3 เหตุผลที่ควรครอบครอง All New Honda BR-V

มีการแนะนำ All New Honda BR-V ไปไม่นาน พร้อมมีคำถามตามมา โดยเฉพาะประเด็นราคาจำหน่าย แต่ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ฮอนด้า จะทราบถึงความคุ้มค่า ทีนี้ มาลองดู 3 เหตุผลว่าควรครอบครอง All New Honda BR-V หรือไม่?

 

จัดเต็มสำหรับทุกรุ่นย่อย ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) หลังบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดจำหน่าย All New Honda BR-V อย่างเป็นทางการ และนั่นคือ เหตุผลข้อแรกที่ผมมองว่า ฮอนด้า สร้างมาตรฐานใหม่ยนตรกรรมของตนเองให้ควรค่าต่อการครอบครอง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจประสบการณ์ของการขับขี่ อาทิ

 

ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ถุงลม 6 ตำแหน่ง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)

 

พร้อมทั้งผสานความสปอร์ตพรีเมียม ดีไซน์แข็งแกร่งสไตล์เอสยูวี และความอเนกประสงค์ ห้องโดยสารกว้างขวางและคล่องตัวแบบรถเอ็มพีวี อีกทั้งครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย โดยฮอนด้า เชื่อมั่นว่า  All New Honda BR-V  จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปรถเอสยูวีของฮอนด้าไปอีกขั้น

 

เหตุผลข้อที่ 2 All New Honda BR-V คือ ฮอนด้าต้องการขับเคลื่อนตลาดในกลุ่มรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าไปอีกขั้น ด้วยการผสานจุดเด่นทั้งดีไซน์สปอร์ตแข็งแกร่งสไตล์เอสยูวี พร้อมด้วยความอเนกประสงค์กว้างขวางคล่องตัวสไตล์รถเอ็มพีวี สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน

 

All New Honda BR-V เจเนอเรชันที่ 2 จึงได้รับการพัฒนาเพื่อมอบคุณค่าที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในคลาสเดียวกัน

 

ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า และระบบเกียร์ CVT พร้อมสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับในทุกด้าน ทั้งสมดุลในการขับขี่ ระบบช่วงล่างและการควบคุมรถ จึงมั่นใจทุกการเดินทางได้เป็นอย่างดี

 

และเหตุผลข้อที่ 3 คือ All New Honda BR-V มันคือยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่ง

 

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง เสริมความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Piano Black และเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลายรูปแบบ

 

ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่เชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถให้เป็นหนึ่งเดียว อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

 

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต (Remote Engine Start)

 

All New Honda BR-V มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือรุ่น E ราคาเริ่มต้น 915,000 บาท และรุ่น EL ราคาเริ่มต้น 973,000 บาท ซึ่งผมมองว่า เหตุผลทั้ง 3 ข้อมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญไปสู่ความสมบูรณ์แบบใหม่

 

ส่วนใครที่บอกว่า “ราคาแพง” คุณต้องตอบคำถามนั้นเองว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปไหม หรือคุณเปรียบเทียบความคุ้มค่านั้นกับอะไร…?

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/?hl=en
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Honda #AllNewHondaBRV