ก.ล.ต.สหรัฐฯ ลงดาบครั้งใหญ่! สั่งปรับ 16 บริษัท มูลค่ารวม 1.8 พันล้านดอล ฐานซื้อขาย-เจรจาลูกค้านอกแพลตฟอร์มหลัก

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ‘ก.ล.ต.’ มักจะออกมาเคลื่อนไหวเวลาที่มีการกระทำที่ผิดต่อกฎระเบียบที่วางไว้เพื่อกำกับและดูแลบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งหลาย โดยมักจะมีการลงโทษตามความผิดนั้น ๆ อยู่เสมอ และโดยทั่วไป เรามักจะได้เห็น ‘ก.ล.ต.’ ลงโทษบริษัทจำนวนไม่มาก ซึ่งต่างจากเรื่องราวที่ทาง Business+ ได้นำมาอัพเดทในวันนี้
กรณีนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ ‘ก.ล.ต.’ สหรัฐฯ ได้ลงโทษบริษัทจดทะเบียนเป็นจำนวนมากถึง 16 บริษัทในเวลาเดียวกัน ด้วยการกระทำความผิดลักษณะเดียวกัน โดยมีการสั่งปรับบริษัทเหล่านี้เป็นมูลค่ารวมกันถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย ‘ก.ล.ต.’ สหรัฐฯ ได้เปิดเผยถึงการสอบสวนบริษัทการเงินจำนวน 16 แห่ง ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงินชื่อดังอย่าง Barclays, Bank of America, Citigroup, Credit Suisse, Goldman Sachs, Morgan Stanley และ UBS ในความผิดฐานพนักงานพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงและทำการซื้อขายกับลูกค้าผ่านอุปกรณ์และช่องทางสนทนาส่วนตัว ซึ่งอยู่นอกแพลตฟอร์มหลักตามที่รัฐบาลกลางกำหนด โดยมีมูลค่ารวมกันถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์
สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ที่ยอมรับการกระทำผิดและตกลงที่จะจ่ายค่าปรับให้กับ ‘ก.ล.ต.’ ได้แก่ Bank of America, Barclays, Citigroup, Goldman Sachs และ Morgan Stanley โดยแต่ละรายจะจ่ายเงิน 125 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงาน ‘ก.ล.ต’
โดยประเด็นนี้ มีความคล้ายกับกรณีของ JPMorgan Chase ที่ได้ถูก ‘ก.ล.ต.’ สั่งปรับเป็นจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ ในฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นสำนักงาน ‘ก.ล.ต.’ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความล้มเหลวของธนาคารในการสั่งห้ามพนักงานใช้โทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการสอบสวนและติดตามกิจกรรมของธนาคาร และนำมาซึ่งข้อสังเกตว่าอาจมีกรณีที่คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นกับธนาคารอื่นด้วยเช่นกัน
ด้าน ‘Gary Gensler’ ประธาน ‘ก.ล.ต.’ กล่าวในถ้อยแถลงว่า เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการสื่อสารเกี่ยวกับธุรกิจอย่างเหมาะสมภายในช่องทางทางการเท่านั้น และจะต้องรักษาและคงไว้ซึ่งการสื่อสารเหล่านั้น
โดยจากการสอบสวนของ ‘ก.ล.ต.’ พบว่าตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2564 พนักงานธนาคารมักใช้แอปพลิเคชัน ‘WhatsApp’ และบริการส่งข้อความอื่น ๆ เพื่อสนทนากับลูกค้า แทนที่จะใช้อีเมลที่ทำงานหรือรูปแบบการสื่อสารที่เป็นทางการอื่น ๆ ที่ได้มีการกำหนดไว้เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานสำหรับธนาคารในการรักษาการสื่อสาร อย่างเช่นอีเมลอย่างเป็นทางการ
นอกจานี้ ‘ก.ล.ต.’ ยังพบว่าในรายของ ‘Goldman Sachs’ ตรวจพบกรรมการผู้จัดการและพนักงานหลายสิบคนที่รับผิดชอบในการดูแลพนักงานรุ่นเยาว์ที่มักใช้บริการส่งข้อความที่อยู่นอกช่องทางหลักผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวเป็นประจำ
โดย ‘ก.ล.ต.’ กล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ ได้ตกลงที่จะนำที่ปรึกษาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบมาทบทวนนโยบายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ที่พบในอุปกรณ์ส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ‘ก.ล.ต.’ สหรัฐฯ ได้มีการสั่งปรับครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายสำหรับการกระทำดังกล่าวเพียง 15 ล้านดอลลาร์ ในรายของ ‘Morgan Stanley’ เมื่อปี 2549 เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานจากอีเมลในระหว่างการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีการเสนอขายต่อสาธารณะครั้งแรกและการวิจัยที่จัดทำโดยนักวิเคราะห์
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ที่มา : The New York Times
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ก.ล.ต. #ก.ล.ต.สหรัฐ #BankofAmerica