SMEBANK

‘เอสเอ็มอี แบงก์’ ครึ่งปีแรกกำไร-NPL ตามเป้า
เปิดแผนปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปี 7 หมื่นลบ.

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอี แบงก์  ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานธนาคาร ในครึ่งแรกปี 2566  (มกราคม-มิถุนายน 2566) มีกำไรสุทธิสะสมราว 309 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับัตวเพิ่มขึ้น 92 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ NPL ล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ 10.51%

โดย น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอี แบงก์ เปิดเผยผลการดำเนินงานธนาคาร ในครึ่งแรกปี 2566 ที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2566) ว่า ผลการดำเนินงานของ SME D Bank ในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 มีกำไรสุทธิสะสมประมาณ 309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2565)

ขณะที่ หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับตัวลดลง 20.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธนาคารมีการบริหารจัดการเอ็นพีแอล อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ควบคู่บริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) สม่ำเสมอ ส่งผลให้ปัจจุบัน เหลือ NPL ในระบบเพียงประมาณ 10.51% และสิ้นปีนี้ คาดเหลือไม่เกิน 9.50% ตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนั้น ธนาคารมีแนวทางบริหารจัดการและช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นรายอ่อนแอที่น่ากังวลจริงๆ ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้ ผ่านกระบวนการส่ง “ทีมพิเศษ” ประกอบด้วยทีมพัฒนาผู้ประกอบการและทีมพัฒนาคุณภาพสินเชื่อเข้าประกบติดตามดูแลลูกค้ารายอ่อนแอทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำพร้อมช่วยเหลืออย่างยั่งยืนตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่น วินิจฉัยปัญหาธุรกิจ ประเมินศักยภาพกิจการ ให้รู้ถึงปัญหาที่แท้จริง พร้อมพาเข้าสู่กระบวนการเติมองค์ความรู้ในด้านที่กิจการยังขาด ควบคู่ช่วยเพิ่มช่องทางขยายตลาด สร้างรายได้เพิ่มให้ลูกค้า ลดความเสี่ยงการเป็นเอ็นพีแอลในอนาคต

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกถือว่า เอสเอ็มอี แบงก์ สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงกระบวนการ “เติมทุนคู่พัฒนา” เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้านเติมทุนพาเข้าถึงแหล่งเงินทุนรวมมากกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท สร้างประโยชน์ช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 1.47 แสนล้านบาท รักษาการจ้างงานกว่า 3.4 หมื่นราย ทั้งนี้ การสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าว จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท เป็นการพาเข้าถึงสินเชื่อบีซีจี ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ส่วนด้านพัฒนา เอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มศักยภาพส่งเสริมผู้ประกอบการเติบโตตามแนวทาง อีเอสจี ผ่านโครงการต่างๆ เช่น จับคู่ธุรกิจ เพิ่มช่องทางตลาด เวิร์กช็อป (Workshop) ในหัวข้อที่จำเป็นและอยู่ในความสนใจของผู้ประกอบการ เช่น ทำตลาดออนไลน์ ระบบบัญชี มาตรฐานการผลิต เป็นต้น มีผู้ประกอบการเข้าร่วมและได้รับประโยชน์กว่า 7,650 ราย

ขณะที่ เป้าหมายปี 2566 จะผลักดันผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนกว่า 7 หมื่นล้านบาท คาดจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 3.20 แสนล้านบาท รักษาการจ้างงานได้ประมาณ 8.89 หมื่นราย ควบคู่กับให้บริการพัฒนา ผ่านโครงการ เอสเอ็มอี ดี โค้ช ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยยกระดับเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ประกอบการกว่า 1.5 หมื่นราย