เพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงและความปลอดภัย ในการใช้การ Cloud ด้วยบริการ AIS Sovereign Cloud

ทุกวันนี้เกือบทุกองค์กรได้หันมาใช้เทคโนโลยีพื้นฐานอย่าง Cloud ที่มีผู้ให้บริการ Cloud Data Center หลายแห่งทั่วโลก ทำให้ทุกองค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างง่ายดาย และทำให้ผู้คนในองค์กรสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างเสถียร พร้อมเชื่อมต่อกันได้ทั่วโลก

ในทางกลับกันเมื่อมีการใช้งานข้อมูลผ่านทาง Cloud มากขึ้น ความกังวลของผู้ใช้งานเกี่ยวกับการอธิปไตยของข้อมูลก็เพิ่มมากขึ้น เช่น ข้อมูลถูกเก็บไว้ที่ไหน ข้อมูลถูกส่งต่อไปที่ไหน และใครที่มีอำนาจในการควบคุมข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ การอธิปไตยของข้อมูลบน Cloud ก็ถูกพัฒนาให้มีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้นไปอีกขั้นกับ Sovereign  Cloud ที่มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพสูงสำหรับประเทศหนึ่งๆและอยู่ภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมายของประเทศนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งจะเปรียบเสมือนตัวช่วยที่จะทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถดูแลข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสำหรับในประเทศไทยเองก็มี Sovereign Cloud ที่เพิ่งเปิดตัวจาก AIS Business อย่างเป็นทางการ และให้บริการในชื่อ ‘AIS Sovereign Cloud’ โดยมุ่งหวังสนับสนุนกลุ่มลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ หากมองถึงประโยชน์ หลัก ๆ ของ Sovereign Cloud จะพบว่าสามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ จัดการ Workload ที่มีความละเอียดอ่อนและสอดรับกับกฎระเบียบของการใช้งานคลาวด์ในระดับประเทศที่ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนด ที่สอดคล้องกับข้อบังคับของประเทศต่อนั้น ๆ รวมไปถึงการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลภายใต้อำนาจอธิปไตยของข้อมูลในระดับประเทศอีกด้วย

ที่น่าสนใจคือเพื่อพัฒนาระบบการเก็บข้อมูล ทาง Sovereign Cloud ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานโซลูชันจากวีเอ็มแวร์ จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มั่นใจได้ว่าข้อมูลได้รับการปกป้อง เป็นไปตามข้อกำหนด และอยู่ในภายใต้อาณาเขตของประเทศได้ดีขึ้น ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1.Data Sovereignty and jurisdictional control

อำนาจอธิปไตยข้อมูลและการควบคุมข้อมูล : ข้อมูลทั้งหมดมีการจัดเก็บ อยู่ภายใต้การควบคุมและอำนาจของประเทศไทยแต่เพียงแห่งเดียว ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ โดยมีการดำเนินงานที่ได้รับการจัดการอย่างเต็มที่ภายในประเทศ

2.Data Access & Integrity

การเข้าถึงข้อมูลและความสมบูรณ์ของข้อมูล : โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์มีความยืดหยุ่นและพร้อมใช้งานในศูนย์ข้อมูลอย่างน้อยสองแห่งในประเทศไทย พร้อมตัวเลือกการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

3.Data Security & Compliance

การรักษาความปลอดภัยข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อมูล : การควบคุมระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมและได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

4.Data Independence & Mobility

ความเป็นอิสระและความคล่องตัวของข้อมูล : ความยืดหยุ่นของสถาปัตยกรรม Multi-cloud ช่วยให้เคลื่อนย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันได้ง่าย ป้องกันปัญหาติดสัญญา (lock-in) กับผู้ให้บริการระบบคลาวด์

5.Data Innovation & Analytics

นวัตกรรมข้อมูลและการวิเคราะห์ : นำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อเพิ่มมูลค่า ช่วยให้องค์กรสามารถนำสิ่งที่มีไปต่อยอดความสำเร็จของธุรกิจ

คุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS Business เผยว่า “การเสนอบริการ Sovereign Cloud ร่วมกับ VMware ครั้งนี้ สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันในฐานะพันธมิตรที่เข้มแข็ง เพื่อพัฒนาบริการนี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากระบบคลาวด์ ตลอดจนปลดล็อกการใช้งานข้อมูลให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศ”

โดยทาง AIS Sovereign Cloud ได้รับการออกแบบตามคุณสมบัติที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานโซลูชันจากวีเอ็มแวร์เพื่อรองรับลูกค้าโดยมุ่งเน้นความมั่นคง ปลอดภัยของการข้อมูลเป็นสำคัญ และสร้างความมั่นใจว่า ข้อมูลทั้งหมดรวมถึงเมตาดาต้าจะถูกจัดเก็บ และปกป้องโดยอ้างอิงกฎ และข้อกำหนดตามกฎหมายของประเทศไทย โดยจะไม่ถูกควบคุมและแทรกแซงจากต่างประเทศ

และเพื่อสร้างบริการคลาวด์ที่มีความเสถียร เพียบพร้อมด้วยศักยภาพเรื่องการปกป้องความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูล ทาง AIS Business ได้เตรียมความพร้อมให้บริการแก่หน่วยงานที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดจากหน่วยงานเฉพาะอย่างภาครัฐและแวดวงการเงินและการธนาคาร โดยทาง AIS Business เองได้มีการปูพื้นฐานการใช้งานให้หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งโดยย้ายบริการอีเมลของเจ้าหน้าที่กว่าร้อยคนจากแบบ On-premises ไปยัง Sovereign Cloud ซึ่งช่วยให้หน่วยงานดังกล่าวปรับขนาดการดำเนินงานได้ง่ายดาย พร้อมกับรักษาอีเมลที่เป็นความลับสูงให้ปลอดภัย นอกจากนี้ยังสร้างความอุ่นใจด้วยการสำรองข้อมูลสำคัญทั้งหมดไว้บนระบบ Sovereign Cloud ได้อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน

“Sovereign Cloud ของเราจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลระดับประเทศได้อย่างเต็มที่” และคุณธนพงษ์กล่าวทิ้งท้าย “ภายใต้ความร่วมมือกับ VMware เราจะเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศของเราสร้างสรรค์นวัตกรรมได้มากขึ้นและเร็วขึ้น เพื่อให้เราก้าวสู่การเป็น Cloud-Smart ได้อย่างแท้จริง”

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เราคงจะเห็นได้แล้วว่าเทคโนโลยีพื้นฐานอย่าง cloud ที่หลาย ๆ องค์กรกำลังใช้งาน สามารถพัฒนาไปได้อีกขั้นด้วยการหยิบ Sovereign Cloud มาใช้เพื่อพัฒนาองค์กรให้มีความมั่นคง และอยู่ในขอบเขตมากขึ้น พร้อมทั้งเอื้อต่อการเชื่อมต่อที่เสเถียรไม่มีสะดุด รักษาข้อมูลขององค์กรให้ปลอดภัยได้

ในปัจจุบัน AIS Business มีบริการ AIS Cloud X นิเวศคลาวด์อัจฉริยะ ที่ผนวกด้วยบริการ Sovereign Cloud โดย AIS Business ได้รับ Verified Sovereign Cloud รายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้ให้บริการระดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี นอกจากนี้ AIS Business ยังมีบริการต่อยอดอีกมากมาย เพื่อการผสานความสามารถระหว่าง Cloud, Edge Computing และ 5G รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้การใช้งาน Cloud ของธุรกิจองค์กรไทยนั้น สามารถก้าวสู่ภาพของ Intelligent Cloud ที่มีทั้งความชาญฉลาด, ความยืดหยุ่น, การรองรับการใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีทั้งความปลอดภัยของข้อมูลในหนึ่งเดียว

หากท่านใดมีความสนใจใช้งาน Sovereign Cloud และบริการ Cloud ครบวงจรติดต่อทีมงาน AIS Business ได้ทันที

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่ :

Email : business@ais.co.th

Website : https://business.ais.co.th

โดยทุกท่านสามารถทำความรู้จัก AIS Sovereign Cloud มากขึ้นได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=q8lK3SlCNqs&t=2s

AIS Business พาร์ทเนอร์ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกเรื่อง ICT & Digital ที่คุณมั่นใจ

“Your Trusted Smart Digital Partner”

 

เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก

ที่มา : AIS Business

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #SovereignCloud #Cloud #AISBusiness