ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ มองเห็นวิกฤตและสร้างให้เป็นโอกาส

“พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานต่อลูกค้า และทนต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ในยามที่เกิดวิกฤต หาโอกาสวิกฤตนั้นให้เจอ และสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ส่งมอบแก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว”

 

ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ เป็นผู้บริหารที่สามารถมองหาโอกาสจากวิกฤต และรีบคว้าโอกาสที่เข้ามาได้อย่างรวดเร็วจนทำให้เครือ บางกอก เชน ฮอสปิทอล เติบโตอย่างโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวตามเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นโรงพยาบาลที่แข็งแกร่งทั้งระบบภายใน และก้าวทันเทคโนโลยีการแพทย์ตลอดเวลา

 

ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จสู่รางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023 ว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิด COVID-19 ซึ่งในมุมของผู้บริหารโรงพยาบาลแล้ว มองว่าเป็นทั้งวิกฤตและโอกาส เพราะเราได้ทำให้วิกฤตเหล่านี้กลายเป็นโอกาส เพราะในช่วงดังกล่าวมีความต้องการการรักษา และบริการด้านสุขภาพสูงจึงต้องเร่งขยายเตียงผู้ป่วย ขณะที่ยังร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจโรงแรมเพื่อเปิดให้ผู้ป่วยรักษาตัวใน Hospitel นอกจากนี้ยังมองหาโอกาสเพื่อนำเข้าวัคซีนทางเลือกเข้ามาเสริม จึงทำให้ผลประกอบการปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

“ช่วงที่เกิดวิกฤตคนมีความต้องการด้านสุขภาพมากขึ้น หากเราไม่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ก็จะไม่มีทางขยายธุรกิจให้เติบโตได้ โดยช่วง COVID-19 เรารับการรักษาคนไข้กว่า 2 ล้านคน เท่ากับเราทำงานมา 5 ปี อันนี้คือ การมองให้เห็นวิกฤตแล้วรีบคว้าโอกาส” ศ.ดร.นพ.เฉลิม กล่าว

นอกจากนี้จุดแข็งของ บางกอก เชน ฮอสปิทอล คือ การมีโรงพยาบาลในเครือที่ให้บริการลูกค้าครบทุก Market Segment ทั้งลูกค้าระดับบน ลูกค้าต่างชาติ และลูกค้าที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งในแต่ละ Segment  ทางบางกอก เชน ฮอสปิทอล เข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าและให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้นโยบายเดียวในการบริหาร

 

โดยกลุ่มลูกค้าระดับบนและต่างชาติ ที่บางกอก เชน ฮอสปิทอล กำลังมุ่งเน้นคือ กลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบียที่รัฐบาลเพิ่งเปิดตลาดใหม่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าจากประเทศจีนที่ส่วนใหญ่เข้ามาใช้บริการด้าน Anti-Aging ขณะที่กลุ่มผู้ประกันตนเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ยังเป็นผู้ให้บริการที่มีผู้ประกันมากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

 

สำหรับแผนการในอนาคต ศ.ดร.นพ.เฉลิม กล่าวว่าภายใน 5 ปี บางกอก เชน ฮอสปิทอล จะมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 20 โรงพยาบาลจากปัจจุบัน 15 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการขยายกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

“เราทำการตลาดให้ครบเป็นพีระมิดทั้งลูกค้าระดับบน ลูกค้าต่างชาติ ลูกค้าประกันตน และยังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากลูกค้าที่เป็น Private insurance และลูกค้าเงินสด 65% ขณะที่อีก 35% เป็นผู้ประกันตน” ศ.ดร.นพ.เฉลิม กล่าว

 

ขณะที่จุดแข็งที่ทำให้เครือบางกอก เชน ฮอสปิทอล ได้รับความนิยมในส่วนของลูกค้าประกันสังคมเกิดจากการมีศูนย์เฉพาะทาง อย่างเช่น ศูนย์ผ่าตัดหัวใจ ซึ่งทำให้สามารถส่งตัวลูกค้าที่มาใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที คนไข้ไม่ลำบากในการเดินทาง ซึ่งในอนาคตก็จะยังมุ่งเน้นในลูกค้าผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าเป็นรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

 

 

ข้อคิดบริหารธุรกิจฉบับ ‘ศ.ดร.นพ.เฉลิม’

ทั้งนี้ ศ.ดร.นพ.เฉลิม ใช้หลักการบริหารโดยเน้นที่คุณภาพในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ เพราะโรงพยาบาลเปรียบเสมือนโรงงานซ่อมมนุษย์ที่ต้องให้การรักษาที่ดีที่สุด ขณะที่ต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานของการแพทย์และพยาบาล นอกจากนี้ต้องมี Service Quality ที่ต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยปัจจุบันโรงพยาบาลจะมีการพัฒนาให้คล้ายกับการให้บริการในโรงแรม หรือที่พักอาศัยเพราะฉะนั้น โรงพยาบาลจะต้องมีความเป็น Modern Trade มีความสะอาด และมีระบบภายในที่รวดเร็วคล่องตัว

 

โดยกลุ่มของบางกอก เชน ฮอสปิทอล ได้ใช้การพัฒนาด้วยการอัปเกรดจากหลักการบริหาร 7P นั่นคือ Product Price Place Promotion Physical Process และ People เพราะฉะนั้นก่อนจะขยายธุรกิจ ต้องทำการตรวจสอบให้ครบทั้ง 7P และอีกสิ่งที่ต้องพัฒนาตนเองคือ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยเทคโนโลยีในการวินิจฉัย และการรักษาทางการแพทย์จะถูกพัฒนาอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นต้องเท่าทันเทคโนโลยีทางการแพทย์และเครื่องมือวินิจฉัยที่เปลี่ยนไป และนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุง มาพัฒนา และต้องเสริมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้วยการ Up Skill บุคลากร

 

โดย ศ.ดร.นพ.เฉลิม ให้ความสำคัญกับการเพิ่มทักษะบุคลากรเป็นอย่างมากอย่างด้วยโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุคลากรเพื่อเพิ่มเลเวลให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศในการทำงานให้ดี ทั้งการให้อัตราค่าตอบแทนที่สามารถเปรียบเทียบกับผู้นำในตลาดได้ และวัดผลงานด้วย KPI ซึ่งจะออกมาเป็น Incentive อย่างเช่น โบนัส

 

ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์การบริหารของ ศ.ดร.นพ.เฉลิม ที่ให้ความสำคัญทั้งในแง่ของเทคโนโลยีทางการแพทย์ บุคลากร และความยืนหยุ่นของแผนธุรกิจจนนำมาสู่ความสำเร็จที่วัดผลได้

 

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #thebusinessplus #BCH #บางกอกเชนฮอสปิทอล