Amazon

Amazon มีมูลค่ากิจการเบียดแซงหน้า Alphabet ขึ้นเป็นอันดับ 2

Amazon อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลก ที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ Amazonไม่ได้ทำเพียงแค่ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ ยังมีธุรกิจให้บริการ Cloud คือ AWS ที่เป็นผู้นำในตลาดซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกมากกว่า 35% ทำให้ Amazon มีมูลค่าตามราคาตลาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก แทนที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ได้สำเร็จ

หุ้น Google ตกเพราะข่าว Facebook

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Facebook ทำข้อมูลผู้ใช้งานหลุดกว่า 50 ล้านราย ทำให้นักลงทุน เกิดความกังวลและกลัวว่า Google บริษัทลูกของ Alphabet ที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และทำธุรกิจคล้ายกับ Facebook จะเกิดเหตุการณ์คล้ายๆกัน จนทำให้ราคาหุ้นของ Alphabet ตก 0.39% ทำให้มูลค่ากิจการอยู่ที่ 7.62 แสนล้านดอลลาร์

ตรงข้ามกับหุ้นของ Amazon ที่พุ่งขึ้น 2.69% มาอยู่ที่ 1,586.51 ทำให้มูลค่ากิจการสูงถึง 7.68 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมูลค่ากิจการตามหลัง Apple อยู่เพียงแค่ 1.21 แสนล้านดอลลาร์ ขณะนี้ Apple มีมูลค่ากิจกรา อยู่ที่ 8.89 แสนล้านดอลลาร์

ถ้า Amazon เติบโตเหมือนปีที่ผ่านมาก็จะแซงหน้า Apple

หาก Amazon ต้องการมีมูลค่ากิจการเป็นอันดับ 1 แซงหน้า Apple นั่นราคาหุ้นของ Amazon ต้องเติบโตแบบปีที่ผ่านมา จะช่วยให้ Amazon มีมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเดือนสิงหาคม

และถ้าราคาหุ้นของ Apple ยังเติบโตในอัตราเดิมเท่ากับปีที่แล้วที่ 25% จะทำให้มูลค่ากิจการของ Apple แตะที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ช้ากว่า Amazon ประมาณ 1 เดือน

Jeff Bezos อาจจะกลายเป็นผู้ร่ำรวยที่สุด 2 ปีซ้อน 

หลังจากที่ Amazon ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด เช่นเดียวกับ Facebook, Google และ Apple ส่งผลให้ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Amazon  กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเมื่อปี 2017 เนื่องจากมูลค่าหุ้นของ Amazon พุ่งสูงขึ้นกว่า 15 เหรียญสหรัฐ ทำให้แซงหน้า Bill Gates ที่ครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีซ้อนได้ และในปีนี้ Jeff Bezos ก็จะกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกปี

แนวคิดความสำเร็จของ Jeff Bezos 

Jeff Bezos  เชื่อว่าถ้าทุกคนเต็มที่และโฟกัสกับการทำงานเหมือนวันแรก บนพื้นฐานแนวคิดแบบ Day 1 thinking เพราะทุกๆ วันที่คุณเข้ามาทำงาน มันมีสิ่งใหม่ๆ ให้ทดลอง เปลี่ยนแปลง และสร้างสรรค์อยู่เสมอ ไม่มีทางที่คุณจะได้ทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแต่ละวัน

เข้าใจควาต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด 

การปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้ยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางคือกุญแจสำคัญของการสร้างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ตรงใจกับลูกค้าอย่างแท้จริง เหมือนกับร้านค้าอัจฉริยะ Amazon Go ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจปัญหาของลูกค้าที่ต้องยืนต่อคิวรอชำระเงินนานๆ ตามร้านหรือห้างสรรพสินค้า เขาจึงออกแบบร้านค้าที่ลูกค้าเดินเข้าไปหยิบของและจ่ายเงินผ่านแอปฯ อัตโนมัติได้เลยโดยไม่ต้องมีเคาน์เตอร์ชำระเงิน

“การออกแบบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้า เราต้องใช้หัวใจ สัญชาตญาณ ความสงสัยใคร่รู้ ขี้เล่นบ้าง มีกึ๋นและรสนิยม ซึ่งคุณจะไม่พบสิ่งเหล่านี้จากผลสำรวจแบบสอบถามเลย”

ตัดสินใจให้เร็วและมองให้ไกล 

Jeff Bezos ย้ำว่าหลายบริษัทที่ล้มเหลวนั่นไม่ใช่เพราะตัดสินใจพลาด แต่พวกเขาตัดสินช้าไป Jeff Bezos เชื่อว่าการตัดสินใจเร็วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนุก ท้าทายมากขึ้น และอย่าใช้การตัดสินใจแบบเดียวกันกับทุกๆ เรื่อง  เพราะในบางครั้ง ถ้าเรามัวแต่รอให้มีข้อมูลในมือครบ 90% มันอาจจะสายไปก็ได้

นอกจากการตัดสินใจที่รวดเร็วแล้ว Jeff Bezos ยังเป็นผู้บริหารที่มองการไกล และเข้าใจว่าตลาดเทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างไร  ดังนั้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรงจึงสำคัญ

จึงไม่แปลกที่ Amazon จะไต่อันดับขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปีนี้

ถ้า  Apple  และ  Alphabet  ไม่อยากเสียความเป็นผู้นำตลาดเทคโนโลยีให้กับ Amazon คงต้องหาแนวคิดเเละวิธีการมาสู้อย่างจริงจัง

ที่มา blog.xtrade,moneycontrol,newindianexpressreuters