7 เมืองหลวงที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต จากความเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านท่องเที่ยว

ช่วงต้นปีแบบนี้ หลาย ๆ คนคงกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผ่อนคลาย ซึ่งแต่ละคนก็มักจะมีสไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน บางคนอาจชอบบรรยากาศของต้นไม้สีเขียวบนพื้นที่สูง ๆ ก็อาจจะขึ้นเขาไปกางเต็นท์ ชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น ในขณะที่บางคนก็อาจจะชอบบรรยากาศของความเย็นสบายของสายน้ำ ก็อาจจะไปเที่ยวทะเล, น้ำตก หรือนอนแพแบบชิล ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มคนที่ชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อซึมซับบรรยากาศและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งถ้าหากใครยังไม่มีแพลนในใจ วันนี้ Business+ ได้นำเอา 7 เมืองหลวงที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวยกให้เป็น ‘เมืองที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต’ อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ ‘CNBC’ ที่สัมภาษณ์ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวกว่า 50 คน ประกอบด้วย

 

1. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

หากจะพูดถึงเมืองแห่งความโรแมนติก ‘ปารีส’ คงเป็นชื่อแรก ๆ ที่ผู้คนต่างนึกถึง จนถูกขนานนามว่าเป็น ‘เมืองแห่งความรัก’ จึงทำให้ ‘ปารีส’ เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวในแต่ละปีเป็นจำนวนมากถึง 30 ล้านคน/ปี จนขึ้นแท่นเป็นเมืองหลวงที่มีผู้คนมาเยือนมากที่สุดในโลก ด้วยมนต์เสน่ห์ของสถานที่สำคัญที่โดดเด่นมากมาย อาทิ หอไอเฟล, ประตูชัยและอนุสาวรีย์แห่งชาติอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (Arc de Triomphe), พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum), มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Notre Dame Cathedral) เป็นต้น หรือหากเป็นสายช้อปปิ้ง การได้ไปเยือนที่แห่งนี้จะทำให้สามารถซื้อแบรนด์เนมจากประเทศต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็น Longchamp, Louis Vuitton, Chanel ได้ในราคาที่คุ้มค่า จึงไม่แปลกที่ ‘ปารีส’ จะถูกจัดให้เป็นเมืองหลวงที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ

 

2. กรุงโรม ประเทศอิตาลี

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ‘กรุงโรม’ ถือเป็นเมืองหลวงที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเมืองแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โคลอสเซียม ซึ่งเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม, น้ำพุเทรวี ที่เป็นน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม หรือวิหารแพนธีอัน ซึ่งเชื่อว่าเคยใช้เป็นเทวสถานสำหรับเทพต่าง ๆ ของโรมันโบราณ ต่างก็เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวมากมายให้ศึกษาและซึมซับกับวัฒนธรรมด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนี้ การได้ลิ้มลองอาหารอิตาเลียนจากต้นฉบับ ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า, พาสต้า หรือลาซานญา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย

 

3. นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

หากจะพูดถึงเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดและเจริญที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้น ‘นิวยอร์ก’ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, การเงิน วัฒนธรรม และความบันเทิงที่สำคัญที่สุดของโลก ดังนั้น การได้ไปเยือนสถานที่สำคัญต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ที่ใครได้ไปเยือน ‘นิวยอร์ก’ ต่างก็ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง หรือจะเป็น ไทม์สแควร์และถนนบรอดเวย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและความบันเทิงของประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การได้ไปถ่ายรูปกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่โดดเด่นซึ่งประดับอยู่บนตึกสูงระฟ้า ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปที่มาเยือนที่แห่งนี้ไปเสียแล้ว และสำหรับสายช้อปที่หลงใหลในสินค้าแบรนด์เนม ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้อสินค้าจากประเทศต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็น MICHAEL KORS, MARC JACOBS, RALPH LAUREN หรือ CALVIN KLEIN ซึ่งสามารถซื้อได้จากที่นี่ได้แบบครบครันเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่ ‘นิวยอร์ก’ จะถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงที่ควรไปให้ได้สักครั้ง

 

4. เคปทาวน์ แอฟริกาใต้

ข้ามมาที่ทวีปแอฟริกากันบ้าง ‘เคปทาวน์’ ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศแอฟริกาใต้ และถือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศดีตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติมากมาย ทั้งสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden), อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park), หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach) หรือ เกาะร็อบเบน (Robben Island) ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่น่าไปเยือนสักครั้ง

 

5. ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล

เมืองหลวงที่ถูกขนานนามกันว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นที่รู้จักในด้านการท่องเที่ยว โดยเมืองแห่งนี้โดดเด่นด้วยรูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่ ‘กริชตูเรเดงโตร์’ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ที่ความสูงราว 38 เมตร นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ เอสตาจีอูดูมารากานัง  หรือ สนามกีฬานักหนังสือพิมพ์มารีอู ฟิลยู หนึ่งในสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก, Tijuca National Park ป่าฝนซึ่งถือเป็นจุดชมวิวชื่อดัง ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเขียวขจีและอากาศบริสุทธิ์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้น

 

6. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เมืองหลวงที่ขึ้นชื่อทั้งในเรื่องแฟชั่นคอสเพลย์, เทคโนโลยีแห่งอนาคต และศาสนสถานมากมาย ซึ่งถือเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวมากมาย โดย ‘โตเกียว’ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โตเกียวสกายทรีที่มีความสูงถึง 2,080 ฟุต, วัดเซนโซจิอันเก่าแก่, สวนอุเอโนะ (Ueno Park), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum), พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) หรือ ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ก็นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อย

 

7. อิสตันบูล ประเทศตุรเคีย

เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย และทวีปยุโรป รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศตุรเคีย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางด้านศูนย์กลางการค้า โดย ‘อิสตันบูล’ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจัดว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกอีกด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองแห่งนี้ ประกอบไปด้วย ฮิปโปโดรม (Hippodrome) ซึ่งถือเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง และเป็นศูนย์กลางของทั้งศาสนา, การเมือง และการค้าต่าง ๆ ของ ‘อิสตันบูล’ ในสมัยของกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ ฮายาโซฟีอา, พระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahce Palace) ต่างก็เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งด้วยกันทั้งสิ้น

 

ที่มา : CNBC, dreambigtravelfarblog, วิกิพีเดีย, palanla, agoda

 

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ปารีส #กรุงโรม #นครนิวยอร์ก #เคปทาวน์ #ริโอเดอจาเนโร #ตเกียว #สถานที่ท่องเที่ยว #เมืองหลวง #เมืองหลวงที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต