5 มือถือพับได้ กับ ‘Nostalgia Marketing’ กลยุทธ์การตลาดที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก แต่เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 มือถือฝาพับเครื่องแรกได้ถือกำเนิดขึ้น ค่ายมือถืออย่าง MOTOROLA  ได้ส่ง MOTOROLA STARTAC ออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก โดยราคาสูงถึง 1,400 ปอนด์หรือประมาณ 56,590 บาทในสมัยนั้น และมือถือแบบฝาพับก็ได้รับความนิยมอยู่ในช่วงปี 2000 – 2010 โดยที่ MOTOROLA ก็ยังทำมือถือพับได้ออกมาสม่ำเสมอ และมีแบรนด์อื่น ๆ เช่น NOKIA, Samsung, LG ได้ออกแบบมือถือฝาพับออกสู่ตลาดเช่นกัน อาทิ Nokia 7200, Samsung t100, LG Lollipop ซึ่งถือเป็นตัวแทนเทรนด์แฟชั่นในยุคนั้นที่มีสไตล์เฉพาะตัว

 

แต่หลังจากปี 2010 กระแสของมือถือฝาพับก็แผ่วลง หลังจากมีสมาร์ทโฟนหน้าจอทัชสกรีน กระทั่งการมาถึงของสมาร์ทโฟนพับได้ สิ่งที่ทุกคนต่างฝันถึง แต่ไม่กล้าฝัน เพราะ Gorilla glass กระจกหน้าจอมือถือที่แข็งขนาดนั้นจะพับหรืองอได้ยังไง จึงมีการหาวัสดุสำหรับหน้าจอที่ยืดหยุ่นกว่ามาใช้ เราถึงได้เห็นสมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกในปี 2018 จากบริษัทที่ชื่อว่า Royole กับ Royole Flexpai แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องระบบ ทั้งหน้าจอมีรอยนิ้วมือชัดเจน และไม่สามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้ อินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้งานก็ไม่ค่อยเวิร์ก

 

แต่หลังจากนั้นไม่นาน Samsung และ Huawei ก็ได้เปิดตัวโทรศัพท์พับได้ในชื่อ Galaxy Fold และ Mate X ออกมา ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง แต่ก็ยังเจอปัญหารอยพับแตกเมื่อพับบ่อย ๆ และ Samsung กับ Huawei ก็ได้กลับไปพัฒนามือถือจอพับได้จนสามารถใช้งานได้ดีขึ้น และต่อมาก็มีหลายแบรนด์เริ่มพัฒนารอยพับหน้าจอให้เห็นน้อยที่สุดเลื่อนฟีดได้ไม่สะดุด บวกกับผลสำรวจพบว่า คน Gen Z โหยหายุค 1990 และ 2000 และความวินเทจ  ทำให้สมาร์ทโฟนพับได้กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง

 

และการที่ค่ายมือถือดึงสมาร์ทโฟนพับได้กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง ถือเป็นการใช้ Nostalgia Marketing เพื่อให้คนในเจเนอเรชันต่าง ๆ รำลึกถึงอดีตอันหอมหวาน ตอนที่ยังเด็กหรืออยู่ในวัยหนุ่มสาว เชื่อมโยงความทรงจำของพวกเขาเข้ากับสิ่งต่าง ๆ ด้วยสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เช่น การเปิดตัวโค้กขวดที่ออกแบบขวดเป็นรูปทรงคลาสสิกอีกครั้ง ของ Coca-Cola หรือการนำ Wall’s Viennetta กลับมาวางขายในไทยอีกในปี 2020 หลังจากเคยวางขายในปี 1996 ทำให้วัยรุ่นยุค 90 อยากสัมผัสรสชาติของมันอีกครั้ง อีกทั้งซีรีส์ Horror/Sci-Fi อย่าง Stranger Things ที่เซตติ้งอยู่ในยุค 80 สะท้อนภาพชีวิตในยุคนั้น ทั้งแฟชั่นเสื้อลายทาง จักรยาน บอร์ดเกม เพลง Running Up That Hill (A Deal with God) สามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างล้นหลาม หรือแม้กระทั่งหูฟังสไตล์ Y2K ซึ่งเป็นแฟชั่นที่ย้อนกลับฮิตมาอีกครั้งที่ ‘Business+’ เคยพูดถึงไปแล้วก็เช่นกัน แบรนด์ต่าง ๆ ทำการตลาดด้วยการพาผู้คนกลับสู่วัยเด็กที่โหยหา ทำให้นึกถึงความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อแบรนด์ และหวนคิดถึงความรู้สึกอบอุ่นที่โอบล้อมเราเมื่อนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ  เหล่านั้น สมาร์ทโฟนพับได้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้ย้อนกลับไปในยุคที่โทรศัพท์ฝาพับรุ่งเรือง ได้ยินเสียงเวลาพับปิดโทรศัพท์ที่คุ้นเคย แม้จะเป็นรูปลักษณ์ที่คุ้นเคยแต่ก็ผสานด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั่นเอง

 

อีกประเด็นที่เป็นที่พูดถึงกันมากสำหรับสมาร์ตโฟนพับได้ คือเรื่องของราคา เพราะราคาสมาร์ทโฟนพับได้ค่อนข้างสูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป จึงยังเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งทาง Samsung เองก็ปล่อย Galaxy Z Fold 4 ออกมาสำหรับตลาดไฮเอนด์ และส่ง Galaxy Z Flip 4 มาในราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งสามารถกางออกมาขนาดเท่าสมาร์ทโฟนทั่วไป เพื่อดึงคนให้เปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนพับได้ และปูทางไปสู่การขาย  Galaxy Z Fold 4 ที่ขนาดใหญ่และแพงกว่า โดยมีฟังก์ชันคล้ายแท็บเล็ตแต่พับได้ สามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้ พกพาสะดวกกว่า จึงมีการคาดการณ์ว่าตลาดสมาร์ทโฟนจอพับได้จะดุเดือดมากยิ่งขึ้นในปี 2023  และวันนี้ ‘Business+’ จะพาไปดูราคา 5 มือถือจอพับได้ที่ฮอตที่สุดในเวลานี้

ที่มา : geeksforgeeks, cnet, counterpointresearch, squareup

 

เขียนและเรียบเรียง : สีน้ำ แผ่วฉิมพลี

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

 

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #สมาร์ทโฟนพับได้ #FoldableSmartphone #Samsung #Huawei #OppoFindN2Flip #GalaxyZFold4 #GalaxyZFlip4 #GenZ #Smartphone #สมาร์ทโฟน