เอพี ไทยแลนด์ ปี 65 เผยยอดขายทะลุ 63,600 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

เอพี ไทยแลนด์ สร้างผลงานการดำเนินปี 2565 สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท 51 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 63,600 ล้านบาท ยอดขายสุทธิที่ทำได้เกิน จากเป้าที่ตั้งไว้ ที่ 50,415 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 44% รวมถึงยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมวางเป้าหมายปี 2566 เติบโตผ่าน 3 มิติ ธุรกิจ – สังคม – การต่อยอดโอกาสใหม่

 

จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ถือว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดี หลายธุรกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ถึงแม้จะยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบต่าง ๆ ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เอง ในปีที่ผ่านมากราฟเริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้น สะท้อนได้ถึงภาพตลาดที่เริ่มฟื้นตัวคืนกลับมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จึงน่าจะสดใสและขับเคลื่อนต่อไปได้

 

ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการ BREAKTHROUGH ทุกข้อจำกัด เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานขึ้น New High Record และยังก้าวข้ามในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านจำนวนการเปิดตัว โครงการใหม่ที่มากถึง 51 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 63,600 ล้านบาท ยอดขายสุทธิที่ทำได้เกิน จากเป้าที่ตั้งไว้ ที่ 50,415 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 44% รวมถึงยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และความพร้อมที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการองค์กรภายในที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

ส่วนในปี 2023 นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ปีนี้ เอพี ไทยแลนด์ มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แผน 2023 AP INCLUSIVE GROWTH ที่สุดของปีกับการเติบโตร่วมกัน ด้วยแผนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการขยายภาคธุรกิจ โดยใช้ความชำนาญที่มีในการสร้างโอกาสและข้อได้เปรียบในหลากหลายมิติ ภายใต้ปรัชญาที่ต้องการส่งมอบชีวิตดี ๆ ที่ทุกคนเลือกเองได้ โดยจะดำเนินงานผ่าน 3 มิติดังต่อไปนี้

 

  1. DIVE DEEPER IN PROPERTY BUSINESS ทำงานแบบเจาะลึก เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อครองความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยว และกลุ่มธุรกิจพัฒนาทาวน์โฮม โดยปีนี้บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าการทำงานที่ท้าทายตัวเองมากยิ่งขึ้น ด้วยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาด จำนวน 58 โครงการ มูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท

 

  1. HATCH NEW BUSINESS ต่อยอดความชำนาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการค้นหาช่องว่างตลาดใหม่ โดยจะนำทรัพยากรที่บริษัทฯ มี ไปส่งเสริมให้นักคิด นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ใช้ต่อยอดสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ๆ ที่สามารถนำกลับมาสนับสนุนธุรกิจในระยะยาวแบบองค์รวม ทั้งในมิติธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบใหม่ ๆ หรือเพื่อเสริมธุรกิจอื่น ๆ ในเครืออย่าง สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเมนท์ (SMART) หรือ บางกอก ซิตี้สมาร์ท (BC) พร็อพเพอร์ตี้โบรกเกอร์แบบครบวงจร เป็นต้น

 

  1. PEOPLE & SOCIAL ร่วมขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตไปร่วมกัน ด้วยการสานต่อความตั้งใจที่จะเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพ คน ด้วยการมอบทักษะแห่งอนาคตแก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในเครือ นิสิต นักศึกษา หรือบัณฑิตผู้พิการ เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ

ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเอพี มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น มียอดขายโตขึ้นกว่า 30% และโตกว่า 90% หากเทียบกับปี 2562 สำหรับในปีนี้กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม ตั้งเป้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเอพีเตรียมเปิดตัวทาวน์โฮมใหม่จำนวน 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท ครอบคลุมครบทั้ง 6 Sub-Brand ตั้งแต่ระดับราคา 1.69 – 25 ล้านบาท โดยไฮไลต์สำคัญคือ การขยายพอร์ตสินค้าในกลุ่มบ้านแฝดมากยิ่งขึ้น

มาต่อที่ กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวก็ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น  ทั้งในมิติด้านมูลค่าโครงการและจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยในปีนี้เตรียมเปิดบ้านเดี่ยวใหม่ จำนวน 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท โดยไฮไลต์สำคัญคือ การรุกเข้ากินแชร์ตลาดบนใน 2 เซกเมนต์ คือ บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ราคา 20 – 50 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ราคา 50 – 100 ล้านบาท

 

ส่วนกลุ่มคอนโดมิเนียมในปี 2566 น่าจะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะใกล้เคียงกับปีก่อนวิกฤต COVID-19 ซึ่งหากดูจากยอดขายคอนโดมิเนียมเครือเอพีในปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า หรือคิดเป็น 11,440 ล้านบาท โดยในปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม เตรียมเปิดตัว 4 คอนโดมิเนียมใหม่ มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท

เพื่อต่อยอดความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ปี 2566 นี้ เอพี ไทยแลนด์มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 58 โครงการ มูลค่าประมาณ 77,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท ทาวน์โฮม 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 11,800 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 57,500 ล้านบาท

ที่มา : เอพี ไทยแลนด์
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS