูกค้าอยากกิน ในขณะที่ คาแรคเตอร์ คาเฟ่ จะดึงดูดลูกค้าที่ต้องการเข้ามาเพื่อเสพ “บรรยากาศ” เป็นลำดับแรก ในขณะที่รสชาติและอาหารจะเป็นลำดับถัดมา ที่จะมัดใจลูกค้าให้กลับมาใช้บริการในครั้งต่อไป

นอกจากนี้ คาแรคเตอร์ คาเฟ่ ยังเป็นธุรกิจที่แข่งขันกันไม่เหนื่อย เพราะคาแรคเตอร์แต่ละตัวจะมีฐานแฟนคลับเป็นของตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแย่งลูกค้ากันให้เหนื่อยเท่ากับร้านคาเฟ่กาแฟทั่ว ๆ ไป แถมคาแรคเตอร์การ์ตูนแต่ละตัวก็ช่วยคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดเมนู ไปจนถึงการตั้งราคาได้อย่างสมเหตุสมผล และที่สำคัญคือไม่ต้องสร้างการรับรู้มากนัก เพราะตัวคาแรคเตอร์ การ์ตูน เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คาแรคเตอร์ คาเฟ่ จะหยิบคาแรคเตอร์การ์ตูนที่วัยรุ่นและวัยทำงานนิยมเสพเป็นส่วนใหญ่ เพราะสามารถครีเอทรสชาติเมนูได้หลากหลาย และตั้งราคาในเรทที่สูงได้

 


ไม่เพียงแต่ร้านคาเฟ่แสตนอโลนเท่านั้น แต่ยังมี คาแรคเตอร์ คาเฟ่ ชื่อดังที่มาในรูปแบบของ Pop Up Cafe อาทิเช่น “One Piece Pop Up Cafe” ร้านคาเฟ่โจรสลัดหมวกฟาง และล่าสุดกับคาเฟ่ ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ปี 2019 (Detective Conan Cafe 2019) กลับมาสร้างสีสัน ณ ร้าน Bake A Wish สาขาสยามเซนเตอร์


สำหรับ Bake A Wish เป็นร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นอันดับ 1 ในประเทศไทย เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเบเกอรี่สูตรจากเมืองโกเบ ด้วยการตกแต่งภายในแบบคลาสสิค ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่น เสิร์ฟขนมอบโฮมเมดสดใหม่ชั้นเลิศ ก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้อง นิกันติ์ ปรัชญาศิลปวุฒิ และวีจิ ปรัชญาศิลปวุฒิ ในปี 2549 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนขยายออกไปมากกว่า 20 สาขา นอกเหนือจากเบเกอรี่ที่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ ขนมเค้กแบบญี่ปุ่น ชูครีม คุกกี้ ขนมปัง และขนมชิ้นเล็กชิ้นน้อยสำหรับงานปาร์ตี้ แต่ละจานส่งตรงความสดใหม่ด้วยการทำเองกับมือภายในร้านแบบวันต่อวัน อีกทั้งภายในร้านยังให้บริการที่เหนือระดับ รวมไปถึงจุดจำหน่ายสำหรับซื้อกลับบ้านอีกด้วย


ทั้งนี้ นิกันติ์ ปรัชญาศิลปวุฒิ เจ้าของกิจการ Bake A Wish กล่าวว่า หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามเกินความคาดหมายในปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ “คาเฟ่ ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน” จะมาในคอนเซ็ปต์ภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่ 23 ตอน : ศึกชิงอัญมณีสีคราม (Detective Conan The Movie 23: The Fist of Blue Sapphire) ที่จะเปิดรอบฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 และจะเปิดให้บริการระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม -15 กันยายน 2562 นี้ โดยมี PARCO เป็นผู้พัฒนาคอนเซ็ปต์ และดำเนินการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ตามธีมยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน โดยลูกค้าจะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานที่มาในธีมยอดนักสืบจิ๋ว โดยมีอาหารจานหลัก 4 เมนู, ของหวาน 4 เมนู, เครื่องดื่ม 4 เมนู และเมนูเค้ก take away 4 เมนู ซึ่งเต็มไปด้วยความอร่อยอย่างเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบแบบไทย ๆ ผสมผสานกับวัฒนธรรมป๊อปอะนิเมะของญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นและทันสมัยเข้าด้วยกัน


ซึ่งก่อนหน้านี้ PARCO ได้นำร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ 7 ร้าน เข้ามา และพัฒนาร้านกาแฟป็อปอัพ 2 ร้านให้เป็นที่นิยม ซึ่งคือร้าน Pokemon Café และ Minion Café และในอนาคต Bake A Wish ยังมีแพลนที่จะนำคาแรคเตอร์ การ์ตูนอีกหลากหลายเรื่อง อาทิเช่น เซเลอร์มูน เข้ามาพัฒนาคอนเซ็ปต์ Pop Up Cafe ต่อไป